ฟักทอง ฮาโลวีน ทำไมถึงมาเกี่ยวข้องกันได้ เรื่องราวของ Jack O'Lantern หรือตะเกียงฟักทอง มีที่มาอย่างไร ถ้าอยากรู้ตามมาเลย !
พอถึงเทศกาลฮาโลวีน หลายคนคงนึกถึงการแต่งตัวแฟนซีเป็นภูตผีปีศาจ
หรือการที่เด็ก ๆ ฝรั่งจะพากันออกไปเดินเคาะประตูตามบ้านเพื่อขอขนมหวาน
อย่างที่เรียกว่า trick or treat
แต่ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน
นั่นก็คือฟักทองสีส้มผลใหญ่ ถูกคว้านเนื้อออกแล้วจุดเทียนด้านใน
หรือที่เรียกว่า Jack O'Lantern (ตะเกียงฟักทอง) อยากจะรู้ไหมว่า
ทำไมวันฮาโลวีนต้องมีตะเกียงฟักทอง วันนี้ กระปุกดอทคอม หยิบเอาประวัติเล็ก
ๆ น้อย ๆ ของเรื่องนี้มาฝากกันจ้า
เรื่องของฟักทองนี้ ต้องบอกว่าจริง ๆ
แล้วผู้คนต่างพากันแกะสลักตะเกียงฟักทองในวันฮาโลวีนแบบนี้มานานหลายศตวรรษแล้ว
ซึ่งการแกะสลักตะเกียงฟักทองนี้
มีจุดเริ่มต้นมาจากนิทานปรัมปราของชาวไอริช
เกี่ยวกับเรื่องของชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า แจ๊คจอมตระหนี่
โดยตามนิทานเล่าว่า แจ๊คจอมตระหนี่ ได้เชิญปีศาจมาร่วมดื่มเหล้ากับเขา แต่เนื่องจากแจ๊คเองไม่อยากจ่ายเงินค่าเครื่องดื่ม ดังนั้น เขาจึงบอกให้ปีศาจเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเหรียญ และแจ๊คจะได้จ่ายเงินค่าเหล้าได้ แต่เมื่อปีศาจเปลี่ยนตัวเองเป็นเหรียญแล้ว แจ๊คกลับเก็บเงินนั้นเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อใกล้ ๆ กับไม้กางเขน ทำให้เจ้าปีศาจไม่สามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นร่างเดิมได้อีก แจ๊คจึงยื่นข้อเสนอให้ปีศาจว่า หากอยากจะกลับร่างเดิม ปีศาจก็ต้องสัญญาว่าจะไม่รบกวนแจ๊คเป็นเวลา 1 ปี และหากแจ๊คตาย เจ้าปีศาจก็ต้องไม่มาเอาวิญญาณของเขาไป
หลังจากนั้นไม่นาน แจ๊คก็ได้เสียชีวิตลง แต่พระเจ้าไม่สามารถให้วิญญาณอันชั่วร้ายของแจ๊คขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ได้ ขณะที่ปีศาจเองก็รู้สึกโกรธเคืองกับเล่ห์เหลี่ยมของแจ๊ค แต่ก็ไม่สามารถเอาวิญญาณของแจ๊คไปนรกได้เช่นกัน เพราะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้ ดังนั้น ปีศาจจึงส่งแจ๊คไปยังราตรีที่มืดมิดและมีถ่านติดไฟไว้นำทาง แจ๊คจึงนำถ่านนั้นไปใส่ในหัวผักกาดแกะสลักและล่องลอยไปมาบนโลกนับจากนั้นเป็นต้นมา จากนั้น ชาวไอริชจึงมักพูดถึงผีว่า เป็น Jack of the Lantern ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นชื่อสั้น ๆ คือ Jack O'Lantern
ในไอร์แลนด์และสกอตแลนด์ ผู้คนจะแกะสลักผัก-ผลไม้ต่าง ๆ ให้เป็นรูปร่างหน้าตาน่าเกลียด ตั้งแต่หัวผักกาด มันฝรั่ง และอื่น ๆ จากนั้นก็จะนำไปวางตรงหน้าต่างหรือประตู เพื่อขับไล่วิญญาณของแจ๊คจอมตระหนี่ รวมทั้งสัมภเวสีเร่ร่อน ส่วนในอังกฤษนั้น จะมีการใช้หัวบีตผลโตแกะสลักแทน
ต่อมามีการค้นพบทวีปอเมริกา ทำให้ผู้คนในยุโรปต่างย้ายไปสร้างหลักปักฐานที่นั่นจำนวนมาก ซึ่งผู้อพยพจากประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ได้นำประเพณีแกะสลักผลไม้แล้วเอาเทียนใส่ไว้ตรงกลางไปเผยแพร่ด้วย แต่เนื่องจากฟักทองเป็นผักพื้นเมืองที่หาได้ง่ายในสหรัฐอเมริกา ทำให้คนในสหรัฐอเมริกานิยมใช้ฟักทองมาแกะสลักมากที่สุด จึงทำให้นับแต่นั้นมา ฟักทองแกะสลักก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวันฮาโลวีนเสมอมา