เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ประชาชนเริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงสงกรานต์แล้ว ทำให้ถนนสายหลักหลายเส้นทางเริ่มหนาแน่น ติดขัด ด้านตำรวจทางหลวงส่งกำลังอำนวยความสะดวกเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 11 เมษายนนี้ ถือเป็นวันแรกของโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ 7 วันอันตราย โดยตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว ทำให้ถนนสายหลัก ๆ ที่ใช้ออกต่างจังหวัด การจราจรเริ่มหนาแน่น เคลื่อนตัวช้า สลับหยุดนิ่งในบางจุด
อย่างเช่นที่บริเวณต่างระดับถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้าถนนสายเอเชีย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้เริ่มมีปริมาณรถมากขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ในส่วนของถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสระบุรี เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ปริมาณรถยังคงคล่องตัว แต่คาดว่าปริมาณรถจะเพิ่มเต็มที่ในช่วงบ่ายของวันนี้
ขณะที่ในเส้นทางภาคเหนือนั้น จากการตรวจสอบการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 11 ช่วงลำพูน-เชียงใหม่ ตั้งแต่อำเภอแม่ทา ไปจนถึงจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ขณะนี้ เต็มไปด้วยรถของนักท่องเที่ยวและประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และคาดว่ารถจะยิ่งหนาแน่นขึ้นในวันพรุ่งนี้ เช่นเดียวกับ ถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก เส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การจราจรเริ่มหนาแน่นอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่เส้นทางหลวง หมายเลข 11 ตากฟ้า-พิษณุโลก และทางหลวง หมายเลข 1 (พหลโยธิน-นครสวรรค์) ขณะนี้ยังเคลื่อนตัวได้ดี มีปัญหารถกระจุกตัวบ้างในจุดแวะพัก
ส่วนในสายที่ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างถนนมิตรภาพมุ่งหน้าสู่ลำตะคอง ขณะนี้รถหนาแน่น เต็มทุกพื้นที่ เคลื่อนตัวได้ช้าสลับหยุดนิ่ง ตั้งแต่ กม.30 เนินกลางดง โดยการจราจรจะติดขัดในช่วงเนินคลองไผ่ อีกจุดที่มีปริมาณรถมากเช่นกันก็คือ ช่วงทางขึ้นเขาอำเภอปากช่องไปจนถึงอำเภอสีคิ้ว มีปริมาณรถหนาแน่นมาก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันเร่งระบายรถ เพราะคาดว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ปริมาณรถจะยิ่งหนาแน่นขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า ในสายที่มุ่งหน้าไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีปริมาณรถหนาแน่นทุกปีนั้น ในปีนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะเปิดช่องทางพิเศษ ย้อนเลน ตั้งแต่ช่วงทับกวาง กม.ที่ 17 ไปถึงปากช่อง ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ในช่วงเย็นวันนี้ (11 เมษายน) หรือหากมีปริมาณรถหนาแน่น ก็จะเปิดเพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนทันที
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่าเป็นห่วง คือ ถนนพหลโยธิน กม.ที่ 85 ช่วงคลองระพีพัฒน์ โดยกรมทางหลวง ปิดช่องทางคู่ขนานทั้งสองฝั่ง ทั้งขาไปและขากลับ เพื่อปรับปรุงพื้นถนน จึงแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง คือ ก่อนถึงคลองระพีพัฒน์ ประมาณ กม.ที่ 83 จะมีทางเบี่ยงซ้าย เพื่อไปยังเส้นทางหลวงหมายเลข 309 หรือถนนพหลโยธินสายเก่าแทน สามารถวิ่งไปสู่ภาคเหนือได้ ซึ่งจะมีป้ายบอกทางตลอด
นอกจากนี้ ตำรวจทางหลวงได้ตั้งจุดตรวจและจุดให้บริการรวม 161 จุด เพื่อบริการประชาชน พร้อมทั้งอำนวยการจราจรตลอดเส้นทาง อีกทั้ง กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กว่า 2,000 นาย ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์บนรถ หากพบจะถูกดำเนินคดีไม่มียกเว้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
