ฝากขัง 2 โจรทุบนักร้องเคพีเอ็น ต่อศาลแล้ว (ไอเอ็นเอ็น)
ตำรวจ สน.พหลโยธิน นำตัว 2 โจรทุบนักร้องดังเคพีเอ็น ฝากขังต่อศาลผลัดแรกแล้ว ศาลอนุมัติให้ฝากขังได้ ขณะมีผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มที่ สน.พหลโยธิน
วันนี้ (20 กรกฎาคม) พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัว นายเอ็ม อายุ 18 ปี และ นายป๊อบ ยะวงศ์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ มายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลอาญา รัชดา ผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน นับจากวันนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ จากกรณีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ร่วมกันกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 2 คน คือ นายมอส (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และ นายโจ้ (ไม่ทราบอายุและชื่อนามสกุลจริง) ก่อเหตุปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย นายธรรมภาคย์ ซี หรือ บี้ อายุ 20 ปี และนายอนุรักษ์ บุญเพิ่มผล หรือ บอม อายุ 25 ปี 2 นักร้อง สังกัดค่ายเคพีเอ็น
ทั้งนี้ ในท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และผู้ต้องหาได้ก่อเหตุหลายครั้ง และหลายพื้นที่ รวมถึงมีผู้เสียหายเดินทางเข้าชี้ตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอีก 2 ราย จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ก่อน ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
ขณะที่ นายธนพล เกลื่อนเมฆ อายุ 28 ปี พิธีกรรายการ เอ็มวี วาไรตี้ ทางเคเบิ้ลทีวี และคอลัมนิสต์ นิตยสาร เยส ออร์ โน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม และชี้ตัว นายทวุฒิ ประภัสสร หรือ เอ็ม อายุ 18 ปี และ นายอนุสร ยะวงศ์ หรือ ป๊อบ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ร่วมกันปล้นทรัพย์ 2 นักร้อง เคพีเอ็น อวอร์ด โดย นายธนพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนเดินทางกลับบ้านพักที่หมู่บ้านกลางเมือง ภายในซอยลาดพร้าว 23 จากนั้น ได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ตามมาประกบ และทำทีถามทาง จากนั้น 1 ในคนร้าย ได้พูดข่มขู่ว่ามีทรัพย์สินอะไรให้ส่งมาให้หมด พร้อมกับชกเข้าที่ท้ายทอย 1 ครั้ง เมื่อตนได้สติ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ. หน้าหมู่บ้าน คนร้ายจึงหลบหนีไปโดยที่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป
จากนั้น ได้มาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา และหลังจากเห็นข่าวที่เกิดขึ้นกับ 2 นักร้อง เคพีเอ็น จึงเดินทางเข้ามาชี้ตัวผู้ต้องหา
ทางด้าน พ.ต.ท.วีระ กล่าวว่า หลังจากผู้เสียหายมาให้ข้อมูลความเพิ่มเติม ก็จะทำการสอบปากคำและแจ้งข้อหากับ 2 ผู้ต้องหาเพิ่มเติม อีก 1 สำนวน คือ ร่วมกันพยายามปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ
