บ้านทองหยอด โรงเรียนของ กมลา ทองกร ผู้ปลุกปั้นน้องเมย์ รัชนก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด , Instagram ratchanokintanon

              บ้านทองหยอด โรงเรียนสอนแบดมินตันของ กมลา ทองกร ผู้ปลุกปั้น น้องเมย์ รัชนก ดาวรุ่งแบดมินตันหญิงคนเก่งของไทย เจ้าของแชมป์โลกอายุน้อยที่สุด

              การคว้าแชมป์แบดมินตันโลกของน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ได้สร้างความปลื้มใจแก่คนไทยมากมาย และหลายคนก็คงทราบกันดีว่า กว่าที่น้องเมย์จะมีวันนี้ได้ ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักจนประสบความสำเร็จ ผ่านความล้มเหลวมามากทั้งความพ่ายแพ้ในโอลิมปิก 2012, การได้เพียงแค่รองแชมป์รายการออลอิงแลนด์ อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นของความสำเร็จที่แท้จริงของน้องเมย์ คนที่ควรจะได้รับเครดิตเต็ม ๆ คงจะหนีไม่พ้น โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ผู้ที่เริ่มฝึกฝนทักษะการเล่นแบดมินตันแก่น้องเมย์...
 
              บ้านทองหยอด เป็นโรงเรียนแบดมินตันที่ก่อตั้งโดยนางกมลา ทองกร เมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายใต้ชื่อ ชมรมแบดมินตันบ้านทองหยอด เนื่องจากครอบครัวของนางกมลาต้องการให้ลูก ๆ และเพื่อนของลูกมาเล่นแบดมินตัน แต่ว่าลูกของเธอไม่มีสังกัด ทำให้ลงแข่งขันไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องก่อตั้งชมรมขึ้นเอง พร้อมกับจดทะเบียนเป็นสมาชิกสามัญของสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ส่วนสาเหตุที่ใช้ชื่อบ้านทองหยอดนั้น เพราะธุรกิจของนางกมลาเอง ก็ทำเกี่ยวกับขนมทองหยอดอยู่แล้ว และต้องการสื่อถึงความเป็นไทยอีกทางหนึ่งด้วย

              ในช่วงแรกของการก่อตั้งนั้น บ้านทองหยอด ได้ใช้สนามที่จัดขึ้นเองในบ้านของนางกมลา มีทีมผู้ฝึกสอนและนักกีฬาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นักกีฬาจากบ้านทองหยอดเริ่มมีผลงานมากขึ้น สามารถเข้ารอบลึก ๆ ในการแข่งขันรายการต่าง ๆ ได้ ทำให้มีนักกีฬามาเรียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้สนามแบดมินตันในบ้านของนางกมลา คงเล็กเกินไปแล้ว จึงได้ย้ายไปเช่าสนามแบดมินตันเพชรเกษม 59 ก่อนที่จะย้ายไปสนามแบดมินตันหรรษา ซึ่งใช้งานประมาณ 7 ปี จึงได้ย้ายมาที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
 
              การที่ย้ายสนามมาที่อัสสัมชัญธนบุรี เป็นการย้ายเพื่อรองรับจำนวนนักกีฬาที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าเมื่อผ่านไป 4 ปี ก็เกิดภาวะสนามไม่พอกับจำนวนนักกีฬาอีกครั้ง ดังนั้น นางกมลา จึงเริ่มผุดแนวคิดสร้างสนามแบดมินตันและเปลี่ยนจากชมรมแบดมินตัน เป็น โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดแทน เพื่อสอนการเล่นแบดมินตันแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยเปิดตัวโรงเรียนอย่างเป็นทางการปี พ.ศ. 2546 ตั้งอยู่บริเวณพุทธมณฑลสาย 3
 
