เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้
บก.จร. ยกทัพอุปกรณ์ไฮเทคจับภาพและออกใบสั่งผู้ขับขี่รถฝ่าฝืนกฎจราจร โดยขณะนี้ได้ซ่อมแซมระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแล้ว และจะมีการติดตั้งกล้องจับความเร็ว รวมถึงนำจ่าเฉยอัจฉริยะ มาติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วย
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบังคับใช้กฎหมายด้านการจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ บก.จร. จึงได้ดำเนินการจัดซ่อมระบบตรวจจับรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หรือ Red Light Camera System ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว ซึ่งระบบดังกล่าวจะเป็นการบันทึกภาพผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร โดยมีจุดการติดตั้ง 30 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ดังนี้
1. แยกซังฮี้ 2. แยกพญาไท 3. แยกอุรุพงษ์ 4. แยกเหม่งจ๋าย 5. แยกอโศก-เพชรบุรี 6. แยกบางโพ 7. แยกประชานุกูล 8. แยกประดิพัทธ์ 9. แยกรัชดาภิเษก-ลาดพร้าว 10. แยกร่มเกล้า 11. แยกโชคชัย 4 12. แยกนิด้า 13. แยกบ้านม้า 14. แยกลำสาลี 15. แยกประเวศ 16. แยกโพธิ์แก้ว 17. แยกคลองตัน 18. แยกพัฒนาการ-รามคำแหง 24 19. แยกรัชดา-พระราม 4 20. แยกศุลกากร 21. แยกราชประสงค์ 22. แยกวิทยุ-เพลินจิต 23. แยกอโศก-สุขุมวิท 24. แยกนรินทร 25. แยกสาทร 26. แยกอังรีดูนังต์ 27. แยกท่าพระ 28. แยกบางพลัด 29. แยกตากสิน 30. แยกบ้านแขกพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากกล้อง Red Light Camera System ทาง บก.จร. ยังได้ประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จัดซื้อกล้องตรวจจับความเร็ว เพื่อตรวจจับความเร็วผู้ที่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และจะมีการออกใบสั่งไปยังเจ้าของรถตามหมายเลขทะเบียน เพื่อให้มาชำระค่าปรับภายในเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Lane Change Management System เป็นกล้องตรวจจับการเปลี่ยนช่องทางในเขตห้าม เช่น คอสะพาน ส่วนจ่าเฉยอัจฉริยะก็จะนำมาติดตั้งในเร็ว ๆ นี้ เช่นกัน ทั้งนี้มาตรการในการบังคับใช้กฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ก็เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดกฎจราจรและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นขอฝากให้ประชาชนทุกท่านที่ใช้รถใช้ถนนขับขี่รถด้วยความระมัดระวังและอย่าฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เพราะจะทำให้เกิดอันตรายแก่ตนเองและผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถิติที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2556 พบว่า มีสถิติการออกใบสั่ง ด้วยระบบดังกล่าว รวมจำนวนทั้งสิ้น 12,044 ราย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
