เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
DSI ตรวจรถหรูวันแรก พบรถเบนซ์จดประกอบ เข้าข่ายเลี่ยงภาษี 1 คัน ด้านเจ้าหน้าที่สั่งอายัด ห้ามโอน-ขายแล้ว ก่อนที่จะส่งรถคืนให้กับเจ้าของ รอผลตรวจเชิงลึก ขณะที่บริษัทประกันเริ่มยกเลิกทำประกัน ลัมโบร์กินี่ นิสสัน จีทีอาร์ หวั่นโดนโกงเอาประกัน-ซ่อมไม่คุ้มเงิน
วันนี้ (24 มิถุนายน 2556) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก 6 หน่วยงาน เริ่มดำเนินการตรวจสอบรถหรู 548 คัน ที่ขึ้นทะเบียนเป็นรถจดประกอบเป็นวันแรก โดยมีผู้ครอบครองรถเบนซ์ จำนวน 5 คัน สมัครใจนำรถเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบด้านกายภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจเช็กรายละเอียดตัวถัง, เลขชุดเกียร์ และเลขเครื่องยนต์ หากพบว่าตรงกับเลขฐานข้อมูลโรงงานผลิตทั้ง 3 ส่วน ก็หมายความว่ารถดังกล่าวเป็นรถยนต์คันเดียวกันตั้งแต่โรงงาน แล้วค่อยแยกชิ้นไปขอขึ้นทะเบียน ก่อนนำมาประกอบกลับคืน เพื่อจ่ายภาษีในอัตรารถจดประกอบ ซึ่งมีอัตราภาษีต่ำกว่าภาษีนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน ถือว่าเป็นรถมีเหตุอันควรสงสัยว่าเลี่ยงภาษีผิดกฏหมาย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบรถเบนซ์ รุ่นอี 240 ทะเบียน กน 819 นครสวรรค์ พบว่า ตัวเลข 3 จุดนั้นตรงกับเลขฐานข้อมูลของโรงงาน ซึ่งบ่งชี้ได้ว่ารถคันนี้เป็นรถต้องสงสัยหลีกเลี่ยงภาษี โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึด และสั่งห้ามโอนขาย ก่อนที่จะคืนรถยนต์ให้กับเจ้าของไปเก็บรักษาก่อน จากนั้นจะรอผลการตรวจสอบเชิงลึกจากเอกสารของกรมศุลกากร
โดยกรณีนี้ เจ้าของรถอ้างว่า เป็นการนำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการแยกชิ้นส่วนเดิมมาประกอบเป็นคันในประเทศไทย โดยเจ้าตัวซื้อมา 1 ล้านบาทเศษ และอยู่ในระหว่างผ่อนชำระ ยังไม่ได้โอนชื่อจากเจ้าของเดิม และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า รถเบนซ์รุ่นดังกล่าว ในตลาดนั้นมีราคาสูงถึงกว่า 4 ล้านบาท เลยทีเดียว
สำหรับผู้ครอบครองรถยนต์จดประกอบที่สมัครใจนำรถยนต์เข้าตรวจสอบล่าสุดมี จำนวน 31 คัน จากจำนวนทั้งสิ้น 548 คัน ซึ่งทาง DSI ได้ขยายเวลาให้ผู้ครอบครองรถหรูสมัครใจขอนัดวันนำรถเข้าตรวจสอบอีก 7 วัน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า บริษัทประกันภัยเริ่มมีการยกเลิกการทำประกันรายใหม่สำหรับรถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กินี่ และรถสปอร์ตนิสสัน จีทีอาร์ โดยรายงานระบุว่า บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ได้ออกหนังสือเวียนขอให้ทุกสาขายกเลิกการรับประกันรถยนต์ทั้ง 3 ยี่ห้อแล้ว แต่ให้ยกเว้นงานต่ออายุต่อเนื่องภายในบริษัท และค่าสินไหมทดแทนไม่เกินร้อยละ 70 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป เนื่องเวลาเกิดอุบัติเหตุทางประกันภัยต้องเสียค่าใช้จ่ายซ่อมแซมสูง และบางกรณีก็ทุจริตเพื่อเอาประกันภัย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
