

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปิดการประมูล 3 จี 2.1 GHz เคาะราคาทั้งหมด 7 รอบ 3 ผู้ให้บริการคว้าใบอนุญาตด้วยมูลค่าทั้งหมด 41,625 ล้านบาท ขยับจากราคากลาง 1,125 ล้านบาท

ในช่วงเช้าของวันนี้ (16 ตุลาคม) บรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่จะมีการประมูลคลื่นความถี่ 2.1GHz หรือ 3G เป็นไปอย่างคึกคัก โดยทางคณะกรรมการ กสทช. ได้มีการบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในพื้นที่ เพื่อให้การประมูลเป็นไปด้วยความราบรื่น ขณะที่ผู้ประกอบการเริ่มเข้าร่วมการประมูล ได้ทยอยเดินทางมาแล้ว เพื่อรอรับการจับสลากในเวลา 09.00 น. ก่อนที่จะมีการเริ่มเคาะราคาประมูลในเวลา 10.00 น. ของวันนี้
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยทุกทางเข้า - ออก เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีกองกำลังทั้งทหาร และตำรวจ ในการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยมีตำรวจประจำการอยู่ห้องละ 2 นาย พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดจับความเคลื่อนไหว และไม่ให้มีอุปกรณ์สื่อสารใด ๆ ขณะที่ด้านนอกและรอบ ๆ สำนักงาน กสทช. มีตำรวจกระจายกำลังอยู่อีกราว 50 นาย เพื่อป้องกันปัญหาหรือความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกวดราคาในรอบแรกในเวลา 10.30 น. เริ่มต้นแล้ว โดย บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส จับสลากได้พาสเวิร์ดซองหมายเลข 3 บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือทรู จับสลากได้พาสเวิร์ดซองหมายเลข 2 และ บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค ในเครือดีแทค จับสลากได้พาสเวิร์ดซองหมายเลข 1 ซึ่งมีรายงานว่า หลังจากการเปิดประมูลในรอบแรก บริษัทเอกชนจำนวน 2 ราย เสนอราคาประมูลขั้นต้นจำนวน 4.5 พันล้านบาท ชนกัน 2 ราย คือเสนอราคาทับซ้อนกันระหว่างสล็อต E และ H
ทั้งนี้ การเคาะราคาใรชั่วโมงแรก หรือครั้งแรก พบว่า สล๊อต A D G I มีการเคาะ 1 ครั้ง ส่วนสล๊อต E และ F มีการเคาะ 2 ครั้ง (ซึ่งแสดงว่าเอกชนเคาะซ้ำสล็อตกัน) ขณะที่สล๊อต B C E ไม่มีการเคาะเลือก ซึ่งหลังจากนั้นได้เข้าสู่การประมูลเพื่อเคาะราคาในชั่วโมงที่สามต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการเปิดให้เคาะราคา 2 ครั้ง ยังไม่มีการเคาะเลือกสล๊อตครบ 9 สล็อต
ขณะที่ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการ กสทช. กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า วัตถุประสงค์ในการประมูลคลื่นความถี่นั้น เพื่อต้องการสนับสนุนให้มีการจัดสรรคลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ขณะเดียวกับก็ต้องจัดสรรให้คลื่นความถี่เพียงพอกับผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ การประมูลคลื่นความถี่จะสำเร็จขึ้นได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การออกแบบอัตราเริ่มต้นความถี่ หรือวิธีการประมูลทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม การประมูลครั้งนี้ ประเทศชาติจะต้องได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากความคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของประเทศ ดังนั้นภาครัฐต้องได้ผลประโยชน์ที่เหมาะสม และประชาชนก็ต้องได้รับการบริการอย่างเป็นธรรม

เริ่มการประมูลครั้งที่ 2 ทาง กสทช. รายงานว่า ราคาประมูลต่อสล็อตที่มีการเสนอราคาขึ้นไปอยู่ที่ 4,725 ล้านบาท ในสล็อต A B E G H I โดยมีผู้เสนอราคาในช่อง A E H เพิ่ม ส่วนช่องที่เหลือใช้สิทธิผู้ชนะชั่วคราว ส่งผลให้ราคารวมใบอนุญาตในรอบที่ 2 อยู่ที่ 27,675 ล้านบาท

กสทช. เปิดเผยผลการประมูลใบอนุญาตบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1GHz รอบที่ 3 ปิดไปเมื่อเวลา 12.30 น. ก่อนจะหยุดพักการประมูลครึ่งวันแรก โดยมีผู้เสนอราคาประมูลสูงขึ้นมาเป็น 4,950 ล้านบาท ใน 2 สล็อต จากทั้งหมด 9 สล็อต ขณะที่ยังมีสล็อตที่ไม่มีผู้ประมูลเหลืออยู่อีก 1 สล็อต ดังนี้










การประมูลครั้งที่ 4 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. และปิดประมูลเมื่อเวลา 13.45 น. โดยทาง กสทช. รายงานว่า การประมูลรอบล่าสุด ไม่มีผู้เสนอราคาเพิ่ม แต่มีการใช้สิทธิไม่เสนอราคา (เวฟเวอร์) ทำให้การประมูลในรอบถัดไปยังไม่ใช่รอบ Final Phase ดังนั้น ราคาในรอบที่ 4 จึงคงที่ ที่ 4,950 ล้านบาท

