เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เครื่องบินลาวตก ล่าสุด รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ระบุ เจอสัญญาณกล่องดำเครื่องบินลาวที่ตกแล้ว แต่ยังไม่พบเหตุแม่น้ำโขงไหลแรงและเชี่ยว
จากกรณีที่เครื่องบินโดยสารแบบเอทีอาร์ 72 สายการบินลาว แอร์ไลน์ (Lao Airlines) เที่ยวบินที่ คิววี 301 ได้ออกเดินทางจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มุ่งหน้าสู่สนามบินเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ทางใต้ของประเทศ และเกิดอุบัติเหตุตกบริเวณฝั่งเมืองโพนทอง ตรงข้ามเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2556 นั้น
ล่าสุดวันนี้ (20 ตุลาคม 2556) นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ทางจังหวัด ได้ประสานงานกับทุกภาคส่วน ได้ระดมความช่วยเหลือลาวในการค้นหาศพผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้จากจำนวนศพที่ค้นหาได้ เกือบ 40 ศพนั้น ยังคงไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นศพของคนไทยหรือไม่ เพราะตอนนี้ทีมพิสูจน์อัตลักษณ์ไทย สามารถระบุตัวได้แล้วเพียง 9 รายเท่านั้นต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
ส่วนการค้นหาซากเครื่องบินนั้น นายสุทธินันท์ กล่าวว่ายังติดปัญหาอุปสรรคให้เรื่องของกระแสน้ำในแม่น้ำโขง ที่น้ำลึกประมาณ 15 เมตร และขณะทางเจ้าหน้าที่ เจอสัญญาณของกล่องดำแล้ว แต่นักประดาน้ำยังไม่สามารถค้นหาได้พบ เพราะกระแสน้ำเชี่ยว ขุ่น และลึกมาก โดยในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร จะทำการจับสัญญาณและกำหนดพิกัดที่ชัดเจน เพื่อทำการค้นหากล่องดำให้เจอ ทั้งนี้ทางการไทยพร้อมจะช่วยเหลือการค้นหาครั้งนี้เต็มกำลัง
ทางด้าน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ.10 แถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.วัลลภ รักเสนาะ รองเจ้าแขวงลาว ดร.บุญของ ดีวิชัย รองเจ้าแขวงจำปาสัก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ว่า ได้ระดมตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่จากฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ใช้เครื่องโซนาร์เข้าสแกนค้นหาผู้เสียชีวิต ซึ่งในขณะนี้สามารถค้นพบผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 34 ราย ชิ้นส่วนอีก 6 ชิ้น และกำลังจะเดินทางไปรับอีก 4 ราย จากจำนวนทั้งหมด 49 ราย ซึ่งได้มีการส่งมอบไปแล้วจำนวน 9 ศพ เป็นชาวลาว 8 ราย และจีน อีก 1 ราย และยังไม่พบศพผู้เสียชีวิตชาวไทยทั้ง 5 ราย
ทั้งนี้ ทางประเทศลาว จะจัดพิธีไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 21 ต.ค. เวลา 14.00 น. เป็นเวลา 5 นาที