LPG ราคาถูกเหลวเมินคนจน หาบเร่-แผงลอยร้องถูกปัดขายก๊าซ (ไทยโพสต์)
แผงลอยข้างกระทรวงพลังงาน ร้อง ถูกปฏิเสธจำหน่ายก๊าซแอลพีจีราคาถูก แม้ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือคนจน วอนเร่งตรวจสอบ หวั่นขยับราคาขึ้นทุกเดือนกระทบต้นทุนร้านอาหาร
วันที่ 4 ตุลาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยขายอาหารข้างกระทรวงพลังงานได้ให้ข้อมูลถึงการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ตาม "โครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ภาคครัวเรือน" ของกระทรวงพลังงาน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยและร้านค้าหาบเร่ แผงลอย ให้สามารถซื้อก๊าซแอลพีจีในราคาเดิม 18.13 บาทต่อกิโลกรัม ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซแอลพีจีในราคาเดิมได้ เนื่องจากร้านค้าที่ส่งก๊าซฯ ให้เป็นประจำในเขตจตุจักร แจ้งว่าไม่ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลไปยังศูนย์คอลเซ็นเตอร์ของกระทรวงแล้ว พบว่าร้านค้าดังกล่าวได้ลงทะเบียนเป็นร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
แม่ค้าขายอาหารรายหนึ่ง กล่าวว่า แผงลอยที่ขายอาหารทั้งหมดต้องยอมซื้อก๊าซแอลพีจีราคาใหม่ที่มีการปรับราคาขึ้น จากเดิมที่เคยซื้อถัง 15 กิโลกรัม รวมค่าส่งเป็นราคาถังละ 295 บาท ก็มีการปรับขึ้นราคาเป็นถังละ 305 บาท เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ราคาก็ปรับขึ้นไปเป็นถังละ 315 บาท ซึ่งปกติทางร้านจะต้องใช้ก๊าซฯ วันละถัง จึงค่อนข้างส่งผลกระทบกับต้นทุนมาก และไม่สามารถที่จะปรับขึ้นราคาค่าอาหารกับลูกค้าได้อีก
ทั้งนี้ ยังมีความกังวลด้วยว่า ภาระดังกล่าวจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหากยังไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ ทั้ง ๆ ที่มีสิทธิ์ เพราะรัฐจะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มขึ้นอีกทุกเดือน จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบร้านค้าก๊าซฯ ดังกล่าวด้วย ซึ่งในย่านนี้ก็เป็นที่ทราบดีว่าร้านอะไร
ด้าน นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ปัญหาการใช้สิทธิ์ตามโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกกาซหุงต้มภาคครัวเรือน ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการเป็นผู้ดูแล ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะมีการตรวจสอบปัญหาข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามายังศูนย์คอลเซ็นเตอร์อยู่เป็นระยะ
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการและปฏิเสธการจำหน่ายก๊าซฯ จะมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีดังกล่าวค่อนข้างยากในการปฏิบัติ เนื่องจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าไม่กล้าที่จะแจ้งความ เพราะกลัวจะมีปัญหากับร้านค้าก๊าซฯ ที่อาจจะหยุดส่งก๊าซฯ และทำให้พ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อน เนื่องจากต้องใช้ก๊าซหุงต้มทุกวัน
ในขณะที่ข้อมูล สพน. ระบุถึงจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนมีสิทธิ์ ตามโครงการจนถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา มีจำนวน 64,926 ราย จากจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ 7.7 ล้านราย และมีผู้ใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซฯ ในราคาเดิมแล้ว 29,700 ราย ซึ่งยังถือว่าเป็นจำนวนที่น้อย โดยส่วนหนึ่งมาจากปัญหาที่ร้านค้าก๊าซฯ ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการ และกระทรวงพลังงานยังไม่มีมาตรการที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
