เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สนธิ ลิ้มทองกุล โฟนอินสด จากซานฟรานซิสโก มายังกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ยืนยันไม่ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ แนะอย่ายึดติดตำแหน่ง ผบ.ทบ. ขณะที่ทหาร 50 นายเดินทางมายังผู้จัดการ พร้อมให้ขอโทษ ผบ.ทบ. เป็นครั้งที่สอง
ช่วงสายของวันนี้ (12 มกราคม) ณ ที่ทำการหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ถนนพระอาทิตย์ มีกลุ่มทหารไม่ทราบสังกัดจำนวน 50 นาย เดินทางมาร้องเรียนเรื่องการเขียนข่าว โดยใช้โทรโข่งปราศรัยอยู่ด้านหน้าที่ทำการว่า ต้องการให้คนเขียนข่าวและบทความพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพนั้น ออกมาขอโทษ ผบ.ทบ. เนื่องจากเป็นการเขียนที่หมิ่นศักดิ์ศรี ซึ่งทำให้กลุ่มทหารจำนวน 50 นาย รับไม่ได้
ทั้งนี้ นายทหารคนหนึ่ง เปิดเผยว่า การมาที่สำนักพิมพ์ฯ ครั้งนี้ เป็นการมาด้วยใจ ไม่มีการจัดจ้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทหารกลุ่มนี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ เนื่องจากไม่มีตัวแทนจากหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการมารับเรื่องแต่อย่างใด ซึ่งนับว่า เป็นการเดินทางมาเรียกร้องเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ของทหารแล้ว
ด้านนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การกระทำของทหารครั้งนี้ ถือว่าเป็นการข่มขู่ คุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ดังนั้นตนได้ปรึกษากับผู้บริหารของเอเอสทีวี เพื่อเตรียมข้อมูลหลักฐานในการฟ้องร้องต่อไป
ขณะที่ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (12 มกราคม) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการ ได้โฟนอินสดจากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เข้ามายังกองบรรณาธิการ ASTV เพื่อกล่าวตอบโต้ กลุ่มทหารชั้นประทวน ได้เข้ามาเรียกร้อง ที่หน้าสำนักงาน หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ อีกครั้ง เพื่อให้หยุดเขียนข่าวกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ ผู้บัญชาการทหารบก โดยยืนยัน จะไม่มีทางออกมาขอโทษอย่างเด็ดขาด เพราะใช้หน้าที่สื่อมวลชนในการทำหน้าที่ ซึ่งในหลายคำถามที่ผู้สื่อข่าว ASTV ได้ถามทาง พล.อ.ประยุทธ์ ไป ก็ตอบไม่ได้ แล้วยังกลับมาด่าผู้สื่อข่าวด้วยถ้อยคำที่รุนแรงต่อหน้านักข่าวคนอื่น ๆ จึงอยากจะตั้งคำถามกลับไปว่า ผู้จัดการห่วย หรือ พล.อ.ประยุทธ์ ห่วยกันแน่
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังได้แนะนำให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเป็นทหารเพื่อประชาชน เข้าไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ไขจะดีกว่า อีกทั้งไม่ควรยึดติดตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก เพราะอีก 2 ปี ก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
