x close

สลด! ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท นักรบ ตชด. โดดร่มไม่กาง ดิ่งพสุธาดับ


ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท
ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ becausetheking สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท ตชด. ค่ายนเรศวร นายตำรวจติดตาม ร.ต.อ.เฉลิม ฝึกทบทวนโดดร่มพร้อมเพื่อน แต่โชคร้ายร่มไม่กาง ร่างร่วงกระแทกพื้นดับ

            เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจากโรงพยาบาลหัวหิน ว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระโดดร่มแล้วประสบอุบัติเหตุเข้ามารักษาตัวแล้วเสียชีวิต จึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบ

            โดยที่ห้องไอซียู ชั้น 3 พบศพ ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท อายุ 30 ปี ผบ.ร้อยหน่วยกู้ชีพ กก.3 บก.สอ.บช.ตชด. ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อยู่ในชุดฝึกกระโดดร่ม สภาพกะโหลกศีรษะแตก ตับแตก ซี่โครงหักทิ่มปอด และขาหักทั้ง 2 ข้าง ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้บังคับบัญชาและเพื่อน ๆ ตชด. ที่ตามมาเฝ้าดูอาการ รวมถึงนายประพันธ์และนางยาใจ ปุราเท พ่อแม่ ที่เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี ซึ่งร้องไห้ตลอดเวลาหลังทราบว่าลูกชายเสียชีวิต

            จากการสอบถาม พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ อินทชาติ ผกก.3 บก.สอ.บช.ตชด. ค่ายนเรศวร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและเพื่อน ตชด.ด้วยกัน มาฝึกกระโดดร่มทบทวนประจำปีที่สนามโดดร่มตุงคะเดชะ ภายในค่ายนเรศวร ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ โดยขึ้นเครื่องบินคาซ่า CN 235 จำนวน 4 ลำ บรรทุก ตชด.ลำละ 20 คน และปล่อยเป็นชุด ๆ ละ 5 คน โดย ร.ต.อ.ปิ่นทัพ อยู่ลำที่ 3 บินเป็นเที่ยวแรกในระดับความสูง 6,000 ฟุต ท่ามกลางทัศนวิสัยที่แจ่มใส

            หลัง ร.ต.อ.ปิ่นทัพ กระโดดลงไประยะความสูงประมาณ 4,000 ฟุต แล้วกระตุกร่มสกายพบว่าร่มกางออกไม่เต็มที่ ด้วยสัญชาตญาณการฝึกกระโดดร่ม จึงพยายามดึงกระตุกสายร่มเพื่อให้ร่มกางออกได้อีกแต่ไม่ได้ผล ก่อนตัดสินใจกระตุกร่มชูชีพช่วยเพื่อเอาชีวิตรอด แต่คาดไม่ถึงสายร่มชูชีพกลับม้วนพันกับสายร่มสกาย ส่งผลให้ร่างลอยละลิ่วตกกระแทกพื้นดินใกล้สระใหญ่ภายในค่ายท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน จากนั้นเพื่อน ๆ ตชด. ได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน แต่ ร.ต.อ.ปิ่นทัพ อาการสาหัสมาก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

            ทั้งนี้ สำหรับ ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท อายุ 30 ปี อดีตนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 59 ดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยกู้ชีพ กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร เขาได้ทำหน้าที่เป็นนายตำรวจติดตาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เคยปฏิบัติหน้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตลอด และยังเป็นหัวหน้าหน่วยชุดกู้ภัยไปช่วยเหลือประชาชนในคราวน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่เด็ดเดี่ยวและใจสู้ จนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อน ๆ และผู้บังคับบัญชา

            นอกจากนี้ จากบทสัมภาษณ์ที่ผู้สื่อข่าวเคยสอบถามขณะที่ ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาตใต้นั้น ก็พบว่า ร.ต.อ.ปิ่นทัพ เป็นผู้ที่มีความตั้งใจแน่วแน่ อดทน และเสียสละเป็นอย่างยิ่งทีเดียว

            เมื่อถามว่าตำรวจอาชีพกับอาชีพตำรวจ สำหรับเขามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรนั้น เขากล่าวว่า ไม่เหมือนกันเลย เพราะอาชีพตำรวจสามารถทำได้ทุกคน แต่ถ้าทำให้ดีมันคนละเรื่องกัน ต้องมีจิตวิญญาณ ในเมื่อเรามีอาชีพนี้ และมาอยู่ตรงจุดนี้ก็ต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุดครับ ตอนนี้ผมกำลังจะเป็นตำรวจอาชีพครับ คนเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ถ้าเราคิดว่าดีแล้ว เราจะหยุดอยู่กับที่ แต่ถ้าคิดว่ายังไม่ดีเราจะรู้จักพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมเรื่อย ๆ

            สำหรับการทำหน้าที่หัวหน้าชุดออกตรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รู้สึกกลัวบ้างหรือไม่ เจ้าตัว เปิดเผยว่า ไม่กลัว เพราะเราไม่ประมาท ถ้าเรากลัวแล้วชาวบ้านจะอยู่ได้อย่างไร สำหรับหน้าที่ตำรวจคนร่มในความรับรู้ของประชาชนที่จะโดดเด่นในเรื่องมวลชนสัมพันธ์นั้นกับคนในพื้นที่ ผมคิดว่ามีข้อดีอย่างมากครับ เพราะเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่สงครามแบบเต็มรูปแบบ แต่เป็นสงครามชิงมวลชน จะชนะหรือไม่อยู่ที่ประชาชนเห็นด้วยและเลือกที่จะอยู่กับฝ่ายไหนมากกว่า ดังนั้นถ้าเราทำให้คนคล้อยตามหรือเอนเอียงและศรัทธาในรัฐไทยก็ถือว่าเราชนะ แต่ถ้าเขาไม่เห็นด้วยแล้วเราใช้อาวุธบังคับขู่เข็ญ ไม่ว่าอย่างไรคนก็ต่อต้านอยู่ดี

            และเมื่อถามว่าเหตุใดเขาสามารถเลือกไปประจำการที่อื่นได้ แต่กลับยังคงยืนกรานที่จะปฏิบัติหน้าที่ที่นี่นั้น เขากล่าวว่า งานของผมยังไม่เสร็จครับ ประชาชนเพิ่งจะเริ่มเชื่อใจเจ้าหน้าที่ และเราเองก็เพิ่งจะเข้าใจในเรื่องพื้นที่เอง ถ้ายังอยู่ที่นี่ก็สามารถสานต่องานได้ บ้านเมืองจะได้เป็นปึกแผ่นมากกว่านี้

            ทั้งนี้ ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ยังระบุด้วยว่า ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง เป็นตำรวจก็ต้องทำหน้าที่ตำรวจ เป็นทหารก็ต้องทำหน้าที่ทหาร ซึ่งสิ่งที่ผมทำเป็นสิ่งที่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับในหลวง ท่านได้ทำอะไรมากมายมหาศาลให้แก่พสกนิกร ผมคิดว่าต้องทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์อย่าไปโทษใครหรืออะไร ให้ดูที่ตัวเราว่าหน้าที่เราสมบูรณ์แล้วหรือยัง ถ้าทุกคนหรือแม้แต่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายทำหน้าที่สมบูรณ์ ร่างกายก็สุขภาพแข็งแรง ก็ไม่ต้องลำบากพ่อ

            ทีมงานกระปุกดอทคอม ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท มา ณ ที่นี้ด้วย และขอให้ดวงวิญญาณของท่านสู่สุคติด้วยเทอญ






**หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 16:47 น. วันที่ 9 มกราคม 2556


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สลด! ร.ต.อ.ปิ่นทัพ ปุราเท นักรบ ตชด. โดดร่มไม่กาง ดิ่งพสุธาดับ โพสต์เมื่อ 9 มกราคม 2556 เวลา 14:36:22 13,996 อ่าน
TOP