
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ถ้าใครชอบกินปลาแล้วยังชอบเข้าร้านสเต็กด้วยล่ะก็ คงต้องเคยสั่ง "สเต็กปลาดอรี่" มาทานกันแน่เลย แหม...แค่ฟังชื่อ "ปลาดอรี่" ก็ดูเป็นอาหารจานหรูขึ้นมาแล้วเนอะ แถมพอตักเข้าปากก็ยังสัมผัสได้ถึงเนื้อนุ่ม หวาน อร่อย หอมกลิ่นเนยและเครื่องเทศสุด ๆ จนกลายเป็นสเต็กจานโปรดของใครหลายคนเลยใช่มะ พูดแล้วก็หิววว ><
ว่าแต่คนชอบทานปลาดอร์รี่ทั้งหลายรู้กันไหมว่าเจ้าปลาชนิดนี้เป็นสายพันธุ์อะไร นำเข้ามาจากที่ไหน วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลมาบอกกัน
สำหรับปลาดอรี่นั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์ คือ


ปลาจอห์น ดอรี่

ทั้งนี้ปลาแพนกาเซียสดอรี่นี้คนมักเรียกกันสั้น ๆ จนติดปากว่า "ปลาดอรี่" ซึ่งที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยนั้น นำเข้ามาจากฟาร์มเลี้ยงในเวียดนาม

ปลาสวาย
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีข้อมูลระบุว่า จริง ๆ แล้วปลาดอรี่ที่เราทานกันอยู่นั้นไม่ใช่ปลาดอรี่จริง ๆ แต่เป็นปลาสวาย ซึ่งข้อมูลนี้มีบางส่วนไม่ถูกต้องจึงขอแก้ไขความเข้าใจเสียใหม่
กล่าวคือ ปลาดอรี่นั้นมีอยู่ 2 สายพันธุ์ดังที่บอกไว้ข้างต้น แต่ที่คนไทยนิยมรับประทานคือสายพันธุ์ที่มีชื่อสากลว่า "แพนกาเซียสดอรี่" ซึ่งอยู่ในตระกูลปลาสวาย และก็ถือเป็นปลาดอรี่สายพันธุ์หนึ่งเช่นกัน
เรื่องนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความเข้าใจผิดด้วยการออกหนังสือเรื่องแนวทางการแสดงฉลากเนื้อปลาสวายหรือเนื้อปลาในตระกูลแพนกาเซียสเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 โดยระบุให้ปรับแก้ไขการแสดงฉลากให้ถูกต้อง ภายในวันที่ 1 มกราคม 2555 ความว่า


ทีนี้หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องนำเข้าปลาแพนกาเซียสดอร์รี่จากเวียดนามด้วย นั่นก็เพราะเนื้อปลาชนิดนี้ที่เวียดนามเลี้ยงมีคุณภาพดีกว่า เนื้อปลามีสีขาวดูน่ารับประทาน และยังมีรสชาติอร่อย ต่างจากปลาสวายที่ขายตามตลาดสดของไทยที่เนื้อมีสีเหลืองและมีรสชาติไม่ถูกปากนัก
ปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ของเวียดนามเลี้ยงได้ในน้ำจืด เป็นปลาที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งกรดไขมันโอเมก้า-2 วิตามินบี 2 โปรตีน ทานแล้วดีต่อสุขภาพ ร้านอาหารหลายแห่งจึงยกเมนูปลาดอร์รี่เป็นอีกหนึ่งอาหารเพื่อสุขภาพอย่างไม่ต้องสงสัย
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 15.46 น. วันที่ 22 กันยายน 2557