เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
จับได้เพราะเฟซบุ๊ก! เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบ ตี๋ โอรส พร้อมพวก หลังนักท่องเที่ยวอัพโหลดขึ้นโลกออนไลน์ พร้อมแจ้งตำรวจ ขณะ ตี๋ โอรส เที่ยวผับดัง ที่หัวหิน
วานนี้ (31 มกราคม) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยตำรวจชุดจับกุม ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ที่ สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสืบทราบว่า มีเครือข่ายของแก๊งโอรส หลบหนีเข้ามากบดานอยู่ในพื้นที่ อ.หัวหิน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้พยายามแกะรอย กระทั่งได้เบาะแสของผู้ต้องหาจากเฟซบุ๊ก และตามประกบตัว จนสามารถบุกเข้ารวบตัวได้ ในขณะที่ นายพัชชวัตร หรือ ตี๋ บุญมาดี อายุ 30 ปี หัวหน้าแก๊งโอรส ฉายา ตี๋ โอรส บริเวณถนนสระสรง หลังตลาดสดหัวหิน พร้อมลูกน้องคนสนิท คือ นายวรพงศ์ หรือ ปิ๊ก พลับพลาเล็ก หรือ ปิ๊กโอรส อายุ 33 ปี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจค้นบ้านเช่า พบยาอีรีมินไฟว์ หรือยาไฟว์ จำนวน 3 เม็ด อุปกรณ์ในการเสพยา คือ จานกระเบื้องสำหรับใส่ยาเค 1 ใบ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า 1 ใบ บัตรพลาสติกแข็ง 1 ใบ และหลอดกาแฟใช้ตักยาเคที่กลายเป็นผงแล้วสูดดมเข้าร่างกายทางจมูก จำนวน 2 หลอด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ขณะที่ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน ฆอ 3051 กทม. เป็นจังหวะที่ ตี๋ โอรส เดินลงมาซื้อดอกไม้ เพื่อไปไหว้ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน
ทั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจหัวหิน ชุดจับกุม เปิดเผยถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า ได้เบาะแสของ ตี๋ โอรส จากภาพถ่ายในเฟซบุ๊ก ซึ่ง ตี๋ โอรส พร้อมแก๊งเพื่อนประมาณ 10 คน ได้ขับรถเบนซ์สีดำ พากันไปเที่ยวลาลูน่าผับกลางเมืองหัวหิน จากนั้นมีนักท่องเที่ยวเห็นว่าแก๊ง ตี๋ โอรส มาเที่ยวที่นี่ จึงได้ถ่ายภาพและอัพโหลดขึ้นเฟซบุ๊ก พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนติดตามว่า ตี๋ โอรส มาพักอยู่ที่ไหน โดยติดตามตัวประมาณ 3 วัน และเข้าทำการจับกุมดังกล่าว
ส่วนทางด้าน ตี๋ โอรส ก็รับสารภาพว่า เคยมาเที่ยวที่หัวหิน และเห็นว่าบรรยากาศดี เลยมาเที่ยวกับเพื่อน ๆ อีกครั้ง ซึ่งตนกับเพื่อน ๆ มาเที่ยวได้ 5 วันแล้ว และยอมรับว่าระหว่างที่มาอยู่หัวหินนั้น ได้ร่วมกันเสพยาเคด้วย
สำหรับประวัติผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้น พบว่า ทั้งคู่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับในข้อหามียาเสพติด คีตามีนไว้ในครอบครอง ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคน ถือเป็นแก๊งที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจนครบาล
