อัสการ์ ชากูร์ ปาเตล
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก gulfnews.com
เศรษฐีอินเดีย ทุ่มงบ 27.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 788 ล้านบาท) ร่วมทุนสร้างอาคาร มหานคร ทาวเวอร์ ให้เป็นตึกสูงที่สุดของประเทศไทย หลังเล็งไทยมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เอมิเรทส์247 ได้มีรายงานว่า อัสการ์ ชากูร์ ปาเตล มหาเศรษฐีเชื้อสายอินเดีย ประธานกลุ่มบริษัท เฮาส์ ออฟ ปาเตลส์ กรุ๊ป แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ทุ่มงบ 27.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 788 ล้านบาท) ร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้างอาคาร มหานคร ทาวเวอร์ ตึกที่สูงที่สุดของประเทศไทย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2015
ทั้งนี้ นายอัสการ์ซึ่งเป็นนักลงทุนในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการด้านการเงิน ขนส่ง และโลจิสติก เผยเหตุผลในการลงทุนร่วมในโครงการ มหานคร ทาวเวอร์ ในไทย ว่า เป็นเพราะการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีงบการเงินที่ผ่านมา อันจะเห็นได้จากรายงานการเติบโตของจีดีพี 18.9% ของรัฐบาลเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายอัสการ์ยังเผยว่า ประเทศไทยมีคนในกลุ่มชนชั้นกลางที่มั่งคั่งอยู่มาก ซึ่งเหมาะจะสนับสนุนการพัฒนาในอนาคต ขณะที่ฮ่องกงและสิงคโปร์นั้นมีความอิ่มตัวแล้วและแทบจะไม่มีที่ดินเหลือสำหรับนักลงทุน อีกทั้งยังมีข้อเสนอจากกัลกัตตาที่จะสร้างถนนทะลุพม่ามายังไทยได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ความร่วมมืออาเซียนเกิดขึ้น ไทยก็จะกลายเป็นใจกลางของเอเชีย โดยที่ทั้งจีน อินเดีย และญี่ปุ่นต่างก็จะต้องมาลงทุนในไทย
สำหรับรูปแบบของอาคาร จะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวของไทย และจะถูกพัฒนาให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยม่านแก้ว ตัวอาคารจะมีความสูง 314 เมตร ภายในประกอบไปด้วยส่วนของโรงแรม ร้านค้าปลีก และที่เช่าอาศัยอีก 14 ห้อง ซึ่งนายอัสการ์ได้คาดการณ์งบประมาณต้นทุนทั้งหมดในโครงการนี้ว่ามีมูลค่าทั้งหมดรวม 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,530 ล้านบาท)
**หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 11 เมษายน 2556
