เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์
ข่าวแม่คลอดลูกตาย ล่าสุด สามีของหญิงสาวคนดังกล่าวได้เรียกร้องผ่านรายการปากโป้ง ให้โรงพยาบาลรับผิดชอบกรณีไม่ทำคลอด จนต้องคลอดเองเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต ด้าน บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ โฟนอินกลางรายการ อยากให้สนใจคนไข้มากกว่าเงิน
วันที่ 16 ตุลาคม 2556 นายเสมอ พิมพ์อ่อง อายุ 52 ปี สามีของนางชลธิชา วรรณทิพย์ อายุ 31 ปี ที่ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธการทำคลอดให้ และกลับไปคลอดลูกเองที่บ้านจนเด็กเสียชีวิต พร้อมด้วยนางบุญสืบ พิมพ์อ่อง อายุ 54 ปี พี่สาว ได้ร่วมกันเปิดเผยเรื่องราวผ่านรายการปากโป้ง ช่อง 8 เครืออาร์เอส
โดยนายเสมอ เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณตี 5 ภรรยาเกิดมีอาการปวดท้องและน้ำเดิน จึงเรียกให้พี่สาวพาไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ผู้ชายบอกว่าภรรยาของตนเองกำลังจะคลอด เพราะปากมดลูกเปิด 8 เซนติเมตรแล้ว แต่หากจะเข้าทำคลอดจะต้องจ่ายเงิน 18,000 บาท แต่พี่สาวกับภรรยามีเงินติดตัวไปแค่ 300 บาท และบัตรประกันสังคมที่มี เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าหมดอายุแล้วจึงใช้ไม่ได้ จากนั้นก็แนะนำให้พาไปคลอดที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ก่อนจะพาขึ้นรถแท็กซี่และบอกให้พาไปส่งโดยเร็วที่สุด
แต่เมื่ออยู่บนรถแท็กซี่ นางชลธิชากลับไม่รู้สึกปวดท้องแล้ว จึงบอกให้รถแท็กซี่พาไปส่งบ้าน เพราะถึงไปโรงพยาบาลก็คงไม่มีเงินจ่ายอยู่ดี จากนั้นนางบุญสืบพี่สาวที่ไปด้วยกัน จึงขอตัวกลับบ้านก่อน แต่พอกลับมาอีกทีก็พบว่านางชลธิชาได้คลอดลูกเองและทารกเสียชีวิตลงแล้ว จึงแจ้งความให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและพาเจ้าตัวไปส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม นายเสมอ ได้เปิดใจว่า อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น อีกทั้งหากภรรยาเสียชีวิตไปตนก็คงเสียใจมากที่สุด
ส่วน บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงและอาสาสมัครกู้ภัย ที่เป็นผู้จุดประเด็นดังกล่าวขึ้นมา ก็มีการโฟนอินกลางรายการปากโป้งด้วยว่า อยากให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบรักษาคนก่อนจะเรียกเงิน เพราะจากที่ทำงานตรงนี้มา มักจะเห็นโรงพยาบาลปฏิเสธคนไข้เนื่องจากไม่มีเงิน แต่ก็ไม่ได้เหมารวม เพราะโรงพยาบาลที่ดีก็มีเหมือนกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
