เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคนอวดผี โพสต์โดย คุณ tvthaichannel สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คนอวดผี สุทธิ รอดพิทักษ์ ถูกลวงไปฆ่าแล้วทิ้งศพไว้อย่างโดดเดี่ยวกลางป่าลึก ก่อน ริว จิตสัมผัส จะนำครอบครัวบุกป่าไปเชิญดวงวิญญาณ นายสุทธิ รอดพิทักษ์ กลับบ้าน ตามคำร้องขอ
จากที่เมื่อคืนวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2556 รายการคนอวดผี ทางช่อง 5 ได้นำเสนอเรื่องราวของ นายสุทธิ รอดพิทักษ์ หรือ คุณติ๊ก หายตัวไปจากบ้านอย่างลึกลับ ทำให้ คุณนก ภรรยา ร้อนใจออกตามหาตัวแต่ก็ไม่พบ กระทั่งเวลาผ่านไป สามีได้มาเข้าสิงร่างของลูกชายแล้วบอกว่าตนเองถูกฆาตกรรมเสียชีวิตไปแล้ว พร้อมกับขอให้คุณนกช่วยไปนำเอาศพที่ฝังอยู่ในป่าลึกของจังหวัดฉะเชิงเทรากลับมา
แต่เมื่อคุณนกไปถึงในป่ากลับหาศพของสามีไม่เจอ สามีจึงมาเข้าสิงร่างคุณนกแล้วพยายามบอกจุดที่คนร้ายฝังศพ ก่อนที่ภายหลัง ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ และพาไปชี้จุดฝังศพ ซึ่งก็เป็นจุดเดียวกับที่วิญญาณของสามีพยายามบอกคุณนกจริง ๆ สร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปช่วยกันตามหาศพเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ทางครอบครัวจะนำศพของนายสุทธิกลับมาบำเพ็ญกุศลแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของนายสุทธิจะยังไม่หมดห่วง เพราะยังมาเข้าฝันคุณนกบอกให้เธออย่าเพิ่งนำร่างไปเผา ขอให้เก็บร่างไว้ก่อน ซึ่งก็ทำให้คุณนกและญาติ ๆ อยากจะรู้ว่า นายสุทธิมีความปรารถนาเช่นไร จึงได้มาขอความช่วยเหลือจาก ริว จิตสัมผัส ในช่วงศูนย์บรรเทาทุกข์ผี ที่ออกอากาศในคืนวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2556 อย่างไรก็ตาม นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม...
ทั้งนี้ ริว จิตสัมผัส บอกว่า คุณสุทธิ หรือติ๊ก สามีของคุณนกได้สื่อสารออกมาว่า "ผมมารอเค้านานละ อยากบอกว่าคิดถึงมาก หนาวมากในป่า ดีใจที่ได้เจอ" ซึ่งคุณนกก็บอกว่า สามีของเธอเป็นคนเกลียดการรอคอย ตอนมีชีวิตอยู่เขาจะบอกรักเธอกับลูกทุกวัน และตอนที่สามีเสียไปแล้วเขาก็มาเข้าฝันเธอว่าให้เอาผ้าห่มไปถวายพระให้หน่อยเพราะตอนนี้หนาวมาก แต่ช่วงนั้นเธอเดินทางไป ๆ มา ๆ ระหว่างท่าตะเกียบกับบ้าน เพื่อตามหาศพ จึงยังไม่มีเวลานำผ้าห่มไปถวายพระ
ริว บอกด้วยว่า ระหว่างที่คุณนกเล่าไปร้องไห้ไป เขาเห็นภาพของคุณติ๊กมายืนกอดปลอบคุณนกอยู่ ซึ่งคุณนกก็บอกว่า ปกติแล้วสามีจะปลอบใจเธอเสมอ ไม่ให้ท้อต่ออุปสรรค ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สามีก็จะอยู่เคียงข้าง
และระหว่างที่ ริว กำลังเขียนข้อความบนกระดานอยู่นั้น จู่ ๆ คุณนกก็มีอาการประหลาด แล้วพูดขึ้นมาทั้งน้ำตาว่า "ผมห่วงลูกกับเมียผม ลูกเมียผมต้องลำบากไหมครับ" ก่อนที่พิธีกรจะถามว่า ตอนนี้พวกเรากำลังคุยกับใครอยู่ ซึ่งคุณนกที่ร้องไห้อยู่ได้ตอบกลับมาว่า "ผมชื่อติ๊กครับ"
จากนั้น พิธีกรได้ถามต่อว่า ในวันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคุณนกที่ระบุว่าตัวเองคือคุณติ๊ก ผู้เป็นสามี ได้พูดว่า "มันทรมานผมครับ" ก่อนจะบอกว่าตนได้อ้อนวอนร้องขอชีวิตจากคนร้าย แต่คนร้ายไม่ยอม ตอนนั้นตนทรมานมาก นึกถึงแต่ลูกเมีย เพราะสงสารลูกเมีย คิดถึงลูกมาก ตอนนี้ตนอยากกอดลูกมาก
เมื่อได้ยินดังนั้น พิธีกรจึงเชิญน้องแจ๊ค ลูกชายของคุณติ๊กและคุณนกเข้ามาที่วงสนทนา ซึ่งคุณนกก็ได้โผกอดลูกชายทันทีแล้วพูดว่า "ดูแลแม่ด้วยนะลูกนะ หนูต้องอยู่ให้ได้นะ พ่อขอกอดครั้งสุดท้ายนะลูกนะ"
หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับเข้าสู่เหตุการณ์ปกติ ทางรายการได้ถามน้องแจ๊คว่า มั่นใจหรือไม่ว่าคนที่พูดคุยกันเมื่อกี้เป็นคุณพ่อ ซึ่งน้องแจ๊คก็ยืนยันว่ามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะปกติพ่อก็จะพูดกับเขาว่าให้รักแม่บ่อย ๆ และก็ตรงกับที่ ริว สัมผัสได้ว่า คุณติ๊กพยายามบอกคุณนกว่า "แม่อย่าร้องไห้ พ่อจะไม่ไปไหน ผมห่วงลูก"
ริว ได้พูดกับน้องแจ๊คต่อว่า สิ่งที่คุณติ๊กห่วงลูกชายก็คือลูกชายไม่ตั้งใจเรียน ทั้งที่ลูกเป็นคนหัวดีแต่เสียอย่างเดียวคือขี้เกียจ จึงอยากให้ลูกมีอนาคตดี ๆ ซึ่งคุณนกก็ยืนยันว่า สามีของเธอมักจะพูดกับลูกแบบนี้ทุกวันจริง ๆ อย่างที่คุณริวบอก
ส่วนคำถามที่คุณนกอยากรู้ก็คือ วิญญาณของคุณติ๊กจะสงบหรือไม่นั้น ริว ได้ให้คำตอบว่า คุณติ๊กจะยังไม่ไปไหนจนกว่าจะเห็นน้องแจ๊คได้ดี เพราะนี่คือความหวังที่คุณติ๊กรอคอยมาตลอด นอกