หน้าบ้าน...เขียวได้อีก : ปลูกเพื่อสร้างเมืองน่าอยู่ (สสส.)
โดย tapana kamta | วันที่ 13 มิถุนายน 2556
มีหนึ่งเหตุการณ์น่ารัก ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองซูกินามิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวคือ พวกเขาใช้ดอกไม้ต่อสู้กับโจร โดยการร่วมกันปลูกต้นไม้บริเวณหน้าที่พักอาศัยในชุมชนตัวเอง ผ่าน "ปฏิบัติการดอกไม้" (Operation Flower) ใช้เวลาแค่ 3 ปี สามารถลดจำนวนคดีอาชญากรรมจาก 1,710 คดี เหลือ 390 คดี เพราะการที่สมาชิกในบ้านและอาสาสมัครออกมาดูแลต้นไม้ที่ปลูกไว้นั้น เท่ากับว่าเป็นการออกมาตรวจตราความสงบเรียบร้อยของชุมชนไปด้วย
...ณ ตอนนี้ดอกไม้ก็บานสวย ชาวบ้านเองก็ยิ้มแฉ่ง...
การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมือง จึงไม่ได้หมายถึงการฟอกอากาศด้วยการเพิ่มก๊าซออกซิเจน ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวมมากมาย ทั้งยังเป็นสิทธิของทุกคนที่จะมีพื้นที่สีเขียวเพื่อใช้สอยร่วมกัน เหล่านี้จึงเป็นที่มาของกลุ่มคนที่มุ่งมั่นปกป้อง รักษา และเฝ้าระวังการตัดต้นไม้ในเมืองใหญ่ อย่างกลุ่ม "BIG Tree"
"หน้าบ้าน...เขียวได้อีก โครงการปลุกกระแสการปลูกต้นไม้ในเมืองหลวง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ด้วยกัน โดยคำว่า หน้าบ้าน ไม่ได้หมายความว่า เป็นหน้าบ้านของตัวเองเท่านั้น แต่หมายถึงหน้าบ้านของเราทุกคน" อรยา สูตะบุตร สมาชิกกลุ่ม BIG Tree บอกเล่าเจตนารมณ์ของโครงการนี้
อรยา เล่าต่อว่า ล่าสุดทางกลุ่มได้สานต่อโครงการนี้ ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ จัดกิจกรรม "โรงพยาบาลในสวน : Green Hospital in the City" รณรงค์ ให้มีการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ภายในโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่ดีขึ้น เอื้อประโยชน์กับผู้ป่วยที่มารอรับบริการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
โดยทางกลุ่มมีบทบาทเป็นผู้ประสานความร่วมมือในการทำงาน และเสนอความคิดว่า ควรจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวตรงไหนบ้างในโรงพยาบาลจุฬาฯ ทั้งนี้เจ้าของบ้านเองซึ่งไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่งต้องมีจิตอาสาที่จะร่วม กันดูแลต้นไม้ต่อไปในอนาคต
แสดงให้เห็นว่า นี่คือตัวอย่างขององค์กรที่สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ด้วยตัวเอง จากปัจจุบันในโรงพยาบาลจุฬาฯ มีต้นไม้ 666 ต้น แต่อีก 10 ปีข้างหน้าวางเป้าหมายว่าจะเพิ่มเป็น 1,000 ต้น หรือร้อยละ 30 ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นสถานที่อีกหนึ่งแห่งท่ามกลางเมืองหลวงที่มีพื้นที่สีเขียวอันน้อยนิด ไว้ให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสความร่มรื่นของธรรมชาติ และเป็นเจ้าของร่วมกัน
"การเพิ่มพื้นที่สีเขียวนั้น สามารถลงมือทำได้ทันทีด้วยตัวเราเอง และไม่ใช่ทำได้แค่เฉพาะการปลูกต้นไม้เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำได้ เช่น การเก็บขยะ การปลูกผัก การเฝ้าระวังการตัดต้นไม้ เหล่านี้ถือว่าทุกคนได้ช่วยกัน ลงมือตั้งแต่วันนี้ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องไปว่าใคร" สมาชิกกลุ่ม BIG Tree ฝากทิ้งท้าย
จากข้อมูลของสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพฯ ระบุว่า พื้นที่สีเขียวทั้งหมดในกรุงเทพฯ มีประมาณ 27 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 1.72 ของพื้นที่ทั้งหมด เทียบกับจำนวนประชากร 5.6 ล้านคน จะมีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวเพียง 4.76 ตารางเมตร/คน เท่านั้น ในขณะที่มาตรฐานระดับสากลกำหนดให้ควรจะมีพื้นที่สีเขียว 9 ตารางเมตร/คน ข้อมูลนี้ไม่เพียงบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ทว่ายังสะท้อนความเจริญของเมืองนี้ รวมถึงเป็นตัวชี้วัดเรื่องสุขภาพโดยรวมของคนในเมืองอีกด้วย
การพูดซ้ำซากว่าเราควรจะหันมาใส่ ใจ และดูแลรักษาธรรมชาติ อาจไม่ส่งผลอะไรเท่าที่ควร เพราะในขณะที่เราพูดคำว่า "จะ" ก็เป็นเวลาเดียวกับที่เราทำลายธรรมชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่มีหลายเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้น บอกกับเราว่า "ธรรมชาติเป็นเสมือนอาวุธที่ทรงพลัง มีเพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่อวดดีจ้องทำลายและพยายามจะเอาชนะ"
ดังนั้น "อย่ารอ อย่าอ้าง ลงมือทำตั้งแต่วินาทีนี้" เพราะมนุษย์กับธรรมชาติต้องอยู่ร่วมกัน และดูแลซึ่งกันและกันไปตลอดจนชั่วกัลปาวสาน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
