เจาะข่าวเด่น เปิดปมคดียิงลูก ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์








เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น โพสต์โดยคุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

             เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์อุกอาจที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากคนร้ายได้ซิ่งรถยนต์ไปยิง นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา จนเสียชีวิต ทำให้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา รายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 จึงเชิญ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ มาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

             ทั้งนี้ นายชาดา กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ รถของบุตรชายมีคนนั่งมาด้วยกัน 6 คน โดย 2 คนที่นั่งเบาะหลังสุดได้ให้ปากคำกับตำรวจไปแล้ว แต่ยังเหลืออีก 3 คนที่นั่งมาด้วยกันยังไม่ได้เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปากช่อง เนื่องจากทั้ง 3 คนยังเป็นเด็กอยู่ และทางพ่อแม่ก็ไม่กล้าให้ลูกมาที่ปากช่องในตอนนี้ เนื่องจากยังขวัญหนีดีฝ่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เด็ก ๆ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ หากเจ้าหน้าที่จะมาสอบปากคำที่จังหวัดอุทัยธานีก็ยินดี

             เมื่อถามนายชาดาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร นายชาดา อธิบายว่า ในวันนั้น ช่วงขาไป ตนเป็นคนขับรถคันที่เกิดเหตุออกจากรีสอร์ทที่พัก เพื่อไปรับเพื่อนที่ร้านแมคโดนัลด์ตรงถนนมิตรภาพ โดยมีลูกชายนั่งข้าง จากนั้นเมื่อถึงที่หมาย ตนก็เปลี่ยนไปขับรถบีเอ็มของเพื่อนแทน ส่วนลูกชายก็เปลี่ยนมาขับรถคันเกิดเหตุแทน โดยตนขับรถบีเอ็มนำหน้ารถของลูกชายมา ก่อนที่จะแวะร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แล้วขับเข้าไปในถนนที่จะไปวังน้ำเขียว ซึ่งระหว่างนั้นก็ไม่ได้ไปขับรถปาดหน้าใคร และก็ไม่เห็นรถคันอื่นสวนมา หรือแซงขึ้นไปเลย

             ส.ส.ชาดา เล่านาทีระทึกต่อว่า ระหว่างที่ขับรถกลับรีสอร์ทที่พัก จู่ ๆ ก็มีรถกระบะคันหนึ่งแซงรถของตนขึ้นไปแล้วก็หายไป ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรมากก็ขับรถต่อไป จากนั้นไม่นานก็มีรถกระบะแซงขึ้นมาอีก ตนก็เริ่มเอะใจว่าเป็นรถคันเดียวกับที่แซงขึ้นไปครั้งแรกหรือเปล่า ต่อมาก็เห็นว่า รถคันดังกล่าวไปจอดชิดซ้ายเหมือนรอ เมื่อตนขับรถผ่านไป รถคันนั้นกลับขับตามตนมาและแซงรถของตนและลูกชายอีก ก่อนจะไปจอดรอที่ฝั่งซ้ายอีกครั้งตรงบริเวณหน้ารีสอร์ท ตนก็ขับเลยไปอีก

             นายชาดา เล่าอีกว่า หลังจากขับรถผ่านรถคันดังกล่าวไปแล้ว ตนเริ่มคิดในใจว่า หากรถคันนี้จะมาแซงอีก ก็คงจะไม่ให้แซงแล้ว เพราะดูท่าไม่ค่อยดี กระทั่งขับมาถึงทางโค้งตรงใกล้จุดเกิดเหตุ รถคันดังกล่าวก็วิ่งมาแซงรถลูกชาย และกำลังจะแซงรถของตนเอง ตนเลยกระชากรถหนี เพราะดูสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจแล้ว การขับหนีตอนนั้นทำให้รถของตนเกือบจะแหกโค้งเหมือนกัน เพราะทางช่วงนั้นเป็นโค้งพอดี แต่เมื่อตนขับรถผ่านไปได้ 2 โค้ง หันไปมองข้างหลังกลับไม่เห็นรถคันดังกล่าวตามมา ตนจึงวนรถกลับ เพื่อจะไปดูลูกชาย ซึ่งระหว่างที่ตนกลับรถ ก็เห็นรถคันดังกล่าวขับช้า ๆ ลักษณะไหลมาและไม่เปิดไฟหน้า จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น 2-3 นัด แต่ตนไม่เห็นแสงจากกระบอกปืน





             ส.ส.อุทัยธานี ตั้งข้อสังเกตว่า ตอนที่เขากลับรถแล้วสวนกับรถกระบะคันดังกล่าว เขาเห็นคนประมาณ 2 คนนั่งอยู่ที่ท้ายกระบะด้วย ต่างจากตอนที่รถคันนี้จอดชิดซ้ายรอรถของเขา 2 ครั้ง ตอนนั้นไม่มีคนอยู่ที่กระบะท้าย กระทั่งกลับรถมาได้ เขาก็รีบไปดูรถของลูกชาย พบว่าลูกชายถูกยิง จึงรีบนำลูกขึ้นรถพาไปโรงพยาบาลทันที

             "คือผมพูดด้วยความเป็นธรรมนะครับ ตอนขับรถออกมา เรามีการสวนรถ แซงรถเป็นปกติ ซึ่งตรงนั้นเราจะไปอะไรใครเราไม่ทราบได้ แต่มันก็ไม่มีเหตุการณ์ที่ใครมาอะไรไม่พอใจ ในรถก็เป็นเด็ก ๆ ลูกหลานทั้งนั้น ก็คุยกันสนุกสนานเฮฮา"
นายชาดา กล่าว พร้อมระบุว่า ในช่วงขาไป ตนเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ ยืนยันว่า ตอนขับรถก็ไม่ได้ไปกระทบกระทั่งกับใครบนท้องถนนแน่ ๆ แต่เราไม่รู้ว่าได้ไปสร้างความไม่พอใจให้ใครหรือเปล่า ตรงนี้เราไม่ทราบได้ ซึ่งหากจะเกิดเรื่องก็ควรจะเกิดตั้งแต่ขาไปแล้ว


             ทั้งนี้ ส.ส.ชาดา ยอมรับว่า มีช่วงหนึ่งที่ตนเลี้ยวรถไปผิดทาง คือเลี้ยวซ้ายเข้าไป และช่วงนั้นก็มีรถกระบะขับออกมาจากทางแยกแล้วเลี้ยวขวาออกไป ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เมื่อตนเห็นว่าขับรถผิดทางก็กลับรถออกมา ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากนั้น ก็ไม่ได้มีปัญหากระทบกระทั่งกับรถคันไหนเลย



             เมื่อถามว่า ส.ส.ชาดา ไม่เชื่อหรือว่าคนที่ลงมือคือจิ๊กโก๋ท้องถิ่น ส.ส.ชาดา ระบุว่า ไม่ใช่ไม่เชื่อ ตนก็ภาวนาให้เป็นจิ๊กโก๋ท้องถิ่น เพราะตำรวจจะได้ตามจับได้ไม่ยาก อีกอย่าง ตรงบริเวณนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยว หากปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้บนถนนมันไม่ได้ คือถ้าเขาโกรธหรือโมโหอะไร ทำครั้งแรกแล้วก็น่าจะไปเลย แต่นี้มาวนอยู่สองรอบสามรอบ แล้วพอใกล้จะถึงรีสอร์ทที่ตนเข้าพัก เขาก็รีบก่อเหตุเลย

             "ลักษณะของรถ เป็นรถโหลดเตี้ย มีไฟ เสียงดังมากเหมือนรถท่อแตก ถ้าเป็นต่างจังหวัดน่าจะหาได้ไม่ยาก เพราะรถมันเด่น ผมเองก็อยากให้เป็นอย่างนั้น โดยส่วนตัวก็ไม่ได้มีอะไรกับใคร" นายชาดา กล่าว

             อย่างไรก็ตาม นายชาดา ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุมีพรรคพวกเตือนมาให้ระวังตัว ตนก็บอกไปว่าก็ไม่ได้มีอะไรกับใคร ถ้าเป็นเรื่องการเมืองใหญ่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคู่แข่งของตนด้วยว่า เขาไม่ได้มีนิสัยเช่นนี้ ส่วนลูกชายของตนเป็นคนใจเย็นมาก และเป็นคนเคร่งศาสนา เขาไม่ได้มีอะไรกับใครแน่นอน

             ในด้านการสืบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า มีปืน 3 กระบอกถูกใช้ในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยกระบอกหนึ่งคนร้ายใช้ยิงรถของนายฟารุต กระสุนนัดหนึ่งไปถูกนายฟารุตเสียชีวิต อีกกระบอกหนึ่งมาจากรถของนายฟารุตยิงต่อสู้กับคนร้าย ส่วนอีกกระบอกหนึ่งกำลังตรวจสอบ ซึ่ง นายชาดา บอกว่า เรื่องนี้ตนไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะขับรถเลยไปแล้วถึงกลับรถมา แต่ยืนยันว่า ลูกชายไม่มีศัตรู หรือขัดแย้งกับใคร เขาเพิ่งเรียนจบมา และเพิ่งกลับมาอยู่บ้าน ที่สำคัญคือเป็นคนใจเย็นมาก

             เมื่อถามว่า จริง ๆ แล้วเป้าหมายการลอบทำร้ายครั้งนี้คือตัวนายชาดาเองหรือไม่ ส.ส.อุทัยธานี บอกว่า ถ้าคิดดูก็น่าจะเป็นตัวเขา เพราะได้รับการเตือนมา แต่ถ้าถามว่าตนมีศัตรูอะไรกับใครหรือไม่ ก็ไม่มี อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เวลามีข่าวอะไรบางครั้งตนก็ถูกดึงไปเกี่ยวข้องด้วย อย่างเช่นข่าวผู้กำกับไทรงามเสียชีวิต ตนกลับถูกโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ทั้งที่ตนไม่รู้จักเขา แต่ตอนนั้นตนก็นิ่งเฉย ไม่ได้ออกมาแก้ตัว จนกระทั่งภายหลังจับคนร้ายตัวจริงได้ ก็ไม่มีใครมาขอโทษตนสักคำ

             "ตลอดชีวิตตนถูกใส่ร้ายมาก็ไม่เคยมีใครมาขอโทษ แม้กระทั่งเหตุปล้นธนาคาร ก็มีคนพุ่งเป้ามาที่ผมว่าเป็นเด็กอุทัยธานี แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อผม ผมมาทราบเรื่องนี้หลังจากเกิดเรื่องไปแล้วหลายวัน เพราะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพิมพ์ พอเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วมันไม่ใช่ กลับไม่มีใครมาขอโทษ แถมคนยังมองน่ารังเกียจเข้าไปใหญ่ ทุกวันนี้ทำงานการเมืองก็ไม่ได้คิดอะไรมากแล้ว" ส.ส.อุทัยธานี กล่าว

             อย่างไรก็ตาม นายชาดา เคยพูดไว้ว่า ถ้าจะมีเรื่องไม่ชอบหน้ากันก็คงกับตำรวจระดับสูง ซึ่ง นายชาดา ยอมรับว่า ใช่ เพราะเขาจะด่าฝากมาเรื่อย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เขา ไม่รู้ว่าเขาพยายามจะสร้างตนให้เหมือนเป็นเสือตัวใหญ่ ๆ แล้วทุบทิ้งหรือเปล่า ตนก็ไม่ทราบได้ ทุกวันนี้ ทำงานการเมืองก็ไม่มีอะไรแล้ว ภาพที่ออกมาก็มีแต่คนสร้างให้



             ในตอนท้าย ส.ส.ชาดา ระบุว่า ถ้าคนก่อเหตุเป็นนักเลงท้องถิ่นก็คงจะดีกว่า เพราะเรื่องจะได้จบ แต่ตนก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานไป ตนยินดีให้ความร่วมมือ แต่ต้องหาตัวคนร้ายมาให้ได้ อย่าเอาแพะมา ทั้งนี้ หากผู้ก่อเหตุทำเพราะเหตุบังเอิญ เพราะความโกรธ ความเมา หรืออะไรก็ตาม ตนก็พร้อมให้อภัย เพราะถือว่าลูกชายไปดีแล้ว แต่ถ้าเป็นเหตุลอบทำร้าย ตนก็อยากทราบว่าตัวเองไปทำอะไรให้ใคร

             ส่วนเรื่องที่ประกาศว่าจะให้เวลาเจ้าหน้าที่ 3 เดือน หากไม่มีความคืบหน้าจะลงไปสืบเรื่องนี้เองนั้น ส.ส.ชาดา กล่าวว่า ประเทศไทยไม่ได้กว้าง ตนก็ผ่านชีวิตมามากมาย เรื่องแบบนี้ถ้าตำรวจทำไม่ได้ แล้วตนทำได้ จะว่าอย่างไร

             "ผมไม่ได้จะลงไปแก้แค้นอะไร แต่จะไปสืบ เก็บข้อมูล หาหลักฐานทางการสอบสวน เพราะผมก็อยู่ในวงการนี้เหมือนกัน ถ้าผมลงไปสืบได้ก็อย่ามาว่ากัน ผมก็ให้เวลาเจ้าหน้าที่ คืออย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไป และอย่าหาแพะมา" นายชาดา กล่าวในที่สุด






 
รายการเจาะข่าวเด่น เปิดปมยิงลูก ส.ส.ชาดา โพสต์โดยคุณ  DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม










เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะข่าวเด่น เปิดปมคดียิงลูก ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ โพสต์เมื่อ 24 สิงหาคม 2555 เวลา 11:38:58 7,047 อ่าน
TOP
x close