เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ รู้ตัวโดนยิงก่อนซิ่งหนี สอบเมียไม่พบพิรุธ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ LAKORNHD ThaiTV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, เฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้
      
           เผยวงจรปิด เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม รู้ตัวโดนยิงก่อนซิ่งหนี แต่ไม่รอด ตำรวจชี้มือปืนระดับเทพ ยิง 3 นัดไม่พลาด คาดทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ขณะที่สอบสวนภรรยาเอ็กซ์ ไม่พบพิรุธ ด้านพ่อแม่รับศพลูกปล่อยโฮ สวมชุดทีมชาติให้ร่างไร้วิญญาณ

           จากเหตุการณ์ลอบยิง เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬามือปืนทีมชาติไทย ภายในรถยนต์จนเสียชีวิต ขณะที่กำลังจะเดินทางไปหาลูกและภรรยา โดยมีคนรับใช้ชาวพม่านั่งอยู่ด้วย ซึ่งเกิดเหตุบริเวณหน้าปากซอยรามคำแหง 166  เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นการถูกสังหารไว้หลายเรื่อง อาทิ ยาเสพติด, ชู้สาว, การพนัน, พระเครื่อง และความโกรธแค้นส่วนตัว ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (20 ตุลาคม 2556) มีรายงานว่า จากการที่พยานระบุว่าระหว่างที่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ขับรถออกมาจากถนนสุขาภิบาล 3 และเกิดเหตุกระทบกระทั่งกับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์นั้น ชุดสืบสวนได้สอบปากคำคนรับใช้ที่อยู่ในรถ ซึ่งถูกสะเก็ดหัวกระสุนด้วยว่า ระหว่างทางไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆ ตามที่พยานบอกเลย ซึ่ง เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ มาถูกยิงตรงจุดเกิดเหตุเพียงเท่านั้น 

         ในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ระหว่างทางที่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ขับมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งบางตัวก็เสียไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ส่วนตัวที่บันทึกภาพได้ขณะนี้ตำรวจได้ประสานกับทาง กทม. เพื่อขอข้อมูลและรายละเอียดดังกล่าว แต่ขณะนี้ได้ข้อมูลเบื้องต้นมาแล้วว่า คนร้ายมี 2 คน ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ ขับรถจักรยานยนต์คล้ายรถของผู้หญิง คาดว่าน่าจะเป็นฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ ไอ ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปจากการตรวจสอบที่ชัดเจนจากฝ่ายสืบสวนอีกครั้ง


 ชี้มือยิงเป็นมือปืนระดับอาชีพ เพราะเล็งเป้าหมายเพียงคนเดียว


         รายงานข่าวจากทีมสืบสวนสอบสวนวิเคราะห์ว่า คนร้ายเป็นมือปืนอาชีพ เนื่องจากเล็งกระสุนเข้าจุดตายและเล็งมาตรงที่เบาะคนขับเพียงอย่างเดียว ส่วนเบาะนั่งข้างคนขับไม่พบร่องรอยกระสุน คาดว่าคนร้ายน่าจะติดตาม เอ็กซ์ จักรกฤษณ์มาจากบ้านพัก หรือไม่ก็มีคนส่งสัญญาณให้ลงมือทำ
 
         ขณะที่ผลการตรวจพิสูจน์ศพ แพทย์ระบุว่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมาก เพราะกระสุนได้ทำลายหัวใจและปอด

         นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวถึงวิถีกระสุนที่คนร้ายใช้ยิงว่าแนวกระสุนที่เป็นอันตรายและเป็นตัวสังหารนายจักรกฤษณ์ คือ 3 นัดแรก มีนัดที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับขอบกระจกรถด้านข้างคนขับ ซึ่งนัดนี้ถือเป็นนัดสำคัญมาก ส่วนนัดที่สองเป็นตำแหน่งที่ขยับต่อมาจากนัดแรก และนัดที่สามขยับตามออกมา เห็นได้ว่า คนร้ายขับจักรยานยนต์ยิงเข้าใส่และเคลื่อนไปด้านหน้า พร้อมขับออกไปไกลห่างเรื่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนร้ายทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เนื่องจากรถสปอร์ตของนายจักรกฤษณ์เบาะค่อนข้างต่ำ และเบาะก็เอนไปด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าคนร้ายมีการแอบซุ่มและลอบมองไว้เป็นเวลานาน จึงสามารถยิงตรงพิกัดจุดคนขับได้เป็นอย่างดี และ 3 จุดที่ยิงใส่ก็ไม่พลาดสักนัด 
 
        รายงานระบุอีกว่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ น่าจะรู้ตัวว่าโดนประกบยิงจึงขับรถรีบหลบหนี แต่เนื่องจากเป็นบริเวณปากซอย คนร้ายอาศัยจังหวะเลี้ยวและเล็งกระสุนเข้าทันที พร้อมขับหนีไปทาง ถ.รามคำแหง แยกมิสทีน
 

สอบปากคำข้ามวัน ไม่พบพิรุธ ภรรยา เอ็กซ์ จักรกฤษณ์

         รายงานระบุว่า หลังจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญ นายมานพ พาณิชย์ผาติกรรม บิดา นางบุญคิด พาณิชย์ผาติกรรม มารดา  และ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา มาสอบปากคำเบื้องต้น โดยใช้เวลาสอบปากคำตลอดคืนจนถึงเวลา 04.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม

         และจากการสอบปากคำ พญ.นิธิวดี ในเบื้องต้นยังไม่พบพิรุธแต่อย่างใด โดย พญ.นิธิวดี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้คุยโทรศัพท์กับ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เรื่องปรับปรุงห้องให้ลูกที่บ้านพักใน ซ.รามคำแหง 174 ซึ่งหลังจากนั้น เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ก็ได้ชวนตนไปพูดคุยที่บ้านหลังดังกล่าว แต่แม่ของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เห็นว่ามืดแล้วไม่น่าออกไป เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ จึงขับรถจากบ้านพัก ซ.รามคำแหง 174 มากินข้าวด้วยกันที่บ้านพักของตนที่ ซ.รามคำแหง 162 แทน และ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ก็ได้ชวนนางสาวหวานสาวใช้พม่ามาด้วย เพราะพี่ของนางสาวหวานทำงานอยู่ที่บ้านของตน แต่เมื่อถึงปากซอยรามคำแหง 166 ก็เกิดเหตุขึ้นเสียก่อน 

         ส่วนกรณีที่ พญ.นิธิวดี ไปถึงยังที่เกิดเหตุในเวลารวดเร็วและได้ขึ้นรถพยาบาลไปกับ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ด้วยนั้น พญ.นิธิวดี ให้การว่า หลังจากเกิดเหตุนางสาวหวานได้ใช้โทรศัพท์โทรหาตนในทันที ตนจึงรีบเดินทางออกจาก ซ.รามคำแหง 162 ไปยังจุดเกิดเหตุเพียง 5 นาที  ทั้งนี้ คำให้การของ พญ.นิธิวดี กับนางสาวหวานคนใช้สอดคล้องกันและไม่พบพิรุธแต่อย่างใด

        นอกจากนี้ พญ.นิธิวดี ได้กล่าวถึงข้อสงสัยประเด็นหนึ่งว่า ที่ผ่านมา เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ขัดแย้งกับคนในสมาคมมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนว่าใครบ้างที่เคยขัดแย้งกับนาย เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ถึงขั้นต้องเอาชีวิต



พ่อแม่ ปล่อยโฮไม่หยุด รับศพลูกชาย เอาชุดทีมชาติสวมให้
 
         ส่วนทางด้านพ่อและแม่ของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ก็ได้เดินทางมารับศพที่โรงพยาบาลตำรวจ และเมื่อพ่อเห็นศพลูกชายถึงกับร้องไห้เสียงดังลั่นห้องด้วยความเสียใจ ต่อมาได้นำชุดเสื้อสูทสีน้ำเงินของนักกีฬาทีมชาติไทย หรือ ชุดโดฮาร์เกมส์ ปี 2006 มาสวมใส่ และนำศพของลูกชายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน เป็นเวลา 5 วัน

         ด้านแม่ของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของลูกก็ร้องไห้ไม่หยุด พร้อมเข้าไปสวมกอดและจูบใบหน้าของลูก และกล่าวว่า แม่อโหสิกรรมให้ลูกทุกอย่าง ที่ตั้งชื่อจักรกฤษณ์เพราะไปขอพระพรหมมา เนื่องจากตอนเด็ก ๆ เลี้ยงยาก แต่ต่อจากนี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะลูก พระพรหมท่านให้ลูกมาแค่นี้

        นางบุญคิด ให้สัมภาษณ์ต่อว่า ตนเสียใจมากที่เสียลูกชาย ก่อนหน้านี้เอ็กซ์ยังมานอนกับตนอยู่เลย และยังได้ถ่ายรูปหลานกับตัวเองส่งมาให้ตนดูด้วย พร้อมกับหยอกตนเล่นว่า ตนเล่นไลน์เป็นด้วยเหรอ แต่ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตไม่นาน ตนทราบมาว่า เอ็กซ์ส่งรูปเมรุให้แฟนเขา โดยบอกว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องตายและก็ยังบอกอีกว่า ห่วงบ้านกลัวน้ำจะท่วม 
 
        ในส่วนของเรื่องดำเนินคดีนั้น นางบุญคิด กล่าวว่า คงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนอยากให้ลงโทษคนที่ฆ่าลูกด้วยการประหารชีวิต และขอให้คมหอกคมดาบส่งไปยังผู้บงการทั้งหมด ส่วนลูกชายตนเคยบอกไว้ว่า หากเขาตายให้เปิดเพลงแสงสุดท้าย ของบอดี้สแลม ให้ด้วย เพราะชื่นชอบเป็นพิเศษ สำหรับตนนั้น ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ตนนั่งมองรูปลูกทั้งคืน และบอกให้เขาหลับให้สบายเพราะเหนื่อยมามากแล้ว

        ด้านนักข่าวถามอีกว่า ได้บอกลูก ๆ ของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตหรือยัง นางบุญคิดบอกว่า ยังไม่ได้บอก บอกแค่ว่าพ่อไปทำงานเท่านั้น และหลังจากนั้นก็บอกว่า พ่อไม่สบาย นอนอยู่ที่โรงพยาบาล 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก