


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการข่าววันใหม่ โพสต์โดยคุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เปิดเบื้องหลัง แบงค์ ฆ่าโหดพริตตี้สาว พบใช้เงินเป็นเบี้ย ทำธุรกิจหลายอย่างตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปี เช็กประวัติพบได้เงินจากหนุ่มคู่ขายักยอกเงินแบงก์กว่า 40 ล้าน ได้ส่วนแบ่งมา 21 ล้านบาท เจ้าตัวชมตำรวจเก่ง จับได้ หลังจากหนีหลายคดีมาตั้งแต่ปี 52
สืบเนื่องจากคดีฆ่าเผาโหด นางสาวอัจฉราณี พริตตี้สาว วัย 22 ปี โดยจับแก้ผ้า ปาดคอ ตัดหู เฉือนอวัยวะเพศ ฟันแขนซ้ายนับสิบแผล รวมทั้งมีการเขียนข้อความด้วยปากกาเมจิกสีดำ เป็นชื่อและนามสกุล "สำเริง สุวรรณพงศ์" รวมทั้งฉายาของผู้ชาย รวม 2 คน คือ "ไอ้เปิ้ล ท่าทราย" และ "โอบาม่า" ก่อนจุดไฟเผาห้องภายใน เดอะคิท คอนโดมิเนียม อาคารเอ หมู่ 5 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายไพโรจน์ นันทตันติ หรือ แบงค์ ผู้ต้องหาได้แล้ว พร้อมกับนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
ล่าสุด วานนี้ (8 มกราคม) พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภาค 1 เปิดเผยว่า นอกจากคดีฆ่าพริตตี้สาวแล้ว นายไพโรจน์ ยังมีหมายจับอีก 4 คดี ประกอบด้วย
คดีที่ 1 หมายจับเลขที่ 833/2552 ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ท้องที่ สน.บางขุนเทียน
คดีที่ 2 หมายจับเลขที่ 1120/2553 ข้อหาเดียวกับคดีแรก ท้องที่ สน.บางขุนเทียน
คดีที่ 3 หมายจับเลขที่ 494/2553 ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง ท้องที่สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม
คดีที่ 4 หมายจับเลขที่ 1602/2553 ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต ท้องที่ สน.พระราชวัง แต่ผู้ต้องหายังรับว่ามีหมายจับทั้งหมด 7 คดี
จากการสอบสวนนายไพโรจน์ นันทตันติ หรือ แบงค์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนทำธุรกิจหลายอย่าง จากเด็กบ้านแตกเรียนหนังสือแค่ ป.5 เข้ามากรุงเทพฯ เป็นแค่เด็กเสิร์ฟตามผับ บาร์ จนกระทั่งปี 2552 ตนก็เริ่มมีฐานะ เนื่องจากมีหนุ่มธนาคารซึ่งเป็นพวกรักร่วมเพศมาติดพันรายหนึ่งได้ถ่ายโอนเงินจากการยักยอกธนาคารกรุงไทยมาร่วม 21 ล้านบาทมาให้ก่อนถูกจับได้ ตนจึงได้หลบหนีการจับได้มาตั้งแต่ปีนั้น โดยเปลี่ยนทั้งชื่อ นามสกุล นำเงินไปซื้อบ้านเพื่อตบตาตำรวจ หลังจากนั้นเมื่อมีเงินล้านก็เริ่มเลี้ยง กินเที่ยวกับคนมีระดับไว้คุ้มกันตัวเอง เปิดสำนักข่าวทำหนังสือเกี่ยวกับแวดวงตำรวจ และเปิดผับที่ราชบุรีและที่กรุงเทพฯ
ต่อมาตนได้คบหากับ นางสาวอัจฉราณี ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน เพื่อจะได้ชวนมาทำงานที่ร้านของตัวเอง และยังมอบหมายให้ดูแลเงินนับ 20 ล้านบาทด้วย ระยะเวลาปีกว่าที่คบกันยอมรับว่าตัวเองเป็นคนโมโหร้าย โดยเฉพาะเวลาเมา และที่ก่อเหตุดังกล่าวไปเพราะโมโหที่แฟนสาวด่าทอพ่อแม่ของตัวเอง จึงคว้ามีดโกนปาดหน้าผู้ตายและกรีดไปทั่วร่าง ตัดหู และเฉือนอวัยวะเพศ ก่อนจะยัดใส่เข้าไปในปากแฟนสาว ระหว่างที่ทำอยู่นั้นไม่ได้สติไม่รู้ว่าลงมือแบบนี้ทำไมคงเพราะความเมา จนเมื่อแฟนสาวเสียชีวิตและตั้งสติได้จึงโทรศัพท์หาเพื่อนให้ช่วยเหลือพาหลบหนี สำหรับเรื่องการฆ่าแมว ตนเคยตกลงกับแฟนสาวว่าหากใครเสียชีวิตก่อนให้ฆ่าแมวตามไปด้วยเพราะรักมาก
ส่วนการหลบหนีนั้น ตนได้รับการช่วยเหลือจาก นายอดิศักดิ์ เครือเอม ซึ่งเคยทำธุรกิจรถเช่าด้วยกัน และเป็นอดีตทหารพรานชำนาญทางตามแนวชายแดน โดยไปบวชเณรที่วัดถ้ำเขาชุมดง จอมบึง จ.ราชบุรี ก่อนจะไปข้ามฝั่งที่ดอยสามเส้าใหญ่ อ.แม่อาย แต่ตรงนั้นใกล้ฐานกองกำลังผาเมืองจึงถูกสกัดจับได้
สำหรับการเขียนชื่อบุคคลต่าง ๆ ลงไปบนศพนั้น นายไพโรจน์ ระบุว่าเขียนไปเพราะความเมา โดยชื่อ สำเริง สุวรรณพงษ์ ซึ่งตรงกับชื่อนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. นั้น เป็นชื่อที่แฟนสาวชอบนำมาอ้างเวลาทะเลาะกันว่าเป็นอาและเป็นนายตำรวจใหญ่ ส่วนชื่อโอบาม่า และเปิ้ล ท่าทราย เป็นเพื่อนสนิทของตน ที่เคยเข้าหุ้นเปิดร้านเหล้าด้วยกัน แต่ระยะหลังแฟนสาวไปสนิทสนมทำให้ตนเกิดความระแวง ประกอบกับเงินที่ได้มาเริ่มร่อยหรอ จึงมักจะมีปัญหากับแฟนสาวบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ นายไพโรจน์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนขอชมตำรวจว่าเก่งมากที่ตามจับตนได้ เพราะตนมีคดีติดตัวตั้งแต่ปี 2552 แต่ไม่เคยถูกจับ หลบหนีได้ตลอด ตนซื้อบ้านไว้ที่ จ.สระบุรี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เคยไปอยู่ ส่วนการบวชเพราะหลังก่อเหตุฝันถึงแฟนสาวจนหลอน จึงเกิดความกลัวจึงตัดสินใจบวชเณร ถ้าตนไม่ดื่มเหล้าและสติหลุดก็คงไม่เป็นแบบนี้ อยากจะบอกครอบครัวแฟนสาวว่า สิ่งที่ทำลงไปขอชดใช้กรรมและจะแผ่เมตตาไปตลอดชีวิต จะขอโทษก็สายไปแล้ว ชีวิตมันทดแทนกันไม่ได้ จึงต้องยอมรับความจริง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจกำลังขยายผลจากหมายจับเก่าที่นายไพโรจน์บอกว่ามีถึง 7 คดี ทั้งคดีฉ้อโกง นำรถไปจำนำร่วม 10 คัน มีปืนยี่ห้อดี ๆ ไว้ในครอบครอง และพกปืนไว้กับตัวตลอดเวลา จนมีหมายจับหลายท้องที่ นายไพโรจน์จึงเปลี่ยนชื่อหนีคดีอย่างไม่มีตัวตน ฟอกเงินทำธุรกิจตบตา และก่อคดีสะเทือนขวัญฆ่าเผาแฟนสาวอย่างเลือดเย็นจนนำไปสู่การจับกุมได้
ขณะที่ทางด้าน นายนิคม พ่อของพริตตี้สาว เปิดเผยว่า ทราบข่าวที่ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว ความจริงอยากให้นายแบงค์มาขอขมาศพหรือมาขอขมาตน ส่วนเรื่องคดีขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ทางครอบครัวกำลังปรึกษากับทนายว่าอาจจะฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายอีกทางหนึ่งด้วยหรือไม่ ไว้หลังจากจัดการงานศพให้เรียบร้อยก่อน ทั้งนี้ ตนรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้เร็ว แต่ในส่วนจิตใจไม่ได้โกรธแค้นเพราะเชื่อในสิ่งที่ใครทำดีต้องได้ดี ใครทำชั่วต้องได้ชั่ว เวรกรรมมีอยู่แล้ว ถ้าไปโกรธแค้น ลูกสาวอาจจะไม่สบายใจ อยากให้ทุกคนได้หลุดพ้น
คลิป ปูมหลัง ไอ้แบงค์ฆ่าเผาแฟนพริตตี้ : เครดิต รายการข่าววันใหม่ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







