
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Filmenalin, warest.bloggang.com , nrs-fc.com
ผู้พันต้น หรือ พ.ท.คมกริช อินทรสุวรรณ เสียชีวิตแล้ว ในวัย 41 ปี ด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทั้งนี้ ก่อนเสียชีวิต ผู้พันต้นได้เขียนไดอารี่ออนไลน์ ขอจากไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อวันที่ (10 สิงหาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ท.คมกริช อินทรสุวรรณ หรือผู้พันต้น ผู้ที่รับบทเป็น "ออกพระศรีถมอรัตน์" ในภาพยนตร์ชุดตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ และเป็นเพื่อนสนิทของ ผู้พันเบิร์ด-พ.ต.วันชนะ สวัสดี ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคมะเร็งเลือดขาว ในวัย 41 ปี เมื่อเวลา 12.59 น. หลังจากที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามาเป็นระยะเวลานาน โดยญาติได้รับศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ก่อนที่ ผู้พันต้น จะเสียชีวิต เขาได้เขียนไดอารี่เล่าถึงอาการป่วยของตัวเองไว้ในบล็อกส่วนตัว โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2554 เขาได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า ตัวเองกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในบล็อกส่วนตัว ดังนี้
"ถึง..แฟนนานุแฟนที่รักทุกท่าน
สวัสดีครับ..แฟนนานุแฟนที่รักทุกท่าน ผมห่างหายจากการเขียนบล็อกไปเสียนาน ห่างหายจากการเล่าเรื่องราวอันเกี่ยวข้องกับตัวผมเอง เกี่ยวกับเพื่อน ๆ และภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ไปเป็นเวลาเกือบขวบปี ไม่รู้เหมือนกันว่าผมมัวไปทำอะไรอยู่ ผมเองก็ยังงง ๆ กับชีวิตตัวเองอยู่พอสมควร..
แต่วันนี้ ที่ลุกขึ้นมาอัพบล็อกอีกครั้ง เพราะมันมีเหตุ ซึ่งเหตุที่ว่านี้ ที่เป็นตัวกระชากผมลุกจากเตียงนอนขึ้นมานั่งเขียนบล็อกถึงทุกคนอีกครั้ง..และผมไม่มั่นใจว่า นี่อาจจะเป็น "บล็อกสุดท้าย.." ที่ผมจะได้เขียนถึงทุก ๆ คนรึเปล่า..
ผมยังมีอีกหลายสิ่งที่ยังอยากทำอยู่ในชีวิต แต่วันนี้ ทุกสิ่งอาจจะต้อง หยุด/พัก/จบ..ไว้เพียงเท่านี้ก่อน ก็เนื่องมาจากผม..ติดภารกิจสำคัญ ที่จะต้องเดินทาง..ไปต่อสู้กับเจ้าศัตรูตัวฉกาจ ๒ ตัว ณ รพ.ศิริราช ในวันที่ ๓ ต.ค. นี้..
ก็คือ "บักหำน้อยลิวคีเมีย" และ "ผู้สาวไขกระดูกฝ่อ"
ซึ่งเป็นความบังเอิญกึ่งโชคดีของผม..ที่ทั้งหนุ่มน้อยและสาวสวยทั้งสองคนนี้ ได้เดินทางมาพบผมพร้อม ๆ กัน..มันเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ!! คุณหมอบอกผมแบบนั้น..ซึ่งเป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับผม :P
แผนการรับมือที่ดีที่สุดที่ผมมีในตอนนี้ ก็คือ "คีโม" และเป็นด่านแรก..ที่ผมจะต้องผ่านไปให้ได้" ^^ ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่ยากที่สุด..ในการทำศึกครั้งนี้เสียด้วย เพราะภาวะไขกระดูกฝ่อ ซึ่งทำให้ร่างกายไม่สร้างเม็ดเลือด และเมื่อรับ "คีโม" เข้าไปแล้ว ไขกระดูกมันคงจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่..ก็คงต้องมาลุ้นกันดูว่าหลังจาก "คีโม" ร่างกายผมจะสามารถกลับมาสตาร์ทติดรึเปล่า..
ไขกระดูกมันจะยอมยกเลิกการนัดหยุดงาน แล้วกลับมาสร้างเม็ดเลือด..ให้ผมได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกมั๊ย..ซึ่งถ้า..โชคดี ยังพอสตาร์ทติดได้ ก็ถึงคิวที่ "ติ๊ก" น้องสาวสุดที่รักของผมจะต้องเจ็บตัว!! ก็คือ จะต้องมาเจาะไขกระดูก เพื่อตรวจความเข้ากันได้เตรียมการปลูกถ่ายให้ผม..นั่นเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวผม..ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้..
ชีวิตก็เป็นเช่นนี้หล่ะคับ..ทุกข์บ้าง สุขบ้าง เศร้าบ้าง เซ็งบ้าง..!!
ชีวิตผมเป็นเช่นนี้เสมอ..
ผมก็รู้สึกเซ็งนิดหน่อย กับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่..แต่ก็จะพยายามเดินผ่านมันไปให้ได้..เพราะเรื่องยอมแพ้ง่าย ๆ สำหรับผมเป็นไม่มีอยู่แล้ว
เอาว่ะ!! อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..ผมก็จะสู้..จนสุดลมหายใจ..
ปล.ขอบคุณแฟนนานุแฟนทุกคน ที่เหนียวแน่น 555 เจ้าของบล็อกไม่อัพก็ยังเวียนเข้ามากันอย่างสม่ำเสมอ..ทำไมผมรู้? เพจวิวมันฟ้องน่ะ!!!! เพราะผมก็แอบเข้ามาดูแบบสม่ำเสมอเหมือนกันน่ะสิ
จนกว่าเราจะได้พบกัน ผมรักคุณนะ :)
"ความอดทนเป็นสิ่งที่ขมขื่น แต่ผลของมันหวานชื่นเสมอ"
พ.ท.คมกริช"
ขณะที่เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้พันต้นก็ได้เขียนเรื่องราวในการรักษาตัวของเขาอีกครั้ง ผ่านไดอารี่ที่บล็อกส่วนตัว เก้าทัพ ดังนี้...

"10 เดือน กับการต่อสู้กับลิวคีเมีย...
สวัสดีครับ..แฟนนานุแฟนที่รักทุกคน ผมไม่เคยคิดฝัน ว่าจะได้กลับมาเขียนบล็อกถึงเพื่อน ๆ อีกครั้งในวันนี้ 10 เดือน เต็ม ๆ ที่ผมต้องเข้าออกรพ. ใช้เวลาต่อสู้ หาหนทางเอาชนะ "ลิวคีเมีย" ใช้ทรัพยาการทุกอย่างที่มีอยู่ ทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะชนะเจ้าโรคร้ายนี้ให้ได้
แต่แล้วในที่สุด ผมก็ต้องยอมกับอย่างภาคภูมิ ว่าไม่สามารถเอาชนะมันได้.. คำพูดสุดท้ายของคุณหมอที่ รพ.จุฬา บอกกับผมก็คือ "ร่างกายผมไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัด ไม่มีหนทางใดที่จะรักษาลิวคีเมียของผมอีกต่อไปแล้ว"
เหมือนฟ้าฝ่าลงกลางใจในตอนที่ผมได้ยิน แต่หลังจากนั้นผมก็ได้แต่ยิ้มให้กับชะตากรรมของตัวเอง และบอกตัวเองว่า ไม่ว่าผมจะมีเวลาเหลืออีกสักเท่าไหร่ผมก็จะไม่ยอมแพ้.. ผมก้มหน้ายอมรับความจริงที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่อย่างยากเย็น
แต่เมื่อชีวิตถูกลิขิตให้เป็นแบบนี้ จะมามัวเอาแต่ฟูมฟายเสียใจ จมอยู่กับความทุกข์และความโชคร้ายที่ได้รับ ก็คงเสียชื่อที่เกิดเป็นทหารจนสิ้น สิ่งที่ผมคิด จากวันที่ได้ยินคำพูดของหมอก็คือ ผมจะใช้เวลาที่เหลือของผม ให้คุ้มค่าที่สุด มุ่งทำประโยชน์ให้ สังคม และคนรอบข้างให้ได้มากที่สุด เท่าที่กำลังกายและกำลังใจผมจะอำนวย..
..วันใดที่หมดเวลาของผมแล้ว ผมก็จะจากไปด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนเต็มใบหน้าฝากไว้ในใจให้ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่รักผม ได้จดจำจนว่าจะลืมกัน..
พ.ท.คมกริช"
อย่างไรก็ตาม ข้อความในไดอารี่ส่วนตัวดังกล่าวของผู้พันต้น ได้แปะเพลง "ฤดูที่แตกต่าง" ของบอย โกสิยพงศ์ พร้อมกับรูปในขณะที่เขาอยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วย

สำหรับ ผู้พันต้น หรือ พ.ท.คมกริช อินทรสุวรรณ เป็นชาวอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2514 เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว มีน้องสาว 1 คน ชื่อ ติ๊ก จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ตท.32 จปร.43 ปัจจุบันรับราชการทหารที่กองพันทหารราบ 11 กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ผู้พันต้น มีผลงานทางการแสดงมากมาย ทั้งงานเพลง โดยได้ร้องเพลง "เดือนอับแสง" ประกอบละคร "แรงฤทธิ์พิศวาส", ร้องไกด์เพลง "กว่าจะรู้ตัว" ในละครเรื่อง "ธิดาซาตาน", ร้องไกด์เพลง "เท่าไหร่ถึงจะพอ" ละครเรื่อง "เขาหาว่าหนูเป็นเจ้าหญิง"
ส่วนผลงานด้านภาพยนตร์ ผู้กองต้นได้รับบท "ออกพระศรีถมอรัตน์" ในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 และตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3-4 รวมทั้งเคยแสดงละครชุดชีวิตจริง 84000 และละครเทิดพระเกียรติ "แด่ .. ทหารกล้า"
กระปุกดอทคอมขอไว้อาลัยในการจากไปของ ผู้พันต้น ด้วยนะคะ ขอให้วิญญาณไปสู่สุคติด้วยเทอญ
คลิป UNSEEN TONY โพสต์โดย คุณ komkrit3243 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป คมกริช กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง โพสต์โดยคุณ mimpeter สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป เท่าไหร่ถึงจะพอ โพสต์โดยคุณ komkrit3243 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป ถูกแล้ว โพสต์โดยคุณ komkrit3243 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป ถูกแล้ว โพสต์โดยคุณ komkrit3243 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







