เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์ , ครอบครัวข่าว 3
ม็อบยางพารายกระดับ ขู่ ระดมชาวสวนยางปิดประเทศ 4 ภาค วันที่ 3 กันยายนนี้ หากรัฐบาลยังไม่ช่วยแก้ปัญหา ย้ำ ไม่มีการเมืองหนุนหลัง หากไม่คิดช่วยชาวสวนยาง ก็ขอให้เลิกช่วยสินค้าเกษตรอื่น ๆ ด้วย เพื่อความเป็นธรรม
เมื่อช่วงสายวันนี้ (24 สิงหาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวสวนยางพารา และชาวสวนปาล์ม ยังคงชุมนุมปิดถนนสายเอเชีย 41 บริเวณสามแยกควนหนองหงส์ ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ทั้งสองฝั่งเป็นวันที่ 2 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลให้คำตอบในการแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป หลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามเข้ามาเปิดถนน จนได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้ ในช่วงสายที่ผ่านมา กลุ่มเกษตรกรสวนยางจากจังหวัดสุราษฎ์ธานี สตูล และพัทลุง ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย ก่อนที่จะมีการประชุมกันเพื่อกำหนดทิศทางในการประท้วงต่อไป ซึ่งวันนี้ หากยังไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลก็อาจจะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้น โดยจะแบ่งกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดถนนที่บริเวณสี่แยกบ่อล้อ และในวันพรุ่งนี้จะเคลื่อนกลุ่มไปปิดถนนที่สี่แยกปฐมพรที่จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นเส้นทางลงสู่ภาคใต้ต่อไป
ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังออกมาตั้งแต่เย็นวานนี้แล้ว ยืนยันว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการเมื่อวานไม่ใช่การสลายม็อบ แต่เป็นการผลักดันให้ผู้ชุมนุมพ้นจากถนน เนื่องจากการปิดถนนเป็นการละเมิดสิทธิของผู้อื่น แต่ที่เกิดเหตุปะทะกันนั้นเป็นเรื่องสุดวิสัย และทางเจ้าหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำมากกว่า เพราะไม่สามารถผลักดันผู้ชุมนุมได้สำเร็จ วันนี้จึงจะไม่เข้าไปดำเนินการใด ๆ กับผู้ชุมนุม โดยจะปล่อยให้ชุมนุมกันได้เสรี เพราะไม่อยากให้ฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บอีก
สำหรับกรณีที่มีหนังสือด่วนที่สุดส่งไปถึงสื่อมวลชน ระบุว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาวและผู้ต่อต้านรัฐบาล ลงนาม โดย พ.ต.อ.ธงชัย ถาวระ รองผู้บังคับการตำรวจนครศรีฯ นั้น นายวิโรจน์ ได้ตรวจสอบไปยัง พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็ชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นหนังสือจากทางตำรวจ และจะตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
ต่อมาในช่วงบ่าย แกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางในนามเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวประกาศยกระดับการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหายางพารา และปาล์มตกต่ำด้วยการ ปิดประเทศในวันที่ 3 กันยายนนี้
โดย นายนวรานนท์ อนัณวรณกร แกนนำภาคตะวันออก-ภาคกลาง กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า มติที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ในวันที่ 3 กันยายนนี้ ชาวสวนยางทั่วประเทศจะกระจายตัวกันไปปิดถนนสายหลักทุกภาค โดยในภาคเหนือจะปิดถนนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะปิดถนนที่ทางต่างระดับอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ส่วนภาคใต้จะปิดถนนที่แยกสหกรณ์โคออฟ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่ชาวสวนภาคกลางและภาคตะวันออกจะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายวอนรัฐบาลอย่ามาสกัดกั้นการชุมนุม เพราะหากมาสกัดกั้นในจุดใดจุดหนึ่ง ชาวสวนทั้งหมดจะกระจายไปปิดถนนในจุดอื่นทั่วประเทศ จะยิ่งเกิดเหตุการณ์วุ่นวายกว่าเมื่อวานที่ผ่านมาแน่นอน แต่หากรัฐบาลไม่ต้องการให้ชุมนุมก็ต้องเร่งแก้ปัญหาให้ชาวสวนยางภายในวันที่ 3 กันยายนนี้ หรือถ้ารัฐบาลจะไม่ช่วยแก้ปัญหาให้ชาวสวนยาง ก็ต้องเลิกช่วยสินค้าเกษตรตัวอื่นด้วย โดยปล่อยให้ทุกอย่างเสรี อย่าเลือกช่วยเพียงสินค้าบางตัวเท่านั้น ชาวสวนยางต้องการความเป็นธรรมในเรื่องนี้
ทั้งนี้ นายนวรานนท์ ยังย้ำว่า การชุมนุมครั้งไม่มีนักการเมืองหนุนหลัง เพราะผู้ที่มาชุมนุมล้วนแล้วแต่เป็นเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำทั้งสิ้น
[23 สิงหาคม] ม็อบสวนยางพารา นครศรีฯ ปะทะเดือดเจ้าหน้าที่ เจ็บระนาว
ม็อบยางพารา ปิดถนนสายเอเชีย 41 นครศรีธรรมราช จี้รัฐแก้ปัญหาราคาตกต่ำ ตำรวจอ้างเป็นม็อบหน้ากากขาวล้มรัฐบาล เข้าขอเปิดถนน เจ็บระนาวทั้งชาวบ้าน-เจ้าหน้าที่ ควบคุมตัวผู้ชุมนุมไว้ 20 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2556 เวลา 13.30 น. ชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 500 คน เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ ถนนสายเอเชีย หมายเลข 41 อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อทวงถามรัฐบาลหลังจากที่ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำไปเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ โดยได้กางเต็นท์บนถนน และนำรถบรรทุกมาปิดขวางทางจราจรถนนสายเอเชียฝั่งขาขึ้น ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปได้
ต่อมา ในเวลา 15.00 น. นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาถึงที่ชุมนุม พร้อมด้วย พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) จังหวัดนครศรีธรรมราช และกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงบนรถยนต์ ขอให้ผู้ชุมนุมเปิดทางให้รถยนต์สามารถผ่านไปมาได้ เพราะการปิดถนนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมไม่ยินยอม พล.ต.ต.รณพงษ์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจล ซึ่งมีโล่และกระบองเป็นอาวุธ เดินหน้าเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเปิดถนน ผู้ชุมนุมจึงขว้างก้อนหิน ท่อนไม้ ขวดน้ำ สิ่งของต่าง ๆ ใส่เจ้าหน้าที่ จึงเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงกว่า 15 นาที ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 43 นาย ขณะที่ชาวบ้านก็ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ถูกนำส่งโรงพยาบาลชะอวด
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ขว้างปาสิ่งของไปยังรถกระจายเสียงที่นายวิโรจน์ และ พล.ต.ต.รณพงษ์อยู่บนรถ จนต้องรีบขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่เข้าไปขับไล่ม็อบสามารถจับกุมตัวแกนนำผู้ชุมนุมได้ 2 คน ก่อนจะเกิดปะทะขึ้นอีกครั้ง ทำให้ พ.ต.อ.อดุลนย์ ธนะชัยขันธ์ องผู้บังคับการตำรวจภูธร นครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บทีศีรษะ จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าควบคุมตัวผู้ชุมนุมอีก 20 ราย โดยนำมาส่งที่ สภ.อ.เมือง
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธงชัย ถาวระ รองผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ปฏิบัติหน้าที่แทน ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งด่วนที่สุด ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2556 ไปถึงผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียง อสมท เรื่อง ขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์กรณีมีการชุมนุมประท้วง โดยมีเนื้อหาระบุว่า ด้วยมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มหน้ากากขาว และกลุ่มประชาชนต่อต้านรัฐบาล ได้มีการปิดถนนฝั่งขาขึ้นและขาล่องบริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ ถนนสายเอเชีย 41 ม.3 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
"ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอความร่วมมือประสานสื่อมวลชนในสังกัด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์การชุมนุมประท้วงของกลุ่มหน้ากากขาวและกลุ่มประชาชนต่อต้านรัฐบาล โดยให้ใช้เส้นทางรองซึ่งจะมีตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกในการเดินทางและให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการชุมนุม" พ.ต.อ.ธงชัย ระบุ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธงชัย ยอมรับว่า ได้มีการออกคำสั่งเรื่องประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือในการหลีกเลี่ยงเส้นทางในการชุมนุมจริง เนื่องจากพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเคลื่อนไหวปิดท้องถนนบริเวณขาขึ้น และขาล่องสี่แยกควนหนองหงษ์ ถนนสายเอเชีย 41 ซึ่งส่งผลทำให้การจราจรติดขัด จึงต้องขอความร่วมมือในส่วนนี้ และในคำสั่งไม่ได้มีอะไรที่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้ชุมนุมเลย หรือให้ตำรวจใช้กำลังกับผู้ชุมนุมเลย
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ชุมนุมได้ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ไม่มีกลุ่มหน้ากากขาวเข้าร่วมด้วย และไม่ต้องการถูกโยงเข้าการเมือง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
