x close

ตีสิบ สายัณห์ สัญญา กับลูก ๆ และครอบครัว ในวันที่โรครุมเร้า




ลูกสายัณห์ สัญญา

ลูกสายัณห์ สัญญา

ลูกสายัณห์ สัญญา


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการตีสิบ โพสต์โดย คุณ ThaiTVshowsHD สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            ตีสิบ ตอนพิเศษ พูดคุยกับ สายัณห์ สัญญา พร้อมด้วย ลูกสาว ลูกชาย และภรรยา ครอบครัวอบอุ่นที่เป็นพลังใจสำคัญ ในวันที่ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา ป่วย

            เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ช็อกวงการเพลงลูกทุ่งเลยทีเดียว เมื่อขุนพลเพลงดังอย่าง "สายัณห์ สัญญา" หรือ สายัณห์ ดีเสมอ นักร้องลูกทุ่งระดับตำนาน อายุ 62 ปี ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลกะทันหัน โดยแพทย์ระบุว่า สายัณห์มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคมะเร็งตับ แต่ก็ยังไม่ฟันธงเพราะต้องรอผลตรวจชิ้นเนื้อเยื่อก่อน ซึ่งผลจะออกมาในวันที่ 24 กรกฎาคม 2556

            เป็นที่ทราบกันดีว่า นักร้องลูกทุ่งชื่อดังคนนี้ เป็นคนที่ค่อนข้างแข็งแรง มีรูปร่างสูงใหญ่ และที่ผ่านมาก็ไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยให้แฟนเพลงได้เป็นกังวลเลย แต่ความจริงแล้ว... พี่เป้า สายัณห์ บอกว่า เขาเริ่มมีอาการแปลก ๆ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ไม่รู้ว่าสัญญาณนั้นจะเป็นสัญญาณอันตราย... ที่ทำให้เขาต้องล้มหมอนนอนเสื่อเช่นนี้

            โดยเมื่อค่ำคืนวันที่ 23 กรกฎาคม 2556 ทางรายการตีสิบได้เดินทางไปเยี่ยม พี่เป้า สายัณห์ เพื่อให้กำลังใจพร้อมกับพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงอาการ และความน่ารักของลูก ๆ ทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นเสมือนพลังใจที่ทำให้พี่เป้า สายัณห์ เข้มแข็ง ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่ถาโถมเข้ามาได้

            เมื่อไปถึงยังห้องผู้ป่วย พี่เป้า สายัณห์ ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงแม้สีหน้าจะดูอิดโรยไปบ้าง แต่ไร้ซึ่งความเครียด พร้อมเล่าอาการให้ฟังคร่าว ๆ ว่า.. คุณหมอดูแลและรักษาอย่างดี ทำให้อาการของตนดีวันดีคืน เวลายาหมดหรือเราต้องการอะไร เขาก็เข้ามาดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย ซึ่งตอนนี้ตนพอเดินได้แล้ว หมอก็เจาะเอาเนื้อเยื่อไปตรวจ จะรู้ผลในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ว่าผลออกมาจะเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า

            พิธีกรถามว่าหน้าตาดูแจ่มใสมาก อย่างนี้เรียกว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าวหรือเปล่า เพราะเห็นพี่เป้ายิ้มตลอดเมื่อให้สัมภาษณ์นักข่าว ด้านพี่เป้า สายัณห์ เผยว่า ตอนนี้กำลังใจดีมาก และอีกอย่างตนไม่ใช่คนยึดติด เป็นคนที่ปล่อยวางมานานแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

            "ไม่เข้าโรงพยาบาลมา 20 ปี ไม่เคยตรวจเช็กร่างกาย หรือตรวจอะไรประจำปีเลย เพราะเรามีความรู้สึกว่าเราแข็งแรงมาก ออกกำลังกายทุกวัน วิดพื้นวันละ 30 ครั้ง ยกดัมเบลวันละ 150 ครั้งทุกวัน เราทะนงเกินไป เพราะว่าที่ผ่านมา ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ กินอาหารอะไรก็ค่อนข้างระวัง เซฟร่างกายตลอดเวลา ชั่งน้ำหนักตลอด ก็ไม่คิดว่าแข็งแรง ๆ จะป่วยหนักแบบนี้" พี่เป้า สายัณห์ กล่าว

            สำหรับสัญญาณที่เริ่มรู้ว่าตัวเองป่วยนั้น พี่เป้า เล่าว่า วันที่รับปริญญาลูกเกรซ ที่ ม.กรุงเทพ ก็ถ่ายรูปกับลูก ๆ และครอบครัว จู่ ๆ ก็เริ่มรู้สึกร้อน เลยบอกว่าเข้าไปถ่ายรูปกันในฮอลล์ดีกว่า ซึ่งตลอดเวลาตนรู้สึกไม่ค่อยดี หน้ามืด แต่ก็พยายามฝืนถ่ายรูปกับลูก ๆ จนลูกเกรซเข้าไปที่หอประชุมเพื่อรับปริญญา ตนเลยขอกลับบ้านก่อน ทั้ง ๆ ที่ญาติมารอถ่ายรูปด้วยแต่ตนก็ไม่ไหว และไม่ได้บอกใคร เพราะไม่อยากให้เขาเป็นกังวล จนวันที่ 17 กรกฎาคม ตนมีอาการช็อก เลยถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาล

ลูกสายัณห์ สัญญา

            และแน่นอนอาการป่วยของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังขวัญใจใครหลาย ๆ คน ก็เป็นที่ถูกจับตามอง ซึ่งนอกเหนือจากอาการป่วยของพี่เป้า สายัณห์ แล้ว นักข่าวยังค่อนข้างให้ความสนใจกับบรรดาลูก ๆ ของพี่เป้าทั้ง 4 คน เนื่องจากพี่เป้าไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องราวชีวิตมากนัก เลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่า บรรดาลูก ๆ นั้น สวยหล่อกันทั้งหมดเลย

            โดยพี่เป้า เผยถึงสาเหตุที่ไม่เปิดเรื่องราวของลูก ๆ ว่า ตนอยากให้เด็ก ๆ เรียนให้จบเสียก่อน ตนกลัวว่าถ้าเปิดเผยลูกกลัวจะมีคนชักชวนเข้าวงการ แล้วลูกก็จะลืมการเรียนไป ซึ่งตนเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน เรียนก็ไม่ได้เรียน เลยอยากให้พวกเขาเรียนหนังสือให้สูงที่สุด ในโรงเรียนที่ดีที่สุด เท่าที่ตนจะมีความสามารถส่งได้ เป็นความภาคภูมิใจของตนที่ได้ดูลูกใส่ชุดนักเรียน และเฝ้าลูกที่หน้าโรงเรียน

ลูกสายัณห์ สัญญา
ลูกสายัณห์ สัญญา

            จากนั้นทางพิธีกรก็ขอให้ลูก ๆ ทั้ง 4 คนแนะนำตัว เริ่มด้วยลูกสาวคนโตอย่าง "น้องเบสท์ สวามินี ดีเสมอ" อายุ 25 ปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต คณะนิเทศศาสตร์ ตอนนี้เธอบอกว่าทำงานในวงการ ไม่ว่าจะเป็นเดินแบบหรือถ่ายแบบ ส่วนทางพิธีกรก็ได้นำภาพขณะที่น้องเบสท์เดินบนแคทวอล์ค หรือถ่ายภาพนิ่งภาพโฆษณาต่าง ๆ ซึ่งสวยจนคุณพ่อจำแทบไม่ได้เลยล่ะ ส่วนน้องเบสท์บอกว่า จริง ๆ แล้ว เธอเพิ่งบอกคุณพ่อว่าทำงานในวงการเมื่อไม่นานนี้เอง เพราะตลอดเวลาคุณพ่อจะพูดเสมอว่า ให้เรียนจบก่อนค่อยทำงาน แต่ตอนประมาณปี 1 ปี 2 ตนก็แอบทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย

            ส่วนลูกสาวคนรองอย่างน้องเกรซ ศิรประภา ดีเสมอ เผยว่า ตนเพิ่งเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ขณะที่ลูกชายเพียงคนเดียวอย่าง น้องบิ๊ก เวสารัช ดีเสมอ กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ โดยน้องบิ๊กบอกว่า อยากทำงานด้านคอมพิวเตอร์ ด้านไอที มากกว่า ส่วนงานในวงการนั้น ไม่สนใจเลย สำหรับน้องเล็กสุดอย่างน้องเฟิร์ส ภัทรกัญญา ดีเสมอ เผยว่า ตอนนี้เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกการแสดงและกำกับการแสดง

            ทั้งนี้ น้องเฟิร์ส กล่าวว่า ปกติแล้วเราไม่เคยบอกใครว่าเป็นลูกของคุณพ่อ เพราะคนทั่วไปจะนึกว่าคุณพ่อนามสกุล สัญญา แต่แฟนคลับตัวยงก็จะรู้ว่า คุณพ่อจริง ๆ แล้วนามสกุล ดีเสมอ อย่างเช่นอาจารย์ของตนเห็นนามสกุลก็เลยถาม พอรู้ว่าเป็นลูกใครก็มีฝากเอาผลงานมาให้เซ็นประมาณนี้

            เมื่อให้เล่าถึงเรื่องราวความหวงลูกของคุณพ่อ น้องเกรซ เผยว่า คุณพ่อค่อนข้างจะดุ และเจ้าระเบียบ ส่วนวีรกรรมที่ทำให้พวกเราทุกคนจำไม่เคยลืมเลย ก็คือตอนที่น้องเฟิร์สปีนเก้าอี้โต๊ะกินข้าว แล้วปีนพลาดร่วงเกือบตก แต่คุณพ่อเห็นแล้วคว้าตัวไว้ทันพอดี จากนั้นเป็นต้นมา คุณพ่อก็สั่งให้เอาเก้าอี้ออก และให้พวกเรายืนทานข้าวเป็นปี ๆ จนกว่าน้องจะโต เพราะกลัวว่าน้องจะตกลงมาอีก

            ส่วนพี่เป้า สายัณห์ เผยว่า ตอนนั้นลูกเฟิร์สปีนเก้าอี้ แล้วพอยืนขึ้นได้ก็เต้นแร้งเต้นกา แต่พลาดตก ตนวิ่งเข้าไปรับไว้ทัน ซึ่งถ้าตนรับไม่ทันลูกเฟิร์สจะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เราก็เลยบอกภรรยาว่าต้องปฏิวัติกันสักหน่อยแล้ว เอาเก้าอี้เก็บออกไปให้หมด เวลากินข้าวก็ยืนกินจนกว่าลูกเฟิร์สจะโต ส่วนเพื่อน ๆ เวลามาบ้านก็ถามว่าทำไมบ้านนี้ไม่มีเก้าอี้ ตนก็หัวเราะบอกว่าเพื่อความปลอดภัยของลูก เลยต้องขอเอาเก้าอี้ออกสักระยะ

            ขณะที่น้องเฟิร์ส ก็เผยถึงความหวงลูกของคุณพ่อให้ฟังอีกว่า พอเราเริ่มโตขึ้นก็เริ่มมีสังคม มีเพื่อน ซึ่งก็มีบ้างที่เราคุยโทรศัพท์นาน ๆ คุณพ่อก็จะยกหูเครื่องพ่วงแอบฟังว่าเรากับเพื่อนคุยอะไรกัน ด้านคุณพ่อก็ตอบกลับว่า เราอยากรู้ว่าที่พูดคุยกันนาน ๆ เขาคุยกับใคร คุยกับเพื่อนผู้ชายบ้างหรือเปล่า แต่ก็เท่าที่รู้ก็เป็นการคุยกับเพื่อนผู้หญิงทั่วไปเพียงแต่คุยกันเพลินไปหน่อยเท่านั้น

            มาทางฝั่งน้องเกรซ ก็เล่ามุมตลก ๆ ขี้เล่นของคุณพ่อให้ฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งขณะที่เราทั้ง 5 คนแม่ลูกนั่งดูทีวีกันอยู่ จู่ ๆ คุณพ่อก็วิ่งออกมาจากห้องน้ำแบบไม่ใส่อะไรเลย ผ่านทีวีไปแวบเดียว พวกเราก็ตกใจกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เราก็นึกว่าคุณพ่อลืมอะไรหรือเปล่า ขณะที่คุณพ่อบอกว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้ลืมอะไร แค่อยากแกล้งเล่น ๆ ให้ครื้นเครงเท่านั้นเอง
 


            ถ้าถามว่าคุณพ่อเป็นนักร้องชื่อดัง มีคนเจริญรอยตามคุณพ่อบ้างหรือไม่ ลูก ๆ ทุกคนชี้ไปทางน้องเฟิร์ส โดยบอกว่า น้องเฟิร์สชอบร้องเพลง แต่ก็ไม่เคยร้องให้คุณพ่อฟัง อย่างไรก็ตาม น้องเฟิร์สบอกว่า คุณพ่อชอบคิดว่าเราไม่ฟังเพลงลูกทุ่ง ไม่ฟังเพลงคุณพ่อ แต่จริง ๆ แล้ว พวกเราก็ฟัง และก็ร้องได้ด้วย... โดยน้องเฟิร์สได้ร้องเพลง "เพื่อลูก" ซึ่งเป็นเพลงที่ สายัณห์ สัญญา แต่งทุกทำนอง ทุกคำร้อง ให้ลูกทั้ง 4 คน และระหว่างที่น้องเฟิร์สร้องเพลงนั้น คนเป็นพ่อก็ปลาบปลื้มใจจนน้ำตาไหลออกมาเลยทีเดียว

            อย่างไรก็ตาม ท้ายนี้ พี่เป้า สายัณห์ สัญญา ได้กล่าวถึงคอนเสิร์ต "วันอำลาขวัญใจคนเดิม สายัณห์ สัญญา" ที่พระประแดงอาเขต ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ด้วยว่า ตนจะเดินทางไปอย่างแน่นอน ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ให้ความร่วมมือ โดยจัดรถแพทย์ฉุกเฉินพร้อมเครื่องมือไว้ที่งาน สำหรับการร้องเพลงตนอยากร้องมาก ถ้าร้องไหวก็จะร้อง แต่ถ้าร้องไม่ไหวก็อาจจะยืนไปพูดคุยกับแฟนเพลง โดยในงานนั้นไม่ได้มีแค่ตนคนเดียว มีศิลปินมากมายมาร่วมขับร้องให้แฟน ๆ ได้ฟังกันอย่างจุใจ แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

            ส่วนลูก ๆ ทั้งหมดก็ขอกอดให้กำลังใจผู้เป็นพ่อ โดยน้องเบสท์ กล่าวว่า ตนจะเป็นกำลังใจให้พ่อเสมอ ตอนนี้ตนก็เอาโปสเตอร์คอนเสิร์ตของคุณพ่อไปแชร์ ไปชวนเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊ก ถ้ามีคุณพ่อก็ให้ชวนคุณพ่อไปดู ไปให้กำลังใจคุณพ่อกัน ส่วนน้องเกรซ ก็เผยว่า พวกเราทุกคนก็จะสู้ไปพร้อม ๆ กับคุณพ่อ เราจะไม่ยอมแพ้เลย และจะอยู่ข้าง ๆ คุณพ่อตลอด จะนำคำสอนที่พ่อสอนเราไว้ไปใช้ คือ ซื่อได้แต่อย่าโง่ ฉลาดได้แต่อย่าโกง คุณพ่อสอนให้เราเป็นคนดี สิ่งนี้ที่พวกเราจะจำไว้เสมอ ขณะที่น้องบิ๊ก ลูกชายคนเดียว ก็เผยว่า อยากให้พ่อสู้ ๆ และไม่อยากให้พ่อเป็นห่วงเรื่องการเรียน ตนจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด และจะเป็นกำลังใจให้ตลอดไป

            ส่วนน้องเฟิร์ส น้องเล็กคนสุดท้อง เผยว่า... "อยากให้คุณพ่อเชื่อใจลูกทุกคน คุณพ่อสอนพวกเรามาดี หนูจะตั้งใจเรียนให้จบ เพื่อที่จะให้คุณพ่อมางานรับปริญญา คุณพ่อสัญญากับหนูนะ" เมื่อน้องเฟิร์สพูดจบ คุณพ่อก็ชกกำปั้นกับลูกสาว และบอกว่าสัญญาว่าจะไปรับปริญญาหนูให้ได้...

            เห็นความรักและความอบอุ่นของครอบครัวนี้แล้ว เชื่อเลยว่าจะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดที่จะทำให้ สายัณห์ สัญญา อาการดีวันดีคืนอย่างแน่นอน.. ยังไงกระปุกดอทคอมก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้พี่เป้าหายไว ๆ และกลับมามอบความสุขผ่านเสียงเพลงให้กับแฟนเพลงได้ฟังกันอีกนะคะ ^ ^









เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตีสิบ สายัณห์ สัญญา กับลูก ๆ และครอบครัว ในวันที่โรครุมเร้า โพสต์เมื่อ 24 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:32:19 26,744 อ่าน
TOP