พล.ต.อ.อดุลย์ ภูมิใจ นั่งแท่น ผบ.ตร. คนใหม่





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

          เคาะแล้ว! ก.ต.ช. ลงมติเอกฉันท์เลือก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ด้านเจ้าตัวเผยภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้รับตำแหน่ง

          วานนี้ (16 กรกฎาคม) ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ในการประชุมสรรหาผู้มาดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยทางคณะกรรมการ ก.ต.ช. ได้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 11 คน และได้เสนอชื่อ "พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว" ทั้งหมด 10 เสียง ส่วนนายกรัฐมนตรีงดออกเสียง ซึ่งหลังจากนี้ 2 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรี จะเสนอชื่อของ "พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว" ทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ต่อไป

          ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นไปได้ที่จะแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อเป็นการปลอบใจหลังพลาดเก้าอี้ ผบ.ตร. ว่า วันนี้เร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเพิ่งประชุม ก.ต.ช. เพื่อแต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ตร.ไปเมื่อวาน ก็คงต้องดูความพร้อมในหลาย ๆ ส่วนประกอบกัน และคงต้องมีการหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง
 
          ส่วนการแต่งตั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โดยหลักได้ดูภาพรวมของบุคคลที่มีความอาวุโสทั้งหมด ทั้งในส่วนของคุณสมบัติของความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ความทุ่มเท ในภารกิจที่รัฐบาลต้องการทำงานที่ต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะนโยบายด้านยาเสพติด การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งหลายคนก็เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็มีความเห็นว่า พล.ต.อ.อดุลย์เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุด

          ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกในการได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า ตนรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกในครั้งนี้ แต่ทั้งนี้ตนก็ต้องขอให้มีการโปรดเกล้าฯ เสียก่อน ถึงจะพูดถึงแนวทางนโยบายเรื่องยาเสพติด และเรื่องอื่น ๆ

          อย่างไรก็ดี สำหรับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านความมั่นคง และรักษาการเลขาธิการ ป.ป.ส. อาวุโสอันดับ 3 นักเรียนนายร้อยตำรวจ 29 เกษียณอายุราชการ ปี 2557 เคยผ่านงานสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การปราบปรามยาเสพติด และการควบคุมฝูงชน จนเป็นที่ยอมรับในความสามารถอย่างกว้างขวาง


ประวัติการทำงานและผลงาน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว

         พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด


         จบการศึกษาระดับปริญญาตรี  รป.บ.(ตร.) จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2519 (นรต.29)
         ระดับปริญญาโท  ศศ.ม.( พัฒนาสังคม ) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปี 2533

ฝึกอบรมเพิ่มเติม

         โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตร ฝ่ายอำนวยการตำรวจ ชุดที่ 6 ปี 2525
         วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 33 ปี 2534
         สถาบันพัฒนาข้าราชการตำรวจ หลักสูตรการบริหารงานตำรวจชั้นสูง  รุ่นที่ 15  ปี 2538
         วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 42 ปี 2542
         สถาบันวิทยาการตลาดทุน หลักสูตร ผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 5 ปี 2550
         วิทยาลัยการยุติธรรม หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 15  ปี 2553-2554
         มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตร ความเป็นเลิศของนักบริหาร  ปี 2538 
   
      
การดำรงตำแหน่ง : ( เริ่มรับราชการตั้งแต่ เมษายน 2519 )

         รองสารวัตรสืบสวนปราบปราม สน.ปทุมวัน
         ผู้บังคับหมวดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จังหวัดนครพนม
         สารวัตรสืบสวนปราบปราม สภ.อ.เมืองมุกดาหาร
         สว.กิ่ง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
         สารวัตรสืบสวนปราบปราม สภ.อ.นิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร
         ผบ.ร้อย 4 กก.1 รร.นรต.
         หน.ผ.3 ( ยุทธการ ) กก.ตชด.13 อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี
         รอง ผกก.อก.ตชด.ภาค 1
         รอง ผกก.2 สสน.ตชด.
         อาจารย์ภาควิชาทหาร และการฝึก กก.2 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ( อัตรา พ.ต.อ. )
         รอง ผบก.ตชด.ภาค 1
         ผบก.ผง.1 สนผ.
         ผบก.จร. บช.น.
         ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
         รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
         ผู้บัญชาการ ภ.3
         ผู้บัญชาการ ภ.9  / ผบ.ศปก.ตร.สน. / รอง ผอ.สสส.จชต.
         ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.9  / ผบ.ศปก.ตร.สน.
         ที่ปรึกษา (สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ) (อัตรา พล.ต.อ.) และกำกับดูแลการแก้ปัญหาความไม่สงบใน จชต.
         รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (1 ตุลาคม 2553 – ปัจจุบัน)
         เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (1 ตุลาคม 2554 – 30 กันยายน 2555)
     (ผ่านงานทั้งด้านปฏิบัติการ และฝ่ายอำนวยการของตำรวจภูธร, นครบาล และตระเวนชายแดน)

เกียรติประวัติและผลงานที่สำคัญ

         สมัครใจไปปฏิบัติงานในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลและมีสถานการณ์การก่อการร้ายรุนแรง ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อปี 2520

         ปราบปราม ผกค. และมีผลการปะทะ จำนวน 42 ครั้ง

         เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 1

         รางวัลสถานีตำรวจดีเด่น ปี 2527, 2528 จาก บก.ภ.6 และ บช.ภ.2 ( เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสถานีตำรวจ สภ.กิ่ง อ.หว้านใหญ่ฯ และสภ.อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร )

         รางวัลนายตำรวจดีเด่น บก.ภ.6 ปี 2527

         รางวัล "คนไทยตัวอย่าง ประจำปี 2527" จากมูลนิธิธารน้ำใจ

         เป็นอาจารย์พิเศษ และ ผู้ทรงคุณวุฒิ รร.นรต.ตั้งแต่ 2528 - ปัจจุบัน

         ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจจราจร เป็นกรณีเร่งด่วน เมื่อ 30 เมษายน 2541  เพื่อเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ในการบริหารงานของ บก.จร. และ สามารถแก้ไขปัญหากอบกู้สถานภาพของ บก.จร.จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

         ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการอำนวยความสะดวกการจราจรในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ (2542) และการประชุมอังค์ถัด (2543)  ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

         ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัยและการจราจรในการประชุมผู้นำเอเปค 2003  ณ กรุงเทพฯ ระหว่าง 20-23 ตุลาคม 2546 ที่ กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับคำชมเชยในผลการปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง  

         ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด บช.น. (ศตส.บช.น.)  ในช่วงปฏิบัติการพลังแผ่นดิน ครั้งที่ 1 (8 มีนาคม - 5 มิถุนายน 2547)  มีผลการจับกุมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของ ตร.ได้รับโล่เกียรติคุณ จากนายกรัฐมนตรี ในฐานะองค์กรที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2547

         ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 2 ครั้ง รวมระยะเวลา 3 ปี 2 เดือน (ในช่วงที่มีสถานการณ์รุนแรงมาก) ดังนี้

ครั้งที่ 1   - ดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.9/ผบ.ศปก.ตร.สน. เมื่อ 1 มิถุนายน 2548-30 กันยายน2549
            - ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.ผบช.ภ.9/ผบ.ศปก.ตร.สน.เมื่อ 1 ตุลาคม 2549 - 25 กุมภาพันธ์ 2550

ครั้งที่ 2  ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร./ผบ.ศปก.ตร.สน. เมื่อ 5 ตุลาคม 2550-28 กุมภาพันธ์ 2552


         คณะกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ ปี 2549

         ได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐให้เป็น "ตำรวจแห่งปี" ในปี 2550

         ได้รับการตั้งฉายาจากสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ดังนี้
      
             - ประจำปี 2551 ได้รับฉายา   "มือปราบดับไฟใต้"
             - ประจำปี 2552 ได้รับฉายา   "วีรบุรุษด้ามขวานทอง"

         ได้รับประกาศเกียรติคุณจาก สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะเป็น "ผู้ปฏิบัติงานด้วยจิตวิญญาณ  เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน และเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของประเทศชาติ"  ในปี 2552

         ได้รับการคัดเลือกให้เป็น "พลเมืองคนกล้า" ของสถาบันสัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปี 2552

         ได้รับการคัดเลือกเชิดชูเกียรติให้เป็น "เกษตรศาสตร์ ปราดเปรื่อง" รุ่นที่ 9 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปี 2553

         ได้รับพระราชเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสูงสุดของตำรวจมาเลเซีย  จากสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ในปี 2554

         ได้รับการเลือกให้เป็น สุดยอด CEO ของภาคราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำปี 2554  ในอันดับ 3  (คะแนนร้อยละ 53 เพราะเป็นสุดยอดของผู้นำหัวใจแกร่ง กล้าหาญ เสี่ยงชีวิต เป็นตำรวจในอุดมคติตัวจริง ไม่สร้างภาพ เป็นความหวัง ลดปัญหายาเสพติดในสังคมไทย)  จากการสำรวจของสำนักวิจัยเอแบคโพล โดย  สุ่มตัวอย่างจากกลุ่มธุรกิจ SME ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2554 – 2 มกราคม 2555


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พล.ต.อ.อดุลย์ ภูมิใจ นั่งแท่น ผบ.ตร. คนใหม่ โพสต์เมื่อ 17 กรกฎาคม 2555 เวลา 11:16:43 3,553 อ่าน
TOP
x close