เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
จับหมอเขมร เปิดคลินิกเถื่อนรักษานิสิตจุฬาฯ เกียรตินิยมอันดับ 1 จนเสียชีวิต อ้าง ไม่ให้คนไข้ใช้ยาอื่นรักษา ให้ใช้ยาตนเองเท่านั้น
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยนางจันฑนา จินดาถาวรกิจ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข บุกเข้าจับ นางวองท์ ลลิตา อายุ 50 ปี สัญชาติกัมพูชา หลังจากที่นางวองท์ ทำการรักษาโรคด้วยการนวด จนเป็นเหตุให้ น.ส.โมทนา สถาปนาวิสุทธิ์ อายุ 22 ปี บัณฑิตจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1 เสียชีวิตคาคลินิก
ทั้งนี้ ตำรวจ สามารถจับกุมนางวองท์ได้พร้อมของกลางจำนวนมาก อาทิ หินก้อนใหญ่ 1 ก้อน ยาเแฟฟอรัลแกน 35 เม็ด ยาโอบูโปร์เพน 10 เม็ด น้ำมันนวดยี่ห้อโกลเด้นอีเกิ้ล ซึ่งก่อนหน้านี้ นางสาวโมทนามีอาการป่วยด้วยโรคเบาหวาน จึงได้มารักษาตัวที่คลินิกแห่งนี้ โดยนางวองท์ ให้รักษาตามวิธีของตนเองเท่านั้น และไม่ให้คนป่วยรับประทานยารักษาโรคเบาหวาน จนทำให้คนไข้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่สายลับจึงทำทีเข้าไปรักษา และแสดงตัวเข้าจับกุมในที่สุด
ด้านนายไพบูลย์ สถาปนาวิสุทธิ์ อายุ 51 ปี บิดาของนางสาวโมทนา กล่าวว่า บุตรสาวของตนเองกำลังจะเข้ารับปริญญาในเดือนหน้า ขณะนี้ เป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ วิเออลี่ เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์ และกำลังขอทุนเพื่อเรียนต่อปริญญาโท บุตรสาวป่วยด้วยโรคเบาหวานมาตั้งแต่อายุ 14 ปี จนกระทั่ง แม่ของเพื่อนแนะนำให้ไปพบหมอคนนี้ เพราะเห็นว่านับถือศาสนาคริสต์เหมือนกัน เลยพาไป หมอคิดค่ารักษาพยาบาลชั่วโมงละ 2,000 บาท
ครั้งแรกที่มารักษา พบว่าหมอใช้เท้าเหยียบหินก้อนใหญ่แล้วมาเหยียบตามร่างกาย และรักษาไปเรื่อย ๆ จนล่าสุด บุตรสาวหายใจไม่ออก ต้องฉีดอินซูลินเข้าไป แต่หมอเขมรกลับบอกว่า พระเจ้ากำลังเรียงกระดูกให้อยู่ ขอให้ไว้ใจ เชื่อใจ และให้นอนค้างที่คลินิก จนทำให้บุตรสาวเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งผลการชันสูตรพบว่า ในกระเพาะอาหารมีสารสีน้ำตาล 50 ม.ล. แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร และหมอเขมรบอกว่าไม่ให้เอาเรื่อง ตนจึงต้องออกมาร้องเรียนเรื่องราวดังกล่าว
ด้านตำรวจพบว่า นางวองท์ มีลูกค้ามารักษาด้วยวันละ 5-6 ราย และไม่มีใบประกอบโรคศิลป์ จึงแจ้งข้อหาและดำเนินคดีต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก