เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ตำรวจคาด 3 กันยายนรู้ชัด คดียิงลูกชาดา ใครเปิดฉากยิงก่อน เตรียมขอชาดาผ่าศพฟารุต ด้านพี่สาวผู้ต้องหา หวั่น น้องชายถูกอุ้ม ยัน น้องยิงป้องกันตัว ขอตำรวจให้ความเป็นธรรม ขณะที่ชาดาเตรียมแถลงพุธนี้ พร้อมให้อภัยคนยิงลูก
เมื่อวานนี้ (1 กันยายน) นางสมปอง เหล่าจินดาพันธ์ อายุ 46 ปี พี่สาวของ นายมั่น พูลทรัพย์ ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ บุตรชายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา เสียชีวิต ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รู้สึกตกใจมากที่น้องชายเป็นคนก่อเหตุยิงลูกชาย ส.ส.อุทัยธานี ซึ่งน้องชายได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เขาปลอดภัยดี พร้อมกับยืนยันว่า ที่ยิงไปนั้นเป็นการป้องกันตัว
นางสมปอง เล่าต่อว่า ปกติแล้ว น้องชายไม่ใช่คนเกเร อาจจะมีดื่มสุราบ้าง แต่ก็ทำงาน เรื่องที่เกิดขึ้นตนยังไม่กล้าบอกแม่ เพราะแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจ กลัวแม่จะไม่สบายใจ แต่ก็คงไม่คิดไปวิ่งเต้นเรื่องคดี เพราะไม่มีเงินไปสู้เขา ทั้งนี้ ตนอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูเรื่องพยานหลักฐานให้ชัดเจน และให้ความเป็นธรรมด้วย เพราะน้องชายยืนยันว่า ถูกคนในรถนายฟารุตยิงใส่ก่อน เขาจึงต้องยิงป้องกันตัว ตอนนี้ ตนกลัวว่าน้องชายจะโดนอุ้ม เพราะอีกฝ่ายมีอิทธิพล
ขณะที่ในวันนี้ (2 กันยายน) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เปิดเผยว่า จะแถลงข่าว เรื่องที่คนร้ายเข้ามอบตัวกับตำรวจอีกครั้ง ว่า ใช่แพะหรือไม่ ในวันพุธที่ 5 กันยายนนี้ ที่อาคารรัฐสภา เนื่องจากวันดังกล่าวตนเองจะเดินทางเข้าประชุมสภาด้วย ซึ่งในขณะนี้ ส่วนตัวก็ยังอยู่ในช่วงที่ไม่สบาย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวพร้อมให้อภัยคนร้ายที่ยิงบุตรชายเสียชีวิต เมื่อบุคคลดังกล่าว มีความกล้าที่ออกมายอมรับกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ.ธนาวุฒิ เคหะเจริญ ผกก.สภ.หมูสี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการค้นหาอาวุธปืนที่ นายมั่น พูลทรัพย์ ใช้ก่อเหตุว่า หลังจากที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ค้นหาตามจุดที่ผู้ต้องหาได้อ้างว่าโยนอาวุธทิ้งไว้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบแต่อย่างใด เบื้องต้นมีการตั้งรางวัลนำหาพยานวัตถุดังกล่าวไว้จำนวน 10,000 บาท เนื่องจากเป็นไปได้ว่าอาจมีคนเก็บไป และจุดที่ค้นหาอาจไม่ใช่จุดที่ทิ้งปืน
อย่างไรก็ตาม ผกก.สภ.หมูสี กล่าวว่า ในส่วนของสำนวนคดีนั้น พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมารับผิดชอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนสอบสวน ส่วนจะออกหมายจับเพื่อนของผู้ตายข้อหาพยายามฆ่าเมื่อใด ตนไม่ขอก้าวล่วง และขอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวน
ขณะที่ พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องพยายามสอบสวนหาความจริง 3 เรื่องหลัก คือ เรื่องผู้เปิดฉากยิงก่อน ซึ่งจากข้อมูลที่มีก็พอทราบความจริงบางส่วน ประมาณ 70% และต้องรอผลการพิสูจน์ทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ และการตรวจสอบวิถีกระสุน คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (3 กันยายน) น่าจะทราบผล
ขณะเดียวกัน ตำรวจยังข้องใจชนิดกระสุนปืนของ นายฟารุต ซึ่งวันพรุ่งนี้ จะติดต่อกับ นายชาดา เพื่อขออนุญาตผ่าศพนายฟารุต เอากระสุนปืนมาพิสูจน์ให้ชัดเจน ส่วนปืนขนาด 9 ม.ม. ของนายมั่น พูลทรัพย์ นั้น ก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่า ได้นำไปทิ้งในบริเวณบ้านขนงพระ อ.ปากช่อง ตามคำสารภาพ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
