อาจารย์หนู กันภัย ตอบทุกโจทย์ ทุกข่าวลือ ในวู้ดดี้เกิดมาคุย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            หากเอ่ยชื่อ "สมพงษ์ กันภัย" หลายคนคงสงสัยว่าเขาเป็นใคร แต่หากเอ่ยชื่อของ "อาจารย์หนู กันภัย" คงต้องร้องอ๋อกันเป็นแน่แท้... เพราะเขาเป็นถึงอาจารย์สักยันต์ระดับโลก ที่นักแสดงฮอลลีวูด บินลัดฟ้าต่อคิวขอสักยันต์กันหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แองเจลิน่า โจลี่, บริตตานีย์ แดเนียล และรายล่าสุดคือ มิเชล โรดริเกวซ ดาราดังฮอลลีวูดเรื่อง อวตาร... ส่วนในประเทศไทยนั้น บรรดาดารานักแสดงก็ต่อคิวสักยันต์อาจารย์หนูกันอย่างมากมายเช่นกัน... แต่ระยะหลังมานี้ มีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับเจ้าของสำนักสักยันต์กันภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดังแล้วหยิ่ง หากินบนความเชื่อของชาวบ้าน และที่เป็นข่าวฮอตทั่วสื่อทุกแขนงนั่นก็คือ ข่าวอมเงินวัดท่าไม้ ไปกว่า 400 ล้านบาท เลยทีเดียว

            เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทางรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย (17 กุมภาพันธ์) ก็ขอสัมภาษณ์ อาจารย์หนู ถึงเรื่องราวข่าวลือ ข่าวด้านลบต่าง ๆ พร้อมกับสำรวจสำนักของอาจารย์หนู ที่เขาบอกว่ามีพิธีรีตอง และเข้าหาตัวอาจารย์หนูได้ยากมาก มาให้ได้ชมกันว่า อาจารย์หนูเป็นอย่างที่ข่าวลือว่าจริงหรือเปล่า...


            โดยเริ่มต้นรายการด้วยการเยี่ยมชมบริเวณรอบ ๆ สำนัก ซึ่งพิธีกรวู้ดดี้ กล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวคล้าย ๆ เต็นท์รถ เพราะมีรถและมีธงสี ๆ เต็มไปหมด แต่เมื่อเข้าไปดูธงดังกล่าวแบบใกล้  ๆ ก็พบว่า ธงแต่ละผืนนั้นมีการลงยันต์กำกับทุกผืนเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นาน อาจารย์หนู ก็ได้ขับรถมินิเข้ามา ด้วยการแต่งกายที่ค่อนข้างแปลกตา เพราะปกติเราจะคุ้นชินกับอาจารย์หนูในชุดนุ่งขาวห่มขาวเสียมากกว่า แต่วันนี้อาจารย์หนูมาในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสบาย ๆ ซึ่ง อาจารย์หนูบอกว่า ปกติเขาก็แต่งตัวแบบนี้ เหมือนประชาชนทั่วไป

            ต่อจากนั้น อาจารย์หนูก็ได้พาเยี่ยมชมห้องที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งเป็นห้องสีชมพูหวานแหว๋ว โดยอาจารย์หนูระบุว่า ห้องนี้เป็นห้องที่เอาไว้แต่งตัว สระผม ตัดผม เพราะอาจารย์หนูไม่มีเวลาแม้จะออกไปข้างนอก ไม่มีเวลาตัดผม จึงต้องมีห้องเพื่อให้ช่างมาดูแลเรื่องทรงผม นอกจากนี้ อาจารย์หนูยังเผยว่า เขามีร้านอาหารประจำสั่งรับประทานบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาส และมีเวลาที่จะไปนั่งกินที่ร้านเลย งานนี้วู้ดดี้ก็เลยอาสาพาไปกิน โดยเจ้าของร้าน และประชาชนที่เห็นอาจารย์หนู ต่างก็ฮือฮา โดยเฉพาะเจ้าของร้านที่กล่าวว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่อาจารย์หนูมาทานข้าวที่ร้าน ทำให้พิธีกรวู้ดดี้อดถามไม่ได้ว่า.. เคยหลง และเหลิงไปกับคำชมแบบนี้บ้างหรือไม่ ด้านอาจารย์หนูกล่าวตอบว่า ไม่ แต่ดูท่าทางสีหน้าของอาจารย์หนูแล้ว คงจะแอบปลื้มนิด ๆ ที่มีคนชื่นชมเขาอย่างมากมาย

            หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ วู้ดดี้ก็ได้มีโอกาสเข้าไปยังห้องที่มีผู้คนมากมายมาสักยันต์ โดยอาจารย์หนูระบุว่า ราคาของแต่ละรอยสัก และแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันไป และระหว่างที่ดูอาจารย์หนูสักยันต์อยู่นั้น ก็เกิดเหตุการณ์ระทึก เมื่อจู่ ๆ ผู้ที่นั่งในบริเวณนั้น เกิดตะโกนโวยวาย และมีอาการคล้าย ๆ กับของขึ้น ซึ่งทำให้ทุกคนต่างตกใจ ส่วนด้านวู้ดดี้ ก็อยากลองของด้วยการพาน้องมีน น้องใหม่ที่กำลังจะเข้าวงการบันเทิงมาสักยันต์ และจะรอดูว่าน้องมีนจะมีเส้นทางในวงการที่ประสบความสำเร็จแบบรุ่นพี่ในวงการที่เคยสักยันต์หรือไม่...

            เมื่อสำรวจและดูพิธีการสักยันต์กันพอหอมปากหอมคอแล้ว วู้ดดี้ก็ขอจับเข่าคุยสัมภาษณ์อาจารย์หนูเกี่ยวกับข่าวลือต่าง ๆ ประเดิมข่าวแรก กับข่าวที่ มิเชล โรดริเกวซ ระบุว่า... อาจารย์หนูจ้างให้มาสักยันต์ เพื่อโปรโมทสำนัก เกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์หนู กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และข่าวพวกว่าจ้างทำนองนี้ ก็มาจากพวกที่ขี้อิจฉาปล่อยข่าว จ้องดิสเครดิต เนื่องจากมีสำนักสักยันต์ผุดขึ้นมามากมายในประเทศ และแต่ละคนนั้นก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาเก่า บางคนก็ยังเคยแนะนำให้ขึงหนังหมูซ้อมสักอยู่เลย แต่จู่ ๆ ก็กลายเป็นว่าเปิดสำนักแข่งกับตนแล้ว ซึ่งตนไม่ซีเรียส เพราะถึงจะมีร้านสักมากมายขนาดไหน แต่ทองแท้อย่างไรก็เป็นทอง


            เมื่อถามถึงเรื่องรอยสักห้าแถวที่เป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อหลายปีก่อน และข่าวนี้ก็ส่งผลให้ชื่อของ "อาจารย์หนู กันภัย" โด่งดังทั่วโลก นั่นก็คือการลงเข็มแผ่นหลังของนักแสดงฮอลลีวูด "แองเจลิน่า โจลี่" โดยวู้ดดี้บอกว่า มีคนเขาพูดกันถ้าไม่ได้โจลี่มาสัก อาจารย์หนูก็ไม่ดัง เรื่องนี้ อาจารย์หนูกล่าวว่า ตอนนั้นตนก็ไม่ได้ดังอะไร อยู่เพียงสำนักที่เป็นบ้านไม้เท่านั้น แต่ก็มีคนสนใจมาสักอย่างมากมาย ส่วนรอยสักของโจลี่ ที่สื่อต่างประเทศบอกว่า ตนเป็นพ่อมด สามารถสักยันต์ให้โจลี่แย่งสามีชาวบ้านนั้น จริง ๆ แล้วโจลี่เป็นคนระบุมาว่า.. ต้องการของดีจากประเทศไทย ที่ดีที่สุด และเขาอยากได้เมตตา ตนจึงสัก 5 แถวให้ เป็นวันประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งตนไม่ได้เรียกค่าครูเลย แต่ขอลงสื่อเพียงอย่างเดียว


            แต่พอเมื่อสักเสร็จ ชีวิตของโจลี่ก็พลิกพลัน เกิดพบรักกับแบรด พิตต์ เสียอย่างนั้น คนเลยคิดว่า ยันต์ของตนทำให้เขาสามารถแย่งสามีจากคนอื่นมาได้ ซึ่งมันไม่จริงเลย ถ้าถามว่า ตนได้ค่าครูจากโจลี่เท่าไร ตนจำไม่ได้แล้วจริง ๆ ส่วนครั้งที่สองที่โจลี่มาสักนั้น เขาต้องการของดีที่ทำประโยชน์ทั่วโลก ตนเลยสักเสือเหลียวหันให้ เพราะเนื่องด้วยบุคลิกที่เขาต้องเดินทางไปไหนต่อไหน โลดโผนเหมือนผู้ชาย ตนจึงสักลายดังกล่าวให้ไป ซึ่งครั้งที่สองตนก็จำไม่ได้ว่าเขาให้ค่าครูเท่าไร แต่ก็มากพอสมควรอยู่เหมือนกัน

            ต่อกันด้วยข่าวความรวย.. และชีวิตครอบครัว ที่เขาไม่เคยเปิดเผยกับสื่อที่ไหนมาก่อน โดยอาจารย์หนู ระบุว่า ตนมีลูกชายสองคนตั้งแต่ปี 2525 และได้เลิกรากับภรรยาคนเก่าไปตอนปี 2530 ส่วนตอนนี้มีภรรยาใหม่แล้ว ถ้าถามว่านอกจากสักยันต์แล้วตนทำอะไรบ้าง นอกเหนือจากการนำเงินไปทำบุญแล้ว ตนได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับค้าที่ดิน ปลูกหอพักต่าง ๆ


            งานนี้ วู้ดดี้ จึงเข้าประเด็นเกี่ยวกับข่าวที่บอกว่าอาจารย์หนูโกงเงินจากพระวัดท่าไม้ โดยถามว่าเรื่องราวจริง ๆ แล้วเป็นอย่างไร ด้านอาจารย์หนูตอบว่า ตั้งแต่ตนเป็นอาจารย์สักยักต์นั้น ตนสร้างวัด สร้างกุฏิมาแล้วนับ 10 วัด กับเรื่องโกงเงินนั้นคงเป็นไม่ไปได้ เพราะตนเคลียร์เงินทุกอย่างหมดแล้ว และถึงแม้ว่าพระที่ออกมาพูดจะบอกว่าตนโกง แต่สมัยนี้พระก็สามารถโกหกได้เหมือนกัน เพราะเรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร

            สุดท้ายนี้ เมื่อวู้ดดี้ได้มาเยือนยังสำนักของอาจารย์หนู กันภัย ก็ไม่พลาดที่จะถอดเสื้อให้อาจารย์หนูลงเข็มสักยันต์ โดยวู้ดดี้ให้โจทย์ว่า เขาไม่ต้องการสัก 5 แถว แต่ต้องการอะไรที่ไม่เหมือนใคร ด้านอาจารย์หนูจึงสักยันต์ "พระพุทธเจ้าเปิดโลก" ให้ โดยเป็นเหตุการณ์ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับโลกมนุษย์ หลังจากเทศน์สอนพุทธมารดาในสรวงสวรรค์ ครั้นออกพรรษาแล้วก็เสด็จลงจากเทวโลกในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือเรียกว่า เทโวโรหณะ ซึ่งเป็นวันที่ให้ชาวพุทธได้ตักบาตรเทโว เป็นวันมหามงคล เริ่มสิ่งใหม่ ๆ นำความสว่างไสวมาสู่ชีวิต
 
            สุดท้ายนี้... การสักยันต์นั้นเป็นความเชื่อ หรือบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเพียงศิลปะชั้นยอด แต่อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ศรัทธานั้น การสักยันต์ก็เหมือนเครื่องเตือนใจ ซึ่งหากเราคิดดี ทำดี และสิ่งดี ๆ ก็จะเกิดขึ้นกับตัวเราอย่างแน่นอน...