เอกยุทธ อัญชันบุตร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก เอกยุทธ อัญชันบุตร
กลายเป็นข่าวฮือฮาที่สร้างความสงสัยให้ใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว เกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของ "นายเอกยุทธ อัญชันบุตร" นักธุรกิจด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา โดยก่อนที่จะหายตัวไปนั้น มีการเบิกเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทไปด้วย หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัว "นายสันติภาพ เพ็งด้วง" คนขับรถของนายเอกยุทธ มาสอบปากคำ โดยนายสันติภาพระบุว่า การหายตัวไปครั้งนี้ เป็นการวางแผนของนายเอกยุทธเอง แต่เมื่อซักไปซักมา นายสันติภาพ ก็ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือสังหารนายเอกยุทธเอง เนื่องจากโกรธแค้นที่ไล่แฟนของตัวเองออก และต้องการเงิน... แต่ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงไม่ปักใจเชื่อถึงเงื่อนงำในการฆาตกรรมครั้งนี้
และแน่นอนชื่อของ "เอกยุทธ อัญชันบุตร" ก็กลายเป็นชื่อที่ทุก ๆ คนอยากรู้จัก และอยากทราบประวัติว่า.. เพราะอะไร การหายตัวไปของเขาในครั้งนี้ ถึงมีนักการเมืองหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์และแสดงความคิดเห็น โดยในวันนี้เราจึงขอเท้าความและบอกเล่าประวัติรวมทั้งที่มาที่ไปของนายเอกยุทธให้ได้ทราบกัน
นายเอกยุทธ อัญชันบุตร หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า จอร์จ ตัน (George Tan) เป็นนักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของเว็บไซต์ "ไทยอินไซเดอร์" ซึ่งต่อต้านรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยในอดีตเคยต้องคดีแชร์ชาร์เตอร์ และกบฏ 9 กันยายน เมื่อปี 2528 ก่อนที่จะหลบหนีคดีออกนอกประเทศ และเดินทางกลับมาหลังจากคดีหมดอายุความแล้ว
นายเอกยุทธ เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2502 เป็นบุตรของ ร้อยโทแปลก อัญชันบุตร และนางนันทา ฉัตรกุล ณ อยุธยา ศึกษาที่โรงเรียนแม้นศรีวิทยา, โรงเรียนเทพประสาทวิทยา ก่อนที่จะเดินทางไปเรียนระดับไฮสกูลที่เมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา และหลังกลับมาทำธุรกิจก่อสร้างร่วมกับพี่ชาย จากนั้นก็ได้ไปเรียนต่อทางด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน การคลัง ที่มหาวิทยาลัยแปซิฟิก ฮาวาย
ทั้งนี้ เมื่อนายเอกยุทธจบการศึกษา ก็ได้เริ่มทำธุรกิจซื้อขายคอมมอดิตี้ส์ และซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จากนั้นก็ได้เปิดบริษัทนายหน้าซื้อขายคอมมอดิตี้ส์ และเงินตราต่างประเทศ ในชื่อ "ชาร์เตอร์อินเวสต์เมนต์" ในปี 2525 ถัดมาเพียง 1 ปี นายเอกยุทธก็ได้หาช่องทางทำเงินจากช่วงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศที่สูงขึ้น โดยนายเอกยุทธได้คิดหากำไรจากส่วนต่างดอกเบี้ย คือกู้เงินต่างประเทศด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 มาฝากในสถาบันการเงินในประเทศเพื่อทำกำไร และนำกำไรที่ได้ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม
เรียกได้ว่ากิจการบริษัทนายหน้าของนายเอกยุทธกำลังไปได้สวย มีนายทหารและนักการเมืองจำนวนมากร่วมลงทุน และถึงจุดที่รุ่งเรืองที่สุดเมื่อปี 2527 แต่แล้วเมื่อปลายปี 2527 สมัยรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้มีการประกาศลดค่าเงินบาท พร้อมกับออก พ.ร.บ.การกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ต่อจากนั้นช่วงกลางปี 2528 ก็มีข่าวว่าทางการจะออกหมายจับนายเอกยุทธ เจ้าตัวจึงรีบเดินทางออกนอกประเทศ นอกจากนี้ ทรัพย์สินของนายเอกยุทธ และบริษัทชาร์เตอร์ ก็ถูกทางการอายัด และถูกนำขายทอดตลาด หลังมีคนไปฟ้องว่าเช็คของนายเอกยุทธนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงทำให้มีผู้เข้าร้องเรียนกับกองปราบเป็นจำนวนหลายพันคน
ส่วนการหลบหนีคดีแชร์ชาร์เตอร์ นายเอกยุทธได้ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเยอรมนี และได้พบกับพันเอกมนูญ รูปขจร โดยการประสานงานกับกลุ่มผู้นำสหภาพแรงงาน ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย และร่วมกันก่อกบฏ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2528 เพื่อล้มล้างรัฐบาลของพลเอกเปรม แต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวอเมริกา และชาวออสเตรเลีย หลังจากนั้นนายเอกยุทธก็กลับไปหลบหนีที่ประเทศเยอรมนีอีก และย้ายไปหลบหนีที่ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ
ข่าวคราวของนายเอกยุทธเงียบหายไปเกือบ 20 ปี แต่เมื่อกลางปี 2547 นายเอกยุทธก็กลับมาเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อได้เข้าไปที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเจรจาทางการเมือง โดยนายเอกยุทธพยายามจะให้เงินสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อโค่นล้มรัฐบาล แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้แถลงข่าวปฏิเสธที่จะรับเงินไว้
หลังจากนั้น นายเอกยุทธ จึงได้รวมตัวกับกลุ่มประชาชนเพื่อชาติและราชบัลลังก์จัดปราศรัยขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นที่ท้องสนามหลวงในเดือนกันยายน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากผู้ร่วมชุมนุมมีไม่มาก แต่ถึงกระนั้นนายเอกยุทธก็เป็นข่าวอีกเป็นระยะ ๆ เกี่ยวกับการวิพาษ์วิจารณ์และการโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่อยมา แต่ในขณะเดียวกัน บางครั้ง นายเอกยุทธก็ได้วิพากษ์วิจารณ์และโจมตี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำผู้หนึ่งของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้วยเช่นกัน
สำหรับคดีความของนายเอกยุทธนั้นมีหลายคดีด้วยกัน อาทิ คดีฟ้องการทำร้ายร่างกายผู้จัดการคาราโอเกะซิตี้ และพกพาอาวุธ ถนนย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา, คดีการฟ้องร้อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ข้อหาหมิ่นประมาท สืบเนื่องมาจากคดีทำร้ายร่างกายผู้จัดการคาราโอเกะซิตี้ แต่เรื่องที่คนให้ความสนใจมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับปมการเมือง คือการออกมาบอกว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาราชการเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซั่น ที่ ถ.วิทยุ เพื่อทำธุระส่วนตัว ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า "ว.5 โฟร์ซีซั่น"
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่นายเอกยุทธจะหายตัวไป นายเอกยุทธได้โพสต์เฟซบุ๊ก เอกยุทธ อัญชันบุตร เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เวลา 17.01 น. ว่า... "ผมเตือนนักลงทุนทั่วไปเมื่อวันที่ 1-6-13 ถึงหุ้น "ความจริง" วันนั้นอยู่ที่ 11-12 บาท และบอกไว้ว่าราคาที่เหมาะสมและเจ้ามือทุนอยู่ที่ประมาณ 6-8 บาท..วันนี้มาให้เห็นแล้ว.." แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์อีกเลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา คนในครอบครัวของนายเอกยุทธ ก็ได้เข้าแจ้งความว่านายเอกยุทธได้หายตัวไปจากบ้าน
สำหรับเหตุการณ์หายตัวไปดังกล่าว ถึงแม้ว่า นายสันติภาพ คนขับรถจะสารภาพว่าร่วมมือกับเพื่อนเพื่อฆาตกรรมหวังชิงทรัพย์ แต่ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากยังไม่พบศพของนายเอกยุทธ.. ขณะเดียวกัน ก็มีคำถามมากมายในสังคมว่า นายเอกยุทธ จะตายเพียงเพราะถูกคนขับรถฆ่าชิงทรัพย์จริงหรือ? ..ส่วนเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
