เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
"เสธ. อ้าย" ชื่อนี้คนไทยทุกคนคงได้ยินกันบ่อยขึ้น จากการประกาศจัดชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วยข้อหาที่ว่าบริหารบ้านเมืองล้มเหลว เพราะมีแต่นักการเมืองไม่ดี พร้อมกับแนวคิดแช่แข็งประเทศ ซึ่งหลายคนอาจจะทราบแค่ว่า เสธ.อ้าย คือ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หากแต่เบื้องลึก เบื้องหลังของนายทหารเก่าผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะไม่เช่นนั้น การเตรียมการรับมือจากทางฝั่งรัฐบาลคงไม่เข้มข้นเช่นนี้
เสธ.อ้าย มีชื่อจริงว่า บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 ที่จังหวัดลพบุรี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 1 พ.ศ. 2503 ร่วมรุ่นกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 12 พ.ศ. 2508
สำหรับตำแหน่งราชการที่สำคัญ
พ.ศ. 2525 เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 ศูนย์การทหารราบ ยศพันโท พ.ศ. 2531 ฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ยศพันเอก (พิเศษ) พ.ศ. 2535 นายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2541 หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยศพลเอก พ.ศ. 2544 ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบอ อัตราจอมพล นอกจากนี้ ยังมีราชการพิเศษ ดังนี้ พ.ศ. 2541 ราชองครักษ์เวรพิเศษ พ.ศ. 2542 ตุลาการศาลทหารสูงสุด และราชองครักษ์ พ.ศ. 2545 นายทหารพิเศษประจำ ม.พัน.4.รอ. ตำแหน่งหน้าที่ปัจจุบัน นายกสโมสรกอล์ฟดุสิต ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เลขาธิการกิตติมศักดิ์ ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถ้มป์ นายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย นายกสมาคมไทย - จีน ประธานนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 1 ประธานมูลนิธิศิษย์เก่า โรงเรียนเตรียมทหาร
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า จุดไคลแม็กซ์ของชีวิต เสธ.อ้าย จะอยู่ในช่วง พ.ศ. 2520 เมื่อ พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (ยศในขณะนั้น) ได้เป็นหนึ่งใน กบฎ พ.ศ. 2520 ที่มี พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ เป็นแกนนำในการจ้องล้มรัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินของ พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่
สำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 ซึ่งกลุ่มกบฎได้นำกำลังทหารประมาณ 300 คน จากทหารกองพลที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรี และจาก ร.19 พัน 1,2 และ 3 ยึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก สวนรื่นฤดี กองบัญชาการทหารสูงสุดส่วนหน้าสนามเสือป่า และกรมประชาสัมพันธ์ได้ ในเวลา 05.00 น.
การยึดสวนรื่นฤดีครั้งนั้น สามารถจับกุมนายทหาร 3 คนได้ คือ พล.อ.ประเสริฐ ธรรมศิริ รอง ผบ.ทบ., พล.อ.ประลอง วีระปรีย์ เสธ.ทบ. และ พล.ต.อรุณ ทวาทศิน ผบ.พล.1 โดยทางกลุ่มผู้ที่ต้องการรัฐประหาร พยายามเกลี้ยกล่อมนายทหาร 3 คนนี้ให้เข้าร่วม ทว่า พล.อ.อรุณ ไม่ยินยอม กลับแย่งปืน จึงถูก พล.อ.ฉลาด ยิงเสียชีวิต ทางกลุ่มรัฐประหารจึง ประกาศออกวิทยุ เวลา 09.15 น. ว่าต้องยึดอำนาจเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ ที่มีทั้งปัญหาคอมมิวนิสต์ ปัญหาความสามัคคี แต่ทางรัฐบาลก็ประกาศสู้กลับในเวลา 10.15 น. เช่นกัน ซึ่งสถานการณ์ในตอนนั้น กลุ่มล้มรัฐบาลมีสถานการณ์ไม่ค่อยดี หลังจากมีการยิงกันขึ้น กำลังบางส่วนก็ไม่ได้มาตามนัด อีกทั้งในเวลา 13.00 น. สถานีวิทยุก็ถูกตัดไฟ ทางกลุ่มรัฐประหารจึงไม่สามารถประกาศสาระสำคัญต่อประชาชนได้อีก
สุดท้ายเวลา 20.30 น. รัฐบาลก็สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมด และจะทำการเนรเทศผู้ก่อการทั้งหมดไปต่างประเทศ มีทั้งหมด 5 คน ดังนี้
1. พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ 2. พ.ท.สนั่น ขจรประศาสน์ 3. พ.ต.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ 4. พ.ต.วิศิษฐ์ คงประดิษฐ์ 5. พ.ต.อัศวิน หิรัญศิริทว่าเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อทั้งห้าคนถูกหลอกว่าจะถูกส่งไปต่างประเทศ แต่ความจริงคือถูกจับเข้าคุก และ พล.อ.ฉลาด ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ลงโทษนายทหารระดับ พล.อ. ด้วยการประหารชีวิต
จากประวัติตรงนี้เอง ทำให้เมื่อ พล.อ.บุญเลิศ มาเป็นประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ทางฝ่ายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงกลัวว่าจะเกิดการรัฐประหารขึ้นอีกครั้ง เพราะในขณะนี้ พล.อ.บุญเลิศ ถือว่ามีอิทธิพลและเครือข่ายมากพอสมควร เห็นได้จากตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ประธานนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 1, นายกสมาคมมวยสากลแห่งประเทศไทย เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ก็เคยออกโรงเตือนรัฐบาลเช่นกันว่า เสธ.อ้ายคนนี้ไม่ธรรมดา รู้ประวัติแล้วจะหนาว
ปิดท้ายด้วยชีวิตครอบครัว พล.อ.บุญเลิศ สมรสกับ นางธิดา แก้วประสิทธิ์ มีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ ร.ท.(หญิง) จิตรลดา แก้วประสิทธิ์ และนายบรรดาล แก้วประสิทธิ์
