โซนี่-เอคโค่ ย้ายโรงงานหนีน้ำท่วม ไม่มั่นใจรัฐบาลเอาอยู่

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

             โซนี่-เอคโค่ ยังไม่เชื่อใจรัฐบาลป้องกันน้ำท่วม ย้ายโครงการจาก จ.อยุธยา ไปตั้งที่จังหวัดอื่น ด้าน รมว.อุตสาหกรรม เผยตัวเงินลงทุนฟื้นฟูกว่า 7.4 หมื่นล้าน

             วานนี้ (6 สิงหาคม) ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวถึงการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อฟื้นฟูการลงทุนจากวิกฤตอุทกภัยครั้งที่ 4 ว่า ได้อนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการฟื้นฟูฯ ตามนโยบายของรัฐบาลรวม 24 โครงการ เงินลงทุนรวม 13,379 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการอนุมัติฟื้นฟูกิจการในพื้นที่เดิม 21 โครงการ มูลค่า 6,601 ล้านบาท และโครงการลงทุนใหม่ในพื้นที่น้ำท่วม 1 โครงการ คือ บริษัท ซันแฟลค (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 675 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา

             ทั้งนี้ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้มี 2 โครงการที่ขอลงทุนในพื้นที่ใหม่ คือ บริษัท โซนี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตกล้องถ่ายรูปดิจิตอล ชุดเลนส์ และชิ้นส่วนสำหรับกล้องถ่ายรูปดิจิตอล เงินลงทุน 5,772 ล้านบาท เดิมตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ย้ายไปตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี  และบริษัท เอคโค่ (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตรองเท้าและชิ้นส่วนชื่อดังจากเดนมาร์ก เงินลงทุน 331 ล้านบาท เดิมตั้งอยู่ที่นิคมสหรัตนนคร จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ย้ายไปตั้งอยู่ที่ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี สำหรับการย้ายออกของ 2 โครงการดังกล่าวนั้น ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์  กล่าวว่า น่าจะเป็นเพราะความไม่มั่นใจในมาตการป้องกันน้ำท่วมจากพื้นที่เดิม

            นอกจากนี้ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า สถิติการยื่นขอรับการส่งเสริมตามมาตรการฟื้นฟูลงทุนจากอุทกภัยทั้งในพื้นที่น้ำท่วมเดิมและพื้นที่ใหม่ จนถึงปัจจุบันมีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมรวม 122 โครงการ วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 74,724 ล้านบาท โดยมาตรการส่งเสริมดังกล่าวจะหมดอายุวันที่ 31 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งให้ที่ประชุมกลับไปทำตัวเลขเม็ดเงินที่แท้จริง ตลอดจนตัวเลขการจ้างงาน เพื่อประเมินว่า นโยบายดังกล่าวสุดท้ายแล้วมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ้างงานในพื้นที่เดิมแค่ไหน รวมทั้งช่วยชดเชยเม็ดเงินที่สูญเสียไปกับน้ำท่วมที่จ่ายไป  4-5 แสนล้านบาทได้เพียงใด ทั้งนี้ หลังจากนั้นทางรัฐบาลจะกลับมาพิจารณาผลการดำเนินงานอีกครั้ง




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก