เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย
ประวัติ วัฒนา อัศวเหม เจ้าพ่อปากน้ำ ที่ยังหนีโทษคดีอาญาจนถึงวันนี้ กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง ในฐานะพ่อสามีของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
นาทีนี้คงไม่มีข่าวไหนร้อนแรงเท่าข่าวของ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นางเอกสาวอีกแล้ว หลังจากเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตสามีของนันทิดา แก้วบัวสาย นักร้องชื่อดัง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา
ความร้อนแรงของข่าวนี้แรงแค่ไหน ดูได้จากเว็บไซต์ชื่อดังอย่างพันทิปดอทคอมก็เป็นอันล่ม หลังจากที่นางเอกสาวประกาศจดทะเบียนสมรส รวมถึงเว็บสำนักข่าวต่าง ๆ ต่างเล่นข่าวกันอย่างมากมาย กลบข่าวการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่กำลังพิจารณากันอยู่ในขณะนี้จนหมดสิ้น นอกจากนี้ บุคคลในวงการบันเทิงและวงการอื่น ๆ ก็ต่างแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบเป็นจำนวนมากอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ กระแสข่าวนี้ก็ได้ลุกลามเข้าสู่วงการการเมืองเช่นกัน เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เรียกตัวนายชนมสวัสดิ์และเจนี่มาเข้าพบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดมาว่า ทั้งคู่ได้ไปหานายวัฒนา อัศวเหม นักธุรกิจและนักการเมืองชื่อดังที่กำลังหลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินคลองด่าน จ.สมุทรปราการ โดยประเทศที่ทั้งคู่เดินทางไปพบ หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเป็นมาเก๊า ด้วยเหตุนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับนายวัฒนา อัศวเหม พ่อสามีของเจนี่ และเรื่องราวคดีที่นายวัฒนากำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้กัน
วัฒนา อัศวเหม เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2479 ที่ จ.สมุทรปราการ เดิมชื่อกิมเอี่ยม แซ่เบ๊ โดยประวัติการศึกษานั้น นายวัฒนาจบปริญญาตรี 2 สาขา ได้แก่ นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และ สาขาการจัดการธุรกิจ จาก Southeastern USA วิทยาเขตลอนดอน ประเทศอังกฤษ
สำหรับเส้นทางทางการเมือง นายวัฒนา เริ่มเป็น ส.ส.ตั้งแต่ ปี 2518 จากนั้นมาก็ได้เป็น ส.ส. จังหวัดสมุทรปราการ มายาวนานติดต่อกัน 10 สมัย จนถึง ปี 2539 จนได้รับฉายาว่า เจ้าพ่อปากน้ำ ส่วนตำแหน่งทางการเมือง ก็เคยเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปี 2519, รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี 2531, 2533 และ 2540 และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2535
จนกระทั่งปี 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาจำคุกนายวัฒนา ซึ่งในขณะนั้นเป็นประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน 10 ปี ข้อหาใช้อำนาจข่มขู่ให้ผู้อื่นออกโฉนดที่ดิน 1,900 ไร่ ทับพื้นที่คลองสาธารณะประโยชน์ และพื้นที่เทขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้าม ใน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ก่อนที่จะนำไปขายให้กรมควบคุมมลพิษ เพื่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่จะพิพากษาคดีนี้ นายวัฒนาไม่ได้อยู่ในประเทศแล้ว คาดว่าได้หลบหนีออกไปทางประเทศกัมพูชา ฝั่งปอยเปต หลังจากนั้นก็ได้หลบหนีไปยังประเทศอื่น ๆ ต่อไปในภายหลัง
หลังจากที่นายวัฒนาได้หลบหนีไปแล้ว กระแสข่าวเกี่ยวกับตัวเขาก็เงียบไปกว่า 4 ปี จนเข้าสู่ปี 2555 ชื่อของเขาก็ได้กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเขาได้ก่อตั้งวัดเหมอัศวาราม ที่เมืองลั่วหยาง ประเทศจีน ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่า การสร้างวัดครั้งนี้ เป็นวัดนิกายเถรวาทวัดแรกในประเทศจีนอีกด้วย
ต่อมาในเดือนมกราคม 2556 สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สินของตระกูลอัศวเหม พบว่า ครอบครัวนี้มีบริษัทเปิดดำเนินการทั้งสิ้น 22 บริษัท ทุนจดทะเบียน 1,707.5 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมทะลุ 1 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งธุรกิจที่ครอบครัวนี้ทำอยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ด้านชีวิตครอบครัว นายวัฒนาได้แต่งงานกับนางจันทร์แรม อัศวเหม มีบุตรทั้งหมด 3 คน ได้แก่ นายพิบูลย์ อัศวเหม, นายพูนผล อัศวเหม และนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ผู้ที่กำลังตกเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้
ทั้งหมดนี้ก็คือประวัติสั้น ๆ ของนายวัฒนา อัศวเหม บุคคลที่หายหน้าหายตาจากพื้นที่สื่อไปนานทีเดียว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