              ในเรื่องของการสอนแบดมินตัน นางกมลา ได้วางรูปแบบสิ่งที่โรงเรียนจะสอนเป็นสิ่งแรกเลยนั่นคือ วิธีการจับไม้ การวางท่าทาง จากนั้นก็จะไปเน้นเรื่องทักษะพื้นฐานต่าง ๆ เช่น วิธีการเสิร์ฟ การตี รวมถึงกฎ กติกา มารยาท และระเบียบวินัยของนักกีฬา รวมถึงความแข็งแกร่งของร่างกาย
 
              นอกจากนี้ การปั้นนักกีฬาของบ้านทองหยอด จะเริ่มตั้งแต่อายุ 6 ขวบเป็นต้นไป โดยจะมีการควบคุมด้านระเบียบวินัยอย่างเข้มข้น จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน นั่นคือ ตื่นนอนตั้งแต่ 05.45 น. เพื่อมาวิ่งและเล่นเวท ก่อนที่จะเดินทางออกไปเรียนหนังสือ และเมื่อเรียนหนังสือเสร็จ ก็จะกลับมาซ้อมด้านทักษะแบดมินตันรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. แล้วก็ฝึกซ้อมอีกครั้งตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. แต่ถ้าหากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงปิดเทอม ก็จะซ้อมวันละ 7 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ซ้อมแบบนี้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ซึ่งการซ้อมรูปแบบนี้ เป็นการซ้อมแบบเดียวนักแบดมินตันทีมชาติจีน ที่สามารถผลิตนักแบดมินตันระดับโลกออกมาหลายราย
 
              แต่ใช่ว่าโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด จะเป็นโรงเรียนสอนแบดมินตันเพียงอย่างเดียว เพราะโรงเรียนแห่งนี้ สอนในเรื่องชีวิตประจำวันด้วย มีการให้กำลังใจนักกีฬาเมื่อพ่ายแพ้ในการแข่งขัน ประดุจดั่งครอบครัวเดียวกัน และทุกคนที่นี่ เรียก นางกมลา เจ้าของโรงเรียนว่า แม่
 
              โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด หากนับถึงปัจจุบันนี้ก็ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว ตอนนี้เป้าหมายของการปั้นนักกีฬาของบ้านทองหยอดก็เปลี่ยนไป จากเดิมปั้นนักกีฬาให้ติดทีมชาติ ตอนนี้ขยับเป้าหมายเป็นปั้นนักกีฬาจากบ้านทองหยอดไปสู่ระดับโลก สามารถคว้าแชมป์โอลิมปิกหรือแชมป์โลกได้ ซึ่งตอนนี้ บ้านทองหยอดก็ทำสำเร็จ 1 ใน 2 เป้าหมายแล้ว จากการคว้าแชมป์โลกของน้องเมย์ รัชนก นอกจากนี้ ชื่อเสียงของโรงเรียนบ้านทองหยอด ก็ได้ขจรขจายไปไกลถึงต่างประเทศ จนมีนักกีฬาจากต่างชาติหลายราย มาฝึกซ้อมที่บ้านทองหยอดเช่นเดียวกัน
 
              ส่วนผลงานในการปลุกปั้นนักกีฬาของบ้านทองหยอด ก็ไม่ได้มีน้องเมย์ รัชนก เพียงคนเดียว แต่บ้านทองหยอด ยังได้ปั้นนักแบดมินตันชั้นยอดอีกหลายราย อาทิ สุดเขต ประภากมล, ทรงพล อนุกฤตยาวรรณ, พิสิษฐ์ พูดฉลาด, รัชพล บัวคลี่ และ ภัททพล เงินศรีสุข หรือ โค้ชเป้ ผู้ฝึกสอนของน้องเมย์ในปัจจุบัน ฯลฯ
 
              เมื่อดูจากรูปแบบการจัดการและการฝึกสอนของบ้านทองหยอด จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมน้องเมย์ รัชนก ถึงประสบความสำเร็จได้อย่างวันนี้ และหากโรงเรียนกีฬาชนิดอื่น ๆ นำโมเดลของบ้านทองหยอดไปใช้ เชื่อว่า อีกไม่นาน ก็คงสามารถผลิตนักกีฬาชั้นยอดแบบในวงการแบดมินตันได้ไม่ยาก
 



 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก