เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Google , outerspaceuniverse.org
หลายคนที่เข้ากูเกิลวันนี้ คงจะแปลกตาแปลกใจกับดูเดิลใหม่กันอีกครั้ง คราวนี้มาในรูปแบบของวิถีการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์กันเลยทีเดียวเชียวล่ะ ทำให้พอจะเดาได้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับนักดาราศาสตร์แหง ๆ และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ด้วย เพราะผู้ที่เป็นที่มาของดูเดิลในกูเกิลวันนี้นั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ นิโลลัส โคเปอร์นิคัส นักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ที่เป็นผู้พิสูจน์ทฤษฎีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล รวมทั้งทฤษฎีทางดาราศาสตร์ต่าง ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเรื่องราวของเขามาเล่าสู่กันฟังเช่นเคย
นิโคลัส โคเปอร์นิคัส เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1473 ที่เมืองตูรัน ประเทศโปแลนด์ ในครอบครัวของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง แต่เมื่อเขาอายุได้เพียง 10 ขวบ พ่อของเขาก็เสียชีวิต เขาจึงไปอยู่ในความดูแลของลุง (ฝ่ายแม่) ซึ่งเป็นบาทหลวง ทำให้โคเปอร์นิคัสเริ่มสนใจเรื่องศาสนา แต่แล้วเมื่อเติบโตขึ้น เขากลับเบนเข็มไปศึกษาด้านการแพทย์ เพราะมีความสนใจด้านนี้มากกว่า และได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยคราโคว แต่ในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยนั้น เขาต้องเรียนวิชาต่าง ๆ หลายวิชา หนึ่งในนั้นคือดาราศาสตร์ ซึ่งเขารู้สึกชอบวิชานี้มาก และอีกครั้ง เขาตัดสินใจเบนเข็มไปเรียนดาราศาสตร์อย่างจริงจัง แต่ไม่ทันจะเรียนจบ เขาก็เปลี่ยนไปเอาดีทางด้านวิชากฎหมายจนจบปริญญาเอก
หลังจากนั้น เมื่อลุงเขารู้ว่าเขาไม่ได้เรียนแพทย์ตามที่ตั้งใจให้เป็น ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก โคเปอร์นิคัสจึงกลับไปเรียนแพทย์อีกครั้ง โดยศึกษาควบคู่ไปกับวิชาดาราศาสตร์ จนจบการศึกษา และด้วยเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้เขาเชี่ยวชาญหลายสาขา ทั้งเป็นนักดาราศาสตร์ และเป็นหมอช่วยเหลือผู้ป่วยยากจนแบบฟรี ๆ ด้วย
ตลอดการเป็นนักดาราศาสตร์ของเขา โคเปอร์นิคัสค้นคว้าหาคำตอบเกี่ยวกับการโคจรของโลก โดยนำทฤษฎีของนักดาราศาสตร์หลาย ๆ คนมาศึกษา และสรุปได้ว่า ทฤษฎีของอาร์คีสทาร์คัสนั้นถูกต้องที่สุด นั่นคือ ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ไม่ใช่โลก โลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ต่างหมุนรอบดวงอาทิตย์ นอกจากนี้ เขายังพบว่า โลกมีทรงกลม หมุนรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา 1 ปี และหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน ซึ่งการหมุนรอบตัวเองของโลกนี้เองที่ทำให้เกิดกลางวัน-กลางคืน ส่วนดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะ ก็โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงกลม (แต่ต่อมา มีนักดาราศาสตร์ท่านอื่นพบว่าทฤษฎีนี้ผิดพลาด เพราะดาวเคราะห์และโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรี)
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเขาจะทำการทดลองจนแน่ใจว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาลแล้ว แต่ก็ไม่ได้เผยแพร่สิ่งที่ตัวเองค้นพบเพื่อยืนยันความจริงข้อนี้แต่อย่างใด เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเอง เนื่องจากมันสวนทางกับทฤษฎีของอริสโตเติล และความเชื่อทางศาสนาคริสต์ที่ว่า โลกหมุนรอบตัวเอง
ต่อมา จอร์จ โจคิม เรติคัส นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมัน ได้มาพบกับโคเปอร์นิคัส เพื่อศึกษาค้นคว้าด้านดาราศาสตร์ร่วมกัน และเรติคัสได้ขอให้โคเปอร์นิคัสเผยแพร่สิ่งที่ตัวเองได้ค้นพบเกี่ยวกับการโคจรของดวงอาทิตย์ โลก และดาวเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อให้คนได้เข้าใจและรับรู้ในสิ่งที่ถูกต้อง และในที่สุด ก็ได้มีการตีพิมพ์ผลงานของโคเปอร์นิคัสออกมา
ทั้งนี้ โคเปอร์นิคัสเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1543 ขณะมีอายุได้ 70 ปี แต่ผลงานของเขา ก็ได้กลายเป็นแนวทางในการศึกษาดาราศาสตร์มาถึงปัจจุบัน