สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
สายสุนีย์ จ๊ะนะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, ครอบครัวข่าว 3
สายสุนีย์ จ๊ะนะ พาวีลแชร์ฟันดาบ คว้า 1 เหรียญทองได้สำเร็จ ขณะที่ บรรหาร ศิลปอาชา ประกาศอัดฉีดทัพกีฬาพิการไทย หากได้ทองรับเพิ่มอีกคนละ 5 แสนบาท
หลังจากนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญต่าง ๆ ได้ในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่จัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ทีมบอคเซียไทยสามารถคว้าเหรียญทอง เหรียญที่ 2 มาได้ โดยนักกีฬาบอคเซียทั้ง 4 คน จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาชาติ คนละ 4 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสด 2 ล้านบาท และ เงินสวัสดิการแบ่งจ่าย 60 เดือน 2 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด วันนี้ (6 กันยายน) ชาวไทยก็ได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อ สายสุนีย์ จ๊ะนะ อีกหนึ่งความหวังลงแข่งขันวีลแชร์ฟันดาบ ประเภท บี ที่ทำผลงานในรอบแรกจาก 5 นัด ชนะ 4 นัด แพ้ 1 นัด ก่อนเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปพบกับ มาร์ตา มาโคว์สกา จากโปแลนด์ ที่เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ ซึ่งสายสุนีย์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะไปได้ 15-5 คะแนน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับ ชาน อุย ชอง จากฮ่องกง และชนะอย่างหวุดหวิด 15-14 คะแนน จากนั้นจึงเข้าสู่รอบชิงเหรียญทอง โดยเจอกับ กับซิโมน เบรียเซ-เบคเกต จากเยอรมัน กระทั่งชนะขาดลอยด้วยคะแนนนำถึง 15-5 จนสามารถคว้าเหรียญทองเหรียญที่ 3 ให้กับทัพกีฬาพาราลิมปิกได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ได้มีรายงานข่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาประกาศว่า เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก เกมส์ 2012 ตนขอสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่ผู้คว้าเหรียญรางวัลทุกประเภท เพราะถือได้ว่าพวกเขาทุกคนแม้จะมีร่างกายพิการแต่มีจิตใจนักสู้ที่เข้มแข็ง ทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวไทยเพื่อสร้างชื่อเสียง และเผยแพร่ธงชาติไทย รวมทั้งขับร้องเพลงชาติไทยสู่สายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจแก่พวกเราชาวไทยทุกคน โดยเงินรางวัลอัดฉีดในครั้งนี้ สำหรับผู้คว้าเหรียญทอง จะได้รับ 5 แสนบาท, เหรียญเงิน 3 แสนบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท
สำหรับตารางสรุปเหรียญ พาราลิมปิกเกมส์ 2012 ล่าสุด ไทย มี 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 34 ส่วน 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับ 1 จีน 53 เหรียญทอง 41 เหรียญเงิน 41 เหรียญทองแดง
อันดับ 2 สหราชอาณาจักร 23 เหรียญทอง 30 เหรียญเงิน 26 เหรียญทองแดง
อันดับ 3 รัสเซีย 23 เหรียญทอง 22 เหรียญเงิน 18 เหรียญทองแดง
อันดับ 4 ยูเครน 20 เหรียญทอง 15 เหรียญเงิน 17 เหรียญทองแดง
อันดับ 5 ออสเตรเลีย 18 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 22 เหรียญทองแดง