ประวัติต้นไม้ในสวนสวรรค์เนื่องในวันคริสต์มาส มีประวัติความเป็นมาอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลมาฝาก
อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลคริตส์มาส (Christmas) ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เมื่อครั้งอดีตเทศกาลคริตส์มาสอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยเท่าใดนัก เนื่องจากเทศกาลดังกล่าว เป็นการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ทว่า ในปัจจุบัน เทศกาลคริตส์มาสได้กลายเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ช่วยเพิ่มคึกคัก สนุกสนาน ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ให้กับทุกประเทศทั่วโลก
แน่นอนว่าเมื่อนึกถึงเทศกาลคริสต์มาส ก็จะมีภาพของต้นคริสมาสต์แสนสวยที่ถูกประดับประดาด้วยกล่องของขวัญขนาดจิ๋ว สายรุ้ง และไฟกะพริบเล็ก ๆ จำนวนมาก จนทำให้ต้นคริตส์มาสเปล่งประกายระยิบระยับสวยงามในยามค่ำคืน แต่ต้นคริสมาสต์ มีที่มาที่ไปอย่างไรนั้น วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทราบกัน
สำหรับความเป็นมาของต้นคริสมาสต์นั้น สืบเนื่องจากในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์นิยมนำเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทศกาลคริตส์มาสมาแสดงเป็นละครเพื่อถ่ายทอดความหมายของวันคริสต์มาสให้ชาวบ้านได้รับรู้ โดยในยุคนั้นได้มีการนำต้นสนมาตั้งไว้ตรงกลางเวทีเพื่อใช้เป็นของประดับฉาก ส่วนสาเหตุเลือกต้นสน ก็เนื่องมากจากเป็นต้นไม้ที่หาได้ง่าย ทำให้ในภายหลังจึงมีการเรียกต้นสนที่ใช้ประกอบฉากในการแสดงดังกล่าวว่า ต้นคริสต์มาส ซึ่งต้นคริสต์มาสนี้ไม่ใช่พรรณไม้ที่ชื่อคริสต์มาสดังที่หลายคนเข้าใจ
นอกจากนี้ ในวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ยังมีความเชื่ออีกว่า ต้นคริสต์มาส หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่อดัมและอีฟแอบเด็ดผลไม้มากิน ซึ่งเป็นการทำบาป เนื่องจากไม่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นต้นคริสมาสต์จึงเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจเกี่ยวกับการเรื่องละเมิดคำสอนของพระเจ้านั่นเอง
ทั้งนี้ ละครเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส ได้ถูกนำมาแสดงอย่างต่อเนื่องนานนับหลายร้อยปี จนกระทั่งในศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชจำนวนหนึ่งได้ห้ามไม่ให้มีการแสดงละครดังกล่าวอีก เนื่องจากเห็นว่า การแสดงเหล่านี้ได้ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นการแสดงละครเพื่อล้อเลียนชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ด้านชาวบ้านที่รู้สึกเสียดาย เนื่องจากไม่มีโอกาสได้ดูละครสนุก ๆ แล้ว จึงหันไปสนุกกันในบ้านของตน โดยการนำต้นสนมาตั้งไว้ในบ้าน จากนั้นคนในครอบครัวก็จะช่วยกันนำลูกแอปเปิ้ล ขนม หรือกล่องของขวัญขนาดจิ๋วต่าง ๆ มาประดับประดาบนต้นไม้
สำหรับที่มาของการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยไฟกะพริบต่าง ๆ นั้น คาดว่าน่าจะมาจาก ประเพณีเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสของชาวเยอรมัน ที่แต่เดิมได้มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมี ดาวดาวิด หรือสัญลักษณ์เป็นดาวหกแฉกประดับอยู่บนยอดปิรามิด ซึ่งมุมทั้งหกของดาวได้สื่อความหมายถึง ลักษณะ 6 ด้านของพระเจ้า คือ ฤิทธิ์เดช, สติปัญญา, ความสง่างาม, ความรัก, ความเมตตา และความยุติธรรม จากนั้นในศตวรรษที่ 16 จึงได้มีการนำประเพณีการตกแต่งต้นคริตส์มาส และการจุดเทียนมารวมรวมกัน จนกลายเป็นประเพณีในปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และตกแต่งไฟกะพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส โดยมีดาวดาวิดประดับอยู่บนยอดของต้นไม้ ซึ่งประเพณีนี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ชาวตะวันตกมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากชาวคริสต์เชื่อกันว่าต้นคริสต์มาสได้สื่อความสำคัญในหลายประการ ดังนี้
- ต้นคริสต์มาส มีความหมายถึงนิรันดรภาพของพระเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล
- ต้นคริสต์มาส เปรียบเสมือน ความสว่างไสวของพระเจ้า ที่ราวกับแสงเทียนส่องแสงสวยงามท่ามกลางความมืด
- ต้นคริสต์มาส เป็นตัวแทนของความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้ดังกล่าวถือเป็นศูนย์รวมของครอบครัวเมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาเยือน
และนี่ก็คือความเป็นมาของเจ้าต้นคริสมาสต์ที่แฝงไปด้วยแง่คิดดี ๆ มากมายในแบบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง หากใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำกิจกรรมอะไรในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ ก็ลองชวนคนในครอบครัวมาตกแต่งต้นคริสต์มาสกันดูนะจ๊ะ เพราะในปัจจุบันนี้ได้มีการจำหน่ายต้นคริสต์มาสจำลอง ทั้งขาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพื่อให้เลือกตกแต่งกันได้ตามใจชอบ ซึ่งการที่คนในครอบครัวได้ช่วยกันตกแต่งต้นคริสต์มาสนั้น นอกจากจะทำให้เกิดความสนุกสนาน และช่วยสร้างสีสันในเทศกาลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความใกล้ชิดสนิทสนมกันในครอบครัวอีกด้วยจ้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
lib.ru.ac.th , th.wikipedia.org
อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลคริตส์มาส (Christmas) ซึ่งตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เมื่อครั้งอดีตเทศกาลคริตส์มาสอาจจะยังไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยเท่าใดนัก เนื่องจากเทศกาลดังกล่าว เป็นการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ทว่า ในปัจจุบัน เทศกาลคริตส์มาสได้กลายเป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่ช่วยเพิ่มคึกคัก สนุกสนาน ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ให้กับทุกประเทศทั่วโลก
แน่นอนว่าเมื่อนึกถึงเทศกาลคริสต์มาส ก็จะมีภาพของต้นคริสมาสต์แสนสวยที่ถูกประดับประดาด้วยกล่องของขวัญขนาดจิ๋ว สายรุ้ง และไฟกะพริบเล็ก ๆ จำนวนมาก จนทำให้ต้นคริตส์มาสเปล่งประกายระยิบระยับสวยงามในยามค่ำคืน แต่ต้นคริสมาสต์ มีที่มาที่ไปอย่างไรนั้น วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทราบกัน
สำหรับความเป็นมาของต้นคริสมาสต์นั้น สืบเนื่องจากในศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์นิยมนำเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทศกาลคริตส์มาสมาแสดงเป็นละครเพื่อถ่ายทอดความหมายของวันคริสต์มาสให้ชาวบ้านได้รับรู้ โดยในยุคนั้นได้มีการนำต้นสนมาตั้งไว้ตรงกลางเวทีเพื่อใช้เป็นของประดับฉาก ส่วนสาเหตุเลือกต้นสน ก็เนื่องมากจากเป็นต้นไม้ที่หาได้ง่าย ทำให้ในภายหลังจึงมีการเรียกต้นสนที่ใช้ประกอบฉากในการแสดงดังกล่าวว่า ต้นคริสต์มาส ซึ่งต้นคริสต์มาสนี้ไม่ใช่พรรณไม้ที่ชื่อคริสต์มาสดังที่หลายคนเข้าใจ
นอกจากนี้ ในวัฒนธรรมของชาวคริสต์ ยังมีความเชื่ออีกว่า ต้นคริสต์มาส หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่อดัมและอีฟแอบเด็ดผลไม้มากิน ซึ่งเป็นการทำบาป เนื่องจากไม่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นต้นคริสมาสต์จึงเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจเกี่ยวกับการเรื่องละเมิดคำสอนของพระเจ้านั่นเอง
ทั้งนี้ ละครเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส ได้ถูกนำมาแสดงอย่างต่อเนื่องนานนับหลายร้อยปี จนกระทั่งในศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชจำนวนหนึ่งได้ห้ามไม่ให้มีการแสดงละครดังกล่าวอีก เนื่องจากเห็นว่า การแสดงเหล่านี้ได้ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นการแสดงละครเพื่อล้อเลียนชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ด้านชาวบ้านที่รู้สึกเสียดาย เนื่องจากไม่มีโอกาสได้ดูละครสนุก ๆ แล้ว จึงหันไปสนุกกันในบ้านของตน โดยการนำต้นสนมาตั้งไว้ในบ้าน จากนั้นคนในครอบครัวก็จะช่วยกันนำลูกแอปเปิ้ล ขนม หรือกล่องของขวัญขนาดจิ๋วต่าง ๆ มาประดับประดาบนต้นไม้
สำหรับที่มาของการประดับตกแต่งต้นคริสต์มาสด้วยไฟกะพริบต่าง ๆ นั้น คาดว่าน่าจะมาจาก ประเพณีเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสของชาวเยอรมัน ที่แต่เดิมได้มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมี ดาวดาวิด หรือสัญลักษณ์เป็นดาวหกแฉกประดับอยู่บนยอดปิรามิด ซึ่งมุมทั้งหกของดาวได้สื่อความหมายถึง ลักษณะ 6 ด้านของพระเจ้า คือ ฤิทธิ์เดช, สติปัญญา, ความสง่างาม, ความรัก, ความเมตตา และความยุติธรรม จากนั้นในศตวรรษที่ 16 จึงได้มีการนำประเพณีการตกแต่งต้นคริตส์มาส และการจุดเทียนมารวมรวมกัน จนกลายเป็นประเพณีในปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และตกแต่งไฟกะพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส โดยมีดาวดาวิดประดับอยู่บนยอดของต้นไม้ ซึ่งประเพณีนี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ชาวตะวันตกมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากชาวคริสต์เชื่อกันว่าต้นคริสต์มาสได้สื่อความสำคัญในหลายประการ ดังนี้
- ต้นคริสต์มาส มีความหมายถึงนิรันดรภาพของพระเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล
- ต้นคริสต์มาส เปรียบเสมือน ความสว่างไสวของพระเจ้า ที่ราวกับแสงเทียนส่องแสงสวยงามท่ามกลางความมืด
- ต้นคริสต์มาส เป็นตัวแทนของความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้ดังกล่าวถือเป็นศูนย์รวมของครอบครัวเมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาเยือน
และนี่ก็คือความเป็นมาของเจ้าต้นคริสมาสต์ที่แฝงไปด้วยแง่คิดดี ๆ มากมายในแบบที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง หากใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะทำกิจกรรมอะไรในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ ก็ลองชวนคนในครอบครัวมาตกแต่งต้นคริสต์มาสกันดูนะจ๊ะ เพราะในปัจจุบันนี้ได้มีการจำหน่ายต้นคริสต์มาสจำลอง ทั้งขาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เพื่อให้เลือกตกแต่งกันได้ตามใจชอบ ซึ่งการที่คนในครอบครัวได้ช่วยกันตกแต่งต้นคริสต์มาสนั้น นอกจากจะทำให้เกิดความสนุกสนาน และช่วยสร้างสีสันในเทศกาลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความใกล้ชิดสนิทสนมกันในครอบครัวอีกด้วยจ้า
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
lib.ru.ac.th , th.wikipedia.org