


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ LAKORNHD ThaiTV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
พ่อน้องต้นน้ำ เด็กเอแบค เหยื่อพ่อค้าขนมโตเกียวเลือดร้อน ยัน ลูกชายไม่ได้เมาเข้าไปหาเรื่อง เผยผลชันสูตรแพทย์ระบุ พ่อค้าตั้งใจแทง บิดมีดตัดขั้วหัวใจจนเสียชีวิต วอนสำนึกผิด อย่าโยนความผิดให้คนตาย ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด
จากกรณีที่ นายบรรจง สมดี อายุ 33 ปี พ่อค้าขายขนมโตเกียว ริมถนนปากซอยบางนา-การเด้น จ.สมุทรปราการ ถูกจับกุม หลังก่อเหตุใช้มีดแทง นายสหวัฏ วัชรเสมากุล หรือ น้องต้นน้ำ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ม.อัสสัมชัญ (เอแบค) คณะบริหารธุรกิจ เสียชีวิต โดยอ้างว่า นายสหวัฎ มีอาการเมาและพยายามเข้ามาทำร้ายร่างกาย ขณะกำลังต่อราคาซื้อขนมโตเกียว เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 27 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2556 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า ทางครอบครัวของนายสหวัฎได้เข้าพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ หลังจาก นายบรรจง พ่อค้าขายขนมโตเกียว อ้างว่า นายสหวัฎเข้าไปหาเรื่อง และเป็นฝ่ายรุมทำร้ายก่อน ซึ่งบิดาของนายสหวัฎยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
โดยบิดาของนายสหวัฎ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องจนลูกชายเสียชีวิต ตนเองได้ไปสอบถามเพื่อน ๆ ของลูกชาย 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยทั้ง 2 คนยืนยันว่าขณะเกิดเหตุไม่ได้เมาสุราอย่างที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง และฝ่ายผู้ต้องหาก็พูดจาไม่ดีใส่ก่อน จนพยายามเอามีดมาแทง ฝ่ายลูกชายพยายามถอยหนีแต่ไม่ทัน จึงถูกแทงเสียชีวิต
ทั้งนี้ ทางครอบครัวเชื่อว่าคนร้ายหวังจะเอาชีวิต เพราะผลการชันสูตรของแพทย์ระบุว่า มีบาดแผลเกิดขึ้นที่จุดเดียว เป็นแผลกว้าง 2 นิ้ว แสดงว่าเมื่อคนร้ายแทงไปแล้วได้บิดด้ามมีด ก่อนจะดึงมีดออกมาจากหน้าอก ทำให้มีดไปตัดขั้วหัวใจจนขาด แต่คนร้ายกลับไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ลูกชายเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน ทางครอบครัวรู้สึกรับไม่ได้ที่คนร้ายพยายามพูดเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เพื่อจะได้ลดโทษหนักให้เป็นเบา
บิดาของนายสหวัฎ บอกด้วยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่ได้รับการขอโทษ หรือขอขมาจากคนร้ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของลูกชายแล้ว ทางครอบครัวจะเร่งหันไปติดตามคดีความ โดยจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่มีวันจะให้อภัยได้แน่นอน เพราะคนร้ายไม่สำนึกผิดแล้ว ซ้ำยังพยายามจะพูดแก้ตัว ซึ่งทางครอบครัวรับไม่ได้
ขณะที่เพื่อนนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ช่วงกลางดึกวันเกิดเหตุ ตนเอง ผู้ตาย และเพื่อนอีกคน รวมทั้งหมดเป็น 3 คน ชวนกันออกไปหาอะไรกินแถวหอพัก ระหว่างทางกำลังจะเดินกลับก็แวะซื้อขนมโตเกียวกิน เมื่อข้ามถนนไปถึงหน้ารถเข็นขายขนมโตเกียว ผู้ตายก็ได้ถามคนขายว่ายังเปิดขายไหมครับ แต่คนขายพูดจาด้วยท่าทีไม่เป็นมิตรเท่าไร ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ได้สั่งขนมโตเกียวชิ้นใหญ่ไป พ่อค้าก็บอกว่าอันละ 20 บาท ผู้ตายกับเพื่อนอีกคนหนึ่งก็เลยพูดกันขำ ๆ ว่า แถวบ้านขายอันละ 10 บาทเอง พอพ่อค้าได้ยินก็เลยตะคอกกลับมาใส่ว่า ถ้าไม่อยากซื้อก็ไม่ต้องซื้อ ผู้ตายก็เลยพูดสวนกลับไปว่า แล้วพี่อยากจะขายหรือเปล่าล่ะ
เพื่อนของนายสหวัฏ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็มีการยืนจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดจาดูถูกกันอย่างที่ผู้ต้องหาอ้าง พอตนเห็นท่าไม่ค่อยดี ก็เลยชวนเพื่อนกลับ แต่ทางผู้ตายยังอยากจะพูดกับพ่อค้าให้รู้เรื่องก่อน ตนจึงหันไปดึงตัวผู้ตายให้กลับ แต่ระหว่างนั้น พ่อค้าได้วิ่งเข้ามาหาผู้ตายและใช้มีดปอกผลไม้ปักเข้าที่อกซ้าย ดึงมีดออก แล้ววิ่งหนีไป ยืนยันว่า พวกตนไม่ได้เมา มีสติครบถ้วน ผู้ตายก็ไม่ได้วิ่งเข้าไปหาพ่อค้า ยืนแบบทิ้งระยะกัน แล้วทางพ่อค้าก็วิ่งเข้ามาแทง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ตามข่าวที่ออกมาว่า ผู้ตายไปพูดว่ามีเงินจะซื้อ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ไม่มีใครพูดอย่างนั้นเลย
ทั้งนี้ อยากให้พ่อค้ายอมรับความจริง อย่าออกมาพูดแก้ตัวแบบนี้ เพราะเพื่อนของตนเสียชีวิตไปแล้ว คงจะมาพูดอะไรไม่ได้อีก อยากให้ทางพ่อค้าได้รับโทษทางสังคมด้วย เพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองทำอะไรลงไป






