เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
แรงงานเลี้ยงไก่ ทั้งชาวพม่าและชาวไทยของบริษัท สหฟาร์ม ที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ลุกฮือเรียกร้องค่าแรงที่ค้างจ่ายอีก ด้านกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สั่งสหฟาร์มเคลียร์ค่าจ้างแรงงานต่างด้าว 2 งวด ภายใน ก.ค.นี้ ลั่นบริษัทอ้างขาดสภาพคล่องไม่ได้
ในช่วงเย็นของวานนี้ (9 กรกฎาคม 2556) กลุ่มแรงงานเลี้ยงไก่ชาวพม่าและชาวไทยของบริษัท สหฟาร์ม ที่ ต.ระวิง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จำนวนราว 200 คน รวมตัวกันเรียกร้องให้บริษัทจ่ายค่าจ้างที่ติดค้าง จำนวน 45 วัน พร้อมขู่จะเผาทำลายทรัพย์สินของบริษัท จากนั้นเรียกร้องให้ตัวแทนบริษัทมาเจรจา ทำให้มีการระดมกำลังตำรวจและกำลัง อส. พร้อมรถดับเพลิงของ อบต.ระวิง มารักษาความสงบเรียบร้อย ต่อมา นายจำนง อินทสุวรรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหฟาร์ม และ นางอภิญญา ขาวลิขิต สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (สสค.) จ.เพชรบูรณ์ พร้อม พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เข้าไปเจรจา
ซึ่ง นายจำนง ชี้แจงถึงเหตุผลที่ทำให้บริษัทต้องขาดสภาพคล่อง และอยู่ระหว่างการแก้ไขสถานการณ์ จากนั้นรับปากจะจ่ายค่าจ้างที่ติดค้าง 50 เปอร์เซ็นต์ของเดือนพฤษภาคม ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ส่วนค่าจ้างในเดือนมิถุนายน จะจ่ายภายในกรกฎาคมเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ขอร้องให้แรงงานอย่าก่อเหตุความวุ่นวาย เพราะจะทำให้สถานการณ์ของบริษัทแก้ไขลำบากยิ่งขึ้น ส่วนไฟฟ้าที่ถูกตัดจะต่อให้ใช้เร็วที่สุดหรือให้แรงงานย้ายไปพักในโครงการใกล้เคียงซึ่งมีไฟฟ้าใช้ ทำให้กลุ่มแรงงานทั้งหมดต่างแสดงความพอใจและแยกย้ายกลับเข้าแคมป์ที่พัก
ด้าน นายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีบริษัท สหฟาร์ม ผู้ทำธุรกิจผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ค้างค่าจ้างพนักงานมากว่า 2 เดือน ว่า ทางกรมได้เข้าไปเจรจากับผู้บริหารของบริษัทรวมถึงตัวแทนลูกจ้างแล้ว และได้ข้อสรุปว่าจะให้ผู้บริหารบริษัทแบ่งจ่ายเงินค่าจ้างที่ค้างอยู่ของเดือนพฤษภาคมเป็น 2 งวด งวดแรกนัดจ่ายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ โดยให้เตรียมวงเงินไว้จ่ายค่าจ้าง 34 ล้านบาท สำหรับส่วนที่เหลือทั้งหมดนัดจ่ายภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ให้กับลูกจ้างที่มีปัญหารวม 9,200 คน แบ่งเป็นโรงงานใน จ.ลพบุรี 5,400 คน และ จ.เพชรบูรณ์ 3,800 คน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว
ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถจ่ายคืนได้ก็จะใช้กฎหมายเข้าไปบังคับ เพราะตามกฎหมายคนทำงานย่อมได้ค่าจ้างจะมาอ้างว่าขาดสภาพคล่องไม่ได้ โดยกระบวนการต่อไป ทางกรมเตรียมใช้เงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเข้าไปช่วยเหลือดูแลลูกจ้างชั่วคราวก่อน ขณะเดียวกันก็อาจเข้าไปยึดทรัพย์ของนายจ้างเพื่อขายทอดตลาด และนำเงินมาจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างต่อไป
อย่างไรก็ดี ทางสหฟาร์มยืนยันว่าจะไม่ปิดกิจการ แต่จะพักกิจการชั่วคราว เพื่อรอเงินทุนมาเสริมสภาพคล่อง ก่อนจะกลับมาเดินหน้าธุรกิจอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ และระหว่างนี้บริษัทรับปากว่าพร้อมจะดูแลอาหาร 3 มื้อและที่พักให้กับลูกจ้าง รวมทั้งอนุญาตให้ลูกจ้างไปหางานทำที่อื่น ที่สำคัญยังจะช่วยฝากให้ไปทำงานกับบริษัทอื่นแบบชั่วคราวด้วย ซึ่งเมื่อกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งก็พร้อมจะรับพนักงานทั้งหมดมาทำงานเหมือนเดิม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
