เปิดผลโพลล์ คนไม่สวมหมวกกันน็อค อ้างไปไม่ไกล-กลัวผมเสียทรง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
           เอแบคโพลล์ เผย  คนไม่คาดสายรัดคางหมวกกันน็อค มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าคนที่คาดถึง 6 เท่า พร้อมเผยเหตุผลที่คนไม่ใส่หมวกกันน็อค เพราะคิดว่าเดินทางใกล้ ๆ ไม่มีตำรวจ รวมถึง กลัวผมเสียทรง
 
           วันนี้ (26 ธันวาคม) นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เปิดเผยผลวิจัยเกี่ยวกับ ความเสี่ยงอันตรายบาดเจ็บที่ศีรษะในอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์จากการไม่สวมหมวกนิรภัย โดยผลสำรวจพบว่า คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างร้อยละ 57.9 เคยประสบอุบัติเหตุ และคนขับมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวร้อยละ 52.6 ก็เคยประสบอุบัติเหตุเช่นกัน
 
           ขณะที่พฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัย พบว่า กลุ่มคนขับร้อยละ 72.1 ไม่สวมหมวกนิรภัยหรือสวมเป็นบางครั้ง มีเพียงร้อยละ 27.9 เท่านั้นที่สวมทุกครั้ง ส่วนกลุ่มคนซ้อนท้าย มีถึงร้อยละ 94.3 ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยหรือสวมเป็นบางครั้ง และมีเพียงร้อยละ 5.7 ที่สวมหมวกนิรภัยสม่ำเสมอ
 
           ทั้งนี้ สำหรับเหตุผลการไม่สวมหมวกนิรภัย พบว่า ร้อยละ 69.3 คิดว่า เดินทางในระยะใกล้ ๆ คงไม่เกิดอุบัติเหตุ, ร้อยละ 39.3 คิดว่า ถนนสายนี้ไม่มีตำรวจ, ร้อยละ 25.7 คิดว่า ไม่มีเวลาสวม เนื่องจากเร่งรีบ และร้อยละ 21.8 คิดว่า ใส่แล้วขับขี่ไม่สะดวก มองไม่ถนัด อาจทำผมเสียทรงได้
 
           สำหรับประเด็นการคาดสายรัดคางหมวกนิรภัย พบว่า ในกลุ่มคนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ร้อยละ 70.9 และคนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ส่วนตัวร้อยละ 54.5 ไม่ได้คาดสายรัดคางหรือคาดเป็นบางครั้ง ขณะที่ในกลุ่มคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ร้อยละ 40.1 และคนขับมอเตอร์ไซค์ส่วนตัว ร้อยละ 40.8 ไม่ได้คาดสายรัดคางหรือคาดเป็นบางครั้งเช่นกัน
 
           นายนพดล กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อได้วิเคราะห์ค่าความเสี่ยง พบว่า กลุ่มคนที่ไม่คาดสายรัดคาง มีโอกาสบาดเจ็บทางศีรษะมากกว่าคนที่คาดสายรัดคางถึง 6 เท่า
 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก