เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก วู้ดดี้เกิดมาคุย
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงตอบคำถามเกี่ยวกับพระอาการในหลวง-พระราชินี พร้อมฝากถึงพสกนิกรชาวไทยทำอะไรขอให้นึกถึงประเทศชาติก่อน ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย
นับเป็นอีกหนึ่งข่าวที่สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศไม่น้อย หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังไกลกังวล ซึ่งก็แน่นอนว่าพสกนิกรมาเฝ้ารอรับเสด็จกันอย่างเนืองแน่น พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้องไปทั่วบริเวณ ซึ่งพสกนิกรบางรายถึงขั้นหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อได้เห็นพระพลานามัยของทั้ง 2 พระองค์ดีขึ้น ท่ามกลางข่าวลือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมาย
ล่าสุด สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานพระวโรกาสให้รายการวู้ดดี้เกิดมาคุย เฝ้ากราบทูลสัมภาษณ์เกี่ยวกับพระอาการของในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อย่างละเอียด พร้อมกับทรงตอบคำถามเกี่ยวกับข่าวลือต่าง ๆ อีกวาระหนึ่ง ออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 18 สิงหาคม 2556
โดย ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ได้ตรัสถึงพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า อาการของทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ปลอดภัย เป็นที่พอใจของแพทย์ พระเจ้าอยู่หัวฯ ตอนนี้ทรงแจ่มใสมาก มีอยู่พักนึงสัก 4-5 เดือนมาแล้ว ทรงเป็นไข้อยู่บ่อย ๆ และปอดอักเสบเป็นพัก ๆ แพทย์ได้ทำการรักษาอย่างใกล้ชิด ดูแลเอาใจใส่มาก กระทั่งหายสนิท จนตอนนี้ทรงแข็งแรงแล้ว ทั้งนี้การเสด็จฯ ไปประทับ ณ พระราชวังไกลกังวล ได้เตรียมอุปกรณ์การแพทย์ไว้พร้อมทั้งที่วังไกลกังวลและโรงพยาบาลที่หัวหิน เครื่องมือทุกอย่างพร้อม และแพทย์ที่ไปเป็นแพทย์ทีมใหญ่
สำหรับวังไกลกังวลเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทั้ง 2 พระองค์ทรงโปรดและทรงพระสำราญ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงอยากเสด็จ จึงได้ทรงเสด็จไปที่ห้องของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงไปชวนเองก่อนล่วงหน้าถึงอาทิตย์หนึ่ง ท่านรับสั่งว่า แม่อยากไปหัวหินไหม ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัสว่า อยาก สำหรับระยะเวลาที่แปรพระราชฐานนั้นก็สุดแล้วแต่จะโปรดว่าจะประทับนานแค่ไหน
เมื่อถามว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตรัสได้นานขึ้นหรือเป็นประโยคยาว ๆ ได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ตรัสว่า ทรงรับสั่งได้ยาว ๆ เป็นชั่วโมงก็ยังได้เลย โดยล่าสุดที่เข้าเฝ้าพระองค์ก็ตรัสหลายเรื่อง บางทีท่านก็บ่นเรื่องยา ส่วนการเสวยพระกระยาหาร ทั้งสองพระองค์ก็เสวยได้ดี มีคนทำเครื่องมาถวายมากมาย บางทีก็มาจากโรงแรม ห้องเครื่องส่วนพระองค์ โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ โปรดอาหารไทย ส่วนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดอาหารฝรั่ง
สำหรับอาการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่มีข่าวลือว่าไม่สามารถพระดำเนินได้แล้ว จึงไม่ได้ออกสื่อให้เห็น ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ตรัสว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเป็นสโตรก ตอนเกิดเหตุเส้นเลือดในสมองแตกแต่เป็นเส้นเลือดเล็ก เมื่อปีนึงมาแล้วขณะกำลังทรงพระดำเนินออกพระกำลังอยู่ที่ศิริราช อยู่ ๆ ก็ล้มลงไป ดีที่ไม่ฟาดเพราะนางสนองพระโอษฐ์กับคุณข้าหลวงจับพระหัตถ์อยู่ ประคองท่านไว้ ถึงได้ไม่ฟาด หลังจากวันนั้นตอนแรกก็เสวยลำบาก กลืนลำบาก แต่พอหลังเป็นสัก 7-8 วัน ก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เสวยเครื่องได้ดีขึ้น ต่อมาทรงค่อย ๆ ฝึกพระดำเนิน เดี๋ยวนี้ก็ทรงพระดำเนินได้คล่องแล้ว ทรงพระดำเนินได้ดี และไม่ได้เป็นแอมนีเซีย ที่ไม่ได้ออกงาน ไม่ได้ออกสื่อ สมเด็จพระนางเจ้าฯ ไม่ได้ตรัส แต่พระองค์ขอพูดแทนเองว่าเราเป็นผู้หญิงย่อมไม่อยากให้คนเห็นเวลาตอนที่เรายังดูไม่ดี ยังดูไม่สวย คิดว่าท่านอยากให้ทรงงามเหมือนเดิมอย่างที่เห็นทางทีวีตอนเสด็จหัวหิน ท่านจึงอยากให้คนเห็น ตอนนี้ที่วังไกลกังวลท่านยังทรงอยู่บนพระตำหนักเป็นส่วนใหญ่ วันไหนยังไม่ได้แต่งพระองค์ก็ไม่อยากให้คนเห็น
ส่วนอาการของ ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ นั้น ขณะนี้ดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้เดินคล่องขึ้นเพราะมีหมุดอยู่ในขา 3 ตัว ซึ่งเวลาเดินทางต่างประเทศมักจะเป็นปัญหาในตรวจสแกน
นอกจากนี้ พระองค์ทรงเปิดเผยว่า ปัจจุบันทรงเรียนปริญญาเอกด้านสัตวแพทย์ 3 ปีมาแล้ว โดยทุก ๆ เช้าจะเสด็จไปที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือสัตว์ทั้งที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของ แม้จะมีพระราชกรณียกิจมากมายก็ตาม นอกจากนี้ยังมีร้าน "ดร.น้ำใจ" ซึ่งเป็นกองทุนรักษาพยาบาลสัตว์ป่วยอนาถาที่อยู่ภายในบริเวณโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เช่นกัน โดยโครงการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งได้พระราชทานเงินไว้ตั้งแต่ ปี 2540 ประมาณ 2 ล้านบาท โดยใช้ดอกผลมาช่วย แต่ปัจจุบันธนาคารลดดอกเบี้ยเงินฝาก จึงนำเงินมาตั้งเป็นกองทุนเพื่อสานต่อโครงการนี้ในการช่วยเหลือสัตว์ป่วยอนาถา ซึ่งแต่ละวันมีสัตว์ป่วยมากถึง 400-500 ตัวเลยทีเดียว
ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทรงพาวู้ดดี้ ไปเยี่ยมชมร้าน ดร.น้ำใจ
จากนั้นพิธีกรได้ถามถึงข่าวลือที่ว่าการเสด็จแปรพระราชฐาน ณ วังไกลกังวล ในครั้งนี้ เป็นการเสด็จอย่างกะทันหัน โดยมีใครบางคนมาทูลเชิญ ทั้ง ๆ ที่มิได้มีหมายกำหนดการมาก่อน เนื่องจากอาจมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ ทรงมีพระดำรัสตอบว่า อันนี้ไม่จริง เพราะวังไกลกังวลอยู่ในพระทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มานานแล้ว ท่านรอสุขภาพดีพอที่จะไป แล้วเมื่อท่านแน่ใจว่าท่านไปได้แล้ว ท่านก็ไปทูลสมเด็จพระราชินีก่อนตั้ง 7 วัน ไม่ได้เป็นการไปที่กะทันหันเลย เป็นการวางแผนที่จะไป การขนส่งเครื่องมือแพทย์ก็ไม่ใช่ 1-2 วันจะเสร็จ
และเมื่อถามว่ามองการเปลี่ยนแปลงของประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไรบ้าง ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ มีพระดำรัส ว่า มองแล้วบางอย่างก็สลดใจ แต่อะไรก็ตามที่แก้ได้ ช่วยได้ ก็ช่วย ก็แก้อยู่แล้ว ทั้งพ่อทั้งแม่สอนมาว่าเกิดเป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน พระองค์ก็อยู่เพื่องานนั้น อะไรที่จะช่วยให้คนไทยทุกข์น้อยลง ก็จะทำ แต่ว่าบางครั้งเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงนั้นมันก็มากจนกระทั่งไม่สามารถไปต้านกระแสเหล่านั้นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงจิตใจของคน ซึ่งอันนี้เป็นที่น่าเศร้าที่ว่าคนปัจจุบันคิดถึงแต่ตัวเองมากกว่า อยากบอกผ่านทางวู้ดดี้นี้เลยว่า ถ้าจะขอได้ ถ้าใครรักพระองค์ สงสารพระองค์ คือขอให้ทำอะไร ให้คิดถึงประเทศชาติบ้านเมืองก่อน เพราะจริง ๆ แล้วถ้าไม่มีประเทศชาติที่ร่มเย็น พวกเราก็ไม่สามารถอยู่เป็นสุขได้หรอก เพราะฉะนั้นทำอะไรให้นึกถึงประเทศชาติบ้านเมือง ให้นึกถึงคำว่าหน้าตาคนไทย อย่าทำให้เสียชื่อคนไทย
