พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก โรงเรียนเทพศิรินทร์
นิพัทธ์ ทองเล็ก ขึ้นเป็นปลัดกลาโหมแล้ว หลังยิ่งลักษณ์ฟันธงเลือกและทักษิณอนุญาต ขณะที่จิระเดช ไปเป็นที่ปรึกษากองทัพบกแทน คาด ทูลเกล้าฯ หลังยิ่งลักษณ์กลับจากจีน
เมื่อวานนี้ (30 สิงหาคม 2556) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ, พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดยใช้เวลาการประชุมทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังการประชุมนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน ก่อนที่จะเข้าประชุมสภากลาโหมประจำเดือนสิงหาคมต่อในเวลา 15.30 น. โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางกลับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม หนึ่งในผู้ที่มีโอกาสได้รับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ไปต้อนรับและส่งนางสาวยิ่งลักษณ์ด้วยตัวเอง พร้อมกับสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
นอกจากนี้ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา พล.อ.ทนงศักดิ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางไปหารือกับนางสาวยิ่งลักษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยมีบุคคลที่มีโอกาสได้รับตำแหน่ง 2 คนได้แก่ พล.อ.นิพัทธ์ กับ พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ สนับสนุนทาง พล.อ.นิพัทธ์ เพราะเป็นผู้ที่มีความสามารถทางการทหาร และมีบทบาทสำคัญต่อกองทัพในระดับสูง อีกทั้งยังเหลือเวลารับราชการอีก 3 ปี แม้ว่า พล.อ.จิระเดช จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่สุดท้ายนางสาวยิ่งลักษณ์ ก็ระบุว่า ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว และไม่ขัดข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพก็เห็นด้วยกับนางสาวยิ่งลักษณ์ที่จะแต่งตั้ง พล.อ.นิพัทธ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วน พล.อ.จิระเดช จะดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบกในอัตราจอมพลแทน ส่วนบัญชีรายชื่อส่วนอื่น ๆ ของเหล่าทัพ ทางนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้ปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด คาดว่าจะลงนามเพื่อทำบัญชีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในสัปดาห์หน้า หลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับจากประเทศจีนวันที่ 2-3 กันยายนนี้
ด้าน พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังจากการประชุมสภากลาโหมเดือนสิงหาคมว่า การประชุมในสภากลาโหม ไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องโผทหารแต่อย่างใด แต่ประเด็นที่คุยกันคือ กำชับกองทัพไทยและเหล่าทัพ ทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วน พร้อมกับเห็นชอบการทำร่างพระราชบัญญัติกำลังสำรอง พ.ศ. .... เพื่อทำให้การใช้กำลังสำรองมีประสิทธิภาพมากที่สุด สอดคล้องกับ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ปี 2551 ได้ นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาหญิงเข้าเป็นกำลังสำรองได้อีกด้วย รับสมัครบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
สำหรับรายชื่อโผทหารอื่น ๆ มีดังนี้
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (กห.)
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกลาโหม เป็น ปลัดกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ หัวหน้าสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก เป็น รองปลัดกลาโหม พล.อ.สนธิศักดิ์ วิทยาเอนกนันท์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัด กห. เป็นรองปลัดกลาโหม พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) เป็นรองปลัดกลาโหม พล.อ.อ.ชนัท รัตนอุบล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผช.ผบ.ทอ.) เป็นรองปลัดกลาโหม พล.อ.ม.ล.ประสบชัย เกษมสันต์ รองปลัดกลาโหม เป็นประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล)กองทัพบก
พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก เป็นรอง ผบ.ทบ. เพื่อเตรียมขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. หลัง พล.อ.ประยุทธ์ เกษียณ พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เป็น ผช.ผบ.ทบ. พล.ท.อักษรา เกิดผล รองเสธ.ทบ. ขึ้นเป็น เสธ.ทบ.กองทัพเรือ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รอง ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร. พล.ร.อ.ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ เป็นรอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทร. พล.ร.ท.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ เป็นเสนาธิการทหารเรือ พล.ร.ท.พิจารณ์ ธีรเนตร รอง ผบ.กองเรือยุทธการ ขึ้นเป็น ผบ.กองเรือยุทธการ.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
