เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี
ปลอดประสพ จวก กทม. ยับ กรณีเอากระสอบทรายอุดท่อ ตั้งคำถามใครเป็นคนสั่ง และขอให้บอกทุกจุดที่อุด จะสั่งคนไปเอาออก ชี้ กทม. แกล้ง กบอ. เพราะอิจฉา บอกเป็นการแก้ปัญหาทางเทคนิคที่ห่วยแตกที่สุดในโลก บอกอย่าดื้อตาใส ให้เอากระสอบทรายออกภายใน 15 วัน
วานนี้ (8 ตุลาคม) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวกรณีที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ทาง กทม. ไม่ทำการลอกท่อระบายน้ำ และนำกระสอบทรายไปอุดที่ท่อบริเวณหน้าร้านนวดผาแดง ถ.ศรีนครินทร์ โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การนำกระสอบทรายไปอุดกั้นท่อระบายน้ำเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งทาง กทม. นำกระสอบทรายไปอุดที่ท่อบริเวณหน้าร้านนวดผาแดง ถ.ศรีนครินทร์ เนื่องจากจุดดังกล่าวมีปัญหาทางเท้าทรุดตัว จึงนำไปอุดไว้เพื่อไม่ให้ดินและทรายไหลลงไปอุดตันท่อระบายน้ำเป็นการชั่วคราว และกระสอบทรายที่นำไปอุดกั้นนั้น ไม่ได้ลดศักยภาพการระบายน้ำบริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ แต่อย่างใด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าจะอุดท่อแต่ก็ยังสามารถระบายน้ำได้อีก 2 ทาง คือ
1. น้ำที่อยู่ในท่อระบายฝั่งทิศเหนือ จะระบายไปทางบริเวณแยกลำสาลีเพื่อไปลงคลองโต๊ะยอ ซึ่งมีสถานีสูบน้ำคลองโต๊ะยอทำการสูบระบายลงคลองแสนแสบ
2. น้ำที่อยู่ในท่อระบายน้ำฝั่งทิศใต้ จะระบายไปทางด้านสี่แยกกรุงเทพกรีฑาเพื่อไปลงคลองกะจะ โดยมีสถานีสูบน้ำคลองกะจะ บริเวณ ถ.ศรีนครินทร์ สูบระบายลงคลองกะจะต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการขนย้ายกระสอบทรายออกจากท่อระบายน้ำ ตนขอยืนยันว่า กระสอบทรายเป็นกรรมสิทธิ์และเครื่องมือของกรุงเทพมหานคร หากจะทำการเคลื่อนย้าย ขอให้มีการประสานกับกรุงเทพมหานครก่อนทำการเคลื่อนย้าย
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวตอกกลับ ผู้ว่าฯ กทม. ถึงการนำกระสอบทรายไปอุดท่อ โดยขอตั้งคำถาม 3 ข้อ ว่า...
1. ขอให้อธิบายว่า การนำถุงทรายไปใส่ท่อระบายน้ำ เป็นการบริหารจัดการน้ำแบบใด
2. ใครเป็นผู้สั่งให้นำถุงทรายไปใส่ในท่อระบายน้ำ และเหตุใดจึงทำในช่วงที่มีพายุมาก
3. กทม. นำถุงทรายไปใส่ในท่อระบายน้ำที่จุดใดบ้าง ขอให้บอกมาทุกจุด จะไปเอาออก เพราะเป็นการขัดคำสั่ง กบอ. และผิดข้อตกลงระหว่าง กบอ.กับ กทม. ที่ระบุว่า กทม. มีหน้าที่ช่วยระบายน้ำ แต่การเอาถุงทรายไปใส่ท่อระบายน้ำ ไม่ได้ช่วยระบายน้ำ แต่เป็นการขัดขวางการระบายน้ำ ทำให้น้ำไม่ไหล จะสั่งให้ กทม. รื้อถุงทรายออกทั้งหมด พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนฐานขัดคำสั่ง ไม่ทำตามนโยบาย
นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ยังกล่าวอีกว่า กทม. รู้อยู่เต็มอกว่า น้ำท่วมถนนเพราะน้ำไม่ไหลลงคลอง เนื่องจากท่ออุดตัน แต่ กทม. กลับเอาถุงทรายไปใส่ ไม่รู้ว่า กทม. ตั้งใจแกล้ง กบอ. หรือไม่ เราตกใจมากที่เห็นกระสอบทราย แล้ว กทม. ยังอ้างว่า เป็นการแก้ปัญหาทางเทคนิค ทั้งที่ กบอ. ไม่เคยคุยเทคนิคเรื่องนี้กับ กทม. อย่างไรก็ดี ตนชักสงสัยว่าท่านอาจอิจฉาในความสำเร็จของพวกเราที่ร่วมกันทำงาน ถึงได้นำกระสอบทรายมาวางในท่อ หากทำเพราะความอิจฉา แกล้งตนก็พอรับได้ เพราะท่านมองทุกอย่างเป็นเกมการเมือง แต่อยากให้มองไปถึงความเดือดร้อนของประชาชน ขอประณามการกระทำครั้งนี้ ถ้าอ้างเป็นเรื่องเทคนิคก็ถือว่าห่วยที่สุดในโลก เพราะไม่มีเทคนิคอุดท่อระบายน้ำขณะที่น้ำมา
ท้ายนี้ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์พายุแกมีนั้น คาดว่าอีก 1 วันก็คงหมดไป หลังจากนี้จะเริ่มระบายน้ำแล้ว ซึ่งตนหวังว่าภายใน 7 วันทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนพายุอีก 1 ลูกนั้นยังไม่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งวิตก และภายในวันที่ 31 ตุลาคม จะปิดเกมน้ำท่วมประเทศไทย ยกเว้นภาคใต้ที่อาจมีน้ำท่วมจากน้ำป่าไหลหลาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (9 ตุลาคม) นายปลอดประสพ ได้กล่าวเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวว่า การที่ผู้ว่าฯ นำกระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำ โดยระบุว่าเป็นเทคนิคในการป้องกันน้ำท่วม ซึ่งตนอยากจะบอกว่าวิธีป้องกันน้ำท่วมเขาไม่ทำกันอย่างนี้ วิธีที่ถูกต้องเขาต้องนำกระสอบทรายมาวางบ้านบนฟุตบาธหรือถนนในลักษณธแบบบังเกอร์สูง อย่างมากก็ประมาณ 2-3 ฟุต แต่การที่ ผู้ว่าฯ กทม. ทำนั้น ตนจะชี้แจงเป็นข้อ ๆ คือ
1. การโยนลงไปแบบส่งเดชกั้นน้ำไม่ได้
2. กระสอบทรายจะเลื่อนเพราะมีกระแสน้ำ
3. กระสอบทรายจะแตกทรายจะแพร่เสียหายไปหมด
4. เป็นการไปบล็อกทางเดินของน้ำที่มาจากต้นน้ำที่จะไปที่อื่น เพราะฉะนั้นคิดอย่างไรก็ไม่ใช่วิชาการอะไรทั้งนั้นมันเป็นไปไม่ได้
นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า ตนขอย้ำเลยว่า ให้ทาง กทม. มาเอากระสอบทรายออกภายใน 15 วัน หากไม่นำออกจะให้หน่วยงานของรัฐไปเอาออกเอง ซึ่งถ้าอ้างตามกฎหมาย ทางรัฐบาลก็มีสิทธิที่จะดำเนินการใด ๆ ก็ได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และไม่จำเป็นที่จะต้องขอเทศบาลไหน ตำบลไหน จังหวัดไหน ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอยากจะให้ ผู้ว่าฯ กทม. ไปอ่านกฎหมายมาใหม่
นอกจากนี้ นายปลอดประสพ ได้กล่าวเกี่ยวกรณีที่ ทาง กทม. จะมาเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่รื้อกระสอบทรายนั้น ว่า กรณีนี้เรียกว่าดื้อตาใส ทำมึนงง เกิดมาตนไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน แต่หากมีนักวิชาการมาชี้แจง พูดคุยแบบดี ๆ ตนก็พร้อมรับฟังเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก