x close

วิธีบอกลานิสัยพูดขอโทษแบบพร่ำเพรื่อ





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            การเอ่ยคำ "ขอโทษ" ในยามที่เราทำผิดพลาดพลั้งไป เป็นมารยาทที่ควรกระทำก็จริงอยู่ แต่ถ้าหากคุณใช้คำว่า ขอโทษ บ่อยเกินไป และใช้ไม่ถูกกับเรื่องบางเรื่องบางสถานการณ์ ก็คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ เพราะการพูดแบบพร่ำเพรื่อ นอกจากจะทำให้คำว่า "ขอโทษ" ของคุณดูไม่มีความหมายในสายตาของคนอื่นแล้ว ยังทำให้คุณดูเป็นคนไม่จริงใจด้วยล่ะ แต่ถ้าทำผิดแล้วไม่ขอโทษก็จะยิ่งแย่ไปกันใหญ่น่ะสิ งั้นลองมาดูวิธีแก้กันดีกว่าว่า จะทำอย่างไรให้เราไม่ต้องพูดขอโทษบ่อยกว่าที่ควรจะเป็น...


1. มั่นใจเข้าไว้


            สิ่งที่ทำให้คุณต้องพูดขอโทษบ่อย ๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า คุณไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้ งั้นต่อจากนี้ก่อนที่คุณจะพูดอะไรออกไปก็ควรเรียบเรียงประโยคเอาไว้ในหัวคุณซะก่อน ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเมื่อไหร่ เพราะวิธีนี้ก็จะช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจสารที่คุณต้องการจะสื่อได้ง่ายขึ้น

2. ฟังเสียงจากข้างใน

            คุณอย่าคิดว่าการพูดขอโทษตลอดเวลานั้น จะทำให้ตัวคุณเองดูน่ารักขึ้น เพราะจริง ๆ แล้วการกระทำเช่นนั้น ทำให้คนรอบข้างรำคาญคุณซะมากกว่า ที่สำคัญยังทำให้ตัวคุณเองดูเป็นคนไม่จริงใจอีกด้วย ฉะนั้นคุณควรเก็บคำขอโทษเอาไว้ใช้ในเรื่องที่จำเป็น เพราะคำขอโทษที่มาจากใจนั้น ดูจริงใจและน่าฟังกว่าคำขอโทษที่ทำไปตามมารยาทตั้งเยอะ

3. ซื่อสัตย์กับตัวเอง

            สาเหตุที่ทำให้คุณต้องคอยขอโทษคนอื่นอยู่ตลอดเวลานั้น เพราะคุณกำลังปกปิดบางอย่างอยู่หรือเปล่า บางอย่างที่คุณไม่อยากให้คนรอบข้างรู้ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าความลับไม่มีในโลก สักวันบางอย่างที่คุณกำลังปกปิดก็ต้องถูกเปิดเผยอยู่ดี และเมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาอาจจะไม่ให้อภัยคุณก็ได้ ฉะนั้นสิ่งที่คุณควรทำก็คือ ซื่อสัตย์กับตัวเอง และคนรอบข้าง อย่างน้อยคุณก็ควรบอกความจริงกับครอบครัว เพื่อน หรือคนที่คุณไว้ใจ เพราะคุณจะได้ไม่ต้องคอยขอโทษพวกเขาบ่อย ๆ ยังไงล่ะ

4. หัดพูดคำว่า "ไม่"

            คุณควรพึงระลึกไว้เสมอว่าคุณไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ดังนั้นเมื่อมีคนขอร้องให้คุณช่วยทำอะไรสักอย่าง ถ้าคุณไม่สามารถทำได้ หรือไม่มีเวลาพอที่ทำให้ ก็บอกปัดไปบ้าง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตำหนิว่าคุณไม่มีน้ำใจซะหน่อย ดังนั้นก็ไม่ต้องคิดมากถ้าคุณอยากจะปฏิเสธสิ่งที่คุณไม่อยากทำไปบ้าง เพราะถ้าคุณไปตกปากรับคำแล้วทำไม่ได้ หรือทำให้ไม่ทัน ก็อาจจะต้องมานั่งขอโทษขอโพยกันอีกน่ะสิ

5. พูดขอโทษในเวลาที่เหมาะสม

            คุณอาจจะทำความรู้จักกับมัน ให้มากขึ้นจากการสังเกตุพฤติกรรมของคนรอบข้างก็ได้ ลองสังเกตว่าพวกเขาพูดขอโทษในสถานการณ์แบบไหน แล้วคุณก็ลองทำตาม แล้วเมื่อสถานการณ์นั้นเกิดขึ้นกับตัวคุณ คุณก็ลองพิจารณาดูว่าในสถานการณ์นั้น คุณควรจะพูดขอโทษหรือไม่

6. เก็บคำว่า ขอโทษ เอาไว้ถ้าไม่จำเป็น

            อย่างเช่น เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุสุดวิสัยจริง ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ ในสถานการร์แบบนี้คุณก็ควรเก็บคำขอโทษเอาไว้ เพราะคุณควรรู้ไว้ว่า คุณไม่สามารถจะรับผิดชอบเหตุการณ์ทั้งหมดได้ เก็บคำขอโทษเอาไว้แล้วช่วยกันหาทางออกดีกว่า

7. ไม่ต้องขอโทษถ้าคุณไม่ผิด

            ลองใช้เวลาคิดดูสักนิดว่าคุณเป็นคนผิดจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าคุณเป็นแค่คนคนหนึ่งที่บังเอิญเดินผ่านไปเห็นเหตุการณ์นั้นพอดี หรือบังเอิญไปได้ยินอะไรเข้าซึ่งเมื่อคนภายนอกมองเข้ามาอาจจะเห็นว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จริง ๆ แล้วคุณไม่ได้ผิดอะไรเลยทุกอย่างเป็นแค่ความบังเอิญ ก็ไม่จำเป็นต้องไปรับผิดแทนใคร เดี๋ยวเรื่องทุกอย่างก็เผยออกมาเองแหละ

            คำว่า "ขอโทษ" เป็นคำที่สามารถสร้างมิตรและศัตรูได้ในคำคำเดียว เพราะถ้าคุณพูดขอโทษผิดที่ผิดทาง หรือพูดคำว่าขอโทษพร่ำเพรื่อเกินไป ก็อาจจะทำให้คนอื่นเบื่อหน้าคุณได้ง่าย ๆ เช่นกัน ฉะนั้นก่อนจะเอ่ยคำว่า "ขอโทษ" ออกไป ก็ไตร่ตรอง และพิจารณาสถานการณ์ดูซะก่อนนะคะว่า ตอนนั้นคุณสมควรจะพูดขอโทษจริง ๆ หรือเปล่า





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีบอกลานิสัยพูดขอโทษแบบพร่ำเพรื่อ โพสต์เมื่อ 22 สิงหาคม 2555 เวลา 15:20:55 5,794 อ่าน
TOP