กสทช. เผยว่า การประมูลในรอบที่ 5 ซึ่งเริ่มในเวลา 13.45 น. ยังคงไม่มีผู้ใดเสนอราคาเพิ่ม และไม่มีผู้ใช้สิทธิไม่เสนอราคา (เวฟเวอร์) แต่ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประมูลยังสามารถเคาะเพิ่มได้ และการรับ Final Phase ก็สามารถมีได้หลายครั้งไ ปจนกว่าไม่มีรายใดเคาะเพิ่ม

จากการประมูลรอบที่ 6 ซึ่งเริ่มในเวลา 14.30 น. ซึ่งถือว่าเป็นรอบ Final Phase รอบแรก ปรากฏว่า มีผู้เสนอราคาในสล็อก F แล้ว 1 ราย ส่งผลให้ราคารวมขึ้นไปอยู่ที่ 41,625 ล้านบาท

ผลการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 GHz (3G) ของ กสทช. ในรอบที่ 7 ไม่มีรายใดประมูลเพิ่ม ส่งผลให้ปิดการประมูลที่มูลค่ารวม 9 สล็อต 41,625 ล้านบาท แบ่งเป็น ใบละ 4,500 ล้านบาท 6 ใบ ใบละ 4,950 ล้านบาท 2 ใบ และ 4,725 ล้านบาท 1 ใบ

ส่วนทางด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงรายละเอียดภายในงานว่า การประมูลจะแบ่งออกเป็น 9 ใบ ใบละ 5 เมกะเฮิรตซ์ รวมทั้งหมด 45 เมกะเฮิรตซ์ และเริ่มเคาะราคาครั้งแรกเวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 21.00 น. โดยในการเคาะราคาจะเกิดขึ้นครั้งละ 225 ล้านบาท หรือเพิ่มครั้งละ 5% ของราคาเริ่มต้นประมูลใบละ 4,500 บาท ทั้งนี้จะมีการเคาะราคาทุก ๆ 1 ชั่วโมง ไปจนกว่าจะไม่มีการเคาะราคาใด ๆ เป็นเวลา 2 ครั้ง จึงจะถือว่าสิ้นสุดการประมูล และหากสิ้นสุดแล้ว ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้มีสิทธิ์ได้เลือกตำแหน่งคลื่นความถี่ก่อน และหากการเคาะราคาวันแรกยังไม่ได้ข้อสรุป ทางเอกชนจะต้องกลับมาเคาะราคาอีกครั้งในวันถัดไป ซึ่งทาง กสทช. วางเอาไว้ 3 วัน คือวันที่ 16-18 ตุลาคม
สำหรับความพร้อมของบริษัทผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 3 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด, บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด, บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ซึ่งประกาศก่อนหน้านี้ว่าพร้อมสู้ราคาเต็มที่ เพื่อให้ได้ไลเซนส์ทั้งหมด 3 ใบ ตามเพดานการถือครองที่ กสทช. กำหนด ถึงแม้ว่าราคารวมจะสูงถึง 2 หมื่นล้านก็ตาม ทั้งนี้หากการประมูลเสร็จสิ้นก็จะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ในเดือนมีนาคม 2556 อย่างไรก็ตาม ทาง กสทช. ได้ทำหนังสือเชิญตัวแทนจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กับสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน มาเป็นสักขีพยานในการตรวจครั้งนี้ด้วย

การประมูล 3 จี ในวันนี้ มีรายงานว่า บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวิร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส และบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือทรู ได้แจ้งรายชื่อผู้เข้าประมูลบริษัทละ 10 คน ส่วนบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือดีแทค มีทั้งหมด 7 คน โดยรายชื่อตัวแทนจาก 3 บริษัท ในเบื้องต้น มีดังนี้
บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือเอไอเอส ได้แก่
- นายสมประสงค์ บุญยะชัย ซีอีโอ กลุ่มอินทัช
- นายวิเชียร์ เมฆตระการ ซีอีโอ เอไอเอส
- นายมาร์ก ชอง ชิน ก็อก ซีโอโอ เอไอเอส
- นายสิทธิชัย ชื่นชูศิลป์ ผู้บริหารเอไอเอส
- นายฮุย เวง ชอง ตัวแทน สิงเทล และตัวแทนเทมาเส็กอีก 5 คน
บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือทรู ได้แก่
- นายศุภชัย เจียรวนนท์ ซีอีโอ กลุ่มทรู
- นายวิเชาว์ รักพงษ์ ไพโรจน์
- นายนพปฎล เดชอุดม
- นายอธึก อัศวานันท์
- นายอิรุฒม์ โตทวีแสนสุข
- นางสาวอชิรา เตาลานนท์ เป็นต้น
บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค ในเครือดีแทค ได้แก่
- นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ซีอีโอ ดีแทค
- นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ ผู้บริหารดีแทค
- นายอาลิ อามิน ซัททาร์
- นางวีรนุช กมยบุตร และตัวแทนเทเลนอร์ อีก 3 คน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



