เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตพระมหากษัตริย์ และอดีตผู้นำของกัมพูชา เสด็จสวรรคตด้วยโรคชราที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน พระชนมายุ 89 พรรษา จีนยกย่องเป็นพระสหายผู้ยิ่งใหญ่ ขณะที่กัมพูชาสั่งลดธงครึ่งเสาไว้อาลัยทั่วประเทศ
วันนี้ (15 ตุลาคม) สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตพระมหากษัตริย์ และอดีตผู้นำของกัมพูชา เสด็จสวรรคตด้วยโรคชรา ขณะทรงมีพระชนมพรรษา 89 พรรษา ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างทรงให้แพทย์ถวายการรักษา
โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกแถลงการณ์ยกย่อง พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่า ทรงเป็นพระสหายผู้ยิ่งใหญ่ของชาวจีน พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระองค์ด้วย
ในแถลงการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนหลายคน รวมถึง นายหยาง เจีย ฉี รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เดินทางไปคารวะพระศพของ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ บริเวณข้างพระแท่นที่พระองค์เสด็จสวรรคต และแสดงความเสียใจต่อสมเด็จพระราชินีโมนิก พระมเหสีของพระองค์
ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาได้สั่งการให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ในจังหวัดอุดรมีชัย และพื้นที่การค้าชายแดน ตลอดทั้งหน่วยงานในประเทศลดธงชาติครึ่งเสา เพื่อเป็นการไว้ทุกข์ ไว้อาลัยแก่สมเด็จพระนโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชา ส่วนการจัดพิธีไว้อาลัยนั้น ทางรัฐบาลเตรียมจะสั่งการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากพระศพเสด็จกลับถึงประเทศแล้ว
พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
สำหรับพระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ นั้น พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2465 ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต แห่งราชสกุลนโรดม และสมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิริวัฒนา แห่งราชสกุลสีสุวัตถิ์ ทรงมีพระนามเดิมว่า "นักองค์ราชวงศ์นโรดม สีหนุ"
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2484 ในวัยเพียง 18 ชันษา หลังจากพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ พระอัยกา (ตา) สวรรคต และเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสเป็นผู้สถาปนาให้พระองค์ดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ เนื่องจากฝรั่งเศสคิดว่าพระองค์ทรงหัวอ่อน โดยทรงได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยว่า "พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ราชหริวงษ์ อุภโตสุชาติ วิสุทธิวงษ์ อัคคมหาบุรุษรัตน์ นิกโรดม ธัมมิกมหาราชาธิราช บรมนาถ บรมบพิตร พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี"
อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ กลับมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการนำพาประเทศกัมพูชาให้เป็นอิสระจากการเป็นเมืองประเทศราชของประเทศฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2496 กระทั่งในปี พ.ศ. 2498 ได้ทรงสละราชสมบัติให้แก่ พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต พระราชบิดา ส่วนพระองค์หันไปเล่นการเมืองเต็มตัว โดยทรงดำรงนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา และจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศขึ้น
จนเมื่อปี พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต พระราชบิดา เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ จึงได้ทรงดำรงตำแหน่งประมุขของรัฐของกัมพูชาโดยไม่ได้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษก และได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่ นายพลลอน นอล จะปลดพระองค์ออกจากตำแหน่ง
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองผ่านพ้นไป ในปี พ.ศ. 2536 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ซึ่งมีพระชนมายุ 70 พรรษา ได้ขึ้นครองราชย์เป็นครั้งที่ 2 หลังจากมีการสถาปนาราชอาณาจักรกัมพูชาขึ้นมาใหม่ พระองค์ทรงครองราชย์ได้ 11 ปี ก็ประกาศสละราชบัลลังก์ให้แก่ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระราชโอรส ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2547 เนื่องจากมีปัญหาทางพระพลานามัย และทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็น "พระมหาวีรกษัตริย์ พระวรราชบิดา เอกราช บูรณภาพดินแดน และความเป็นเอกภาพแห่งชาติเขมร"
ทั้งนี้ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ได้บันทึกให้พระองค์ทรงเป็นนักการเมืองที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมากที่สุดในโลก (The world's greatest variety of political offices) โดยทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา 2 สมัย ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ 2 สมัย (ตำแหน่งพระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้รับการบรมราชาภิเษก) ประธานาธิบดี 1 สมัย นายกรัฐมนตรี 2 สมัย และประมุขแห่งรัฐของรัฐบาลพลัดถิ่นของพระองค์เองอีก 1 สมัย
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ด้วยพระโรคชรา มีพระชนมพรรษา 89 พรรษา ทรงมีพระราชโอรส และพระราชธิดา รวม 14 พระองค์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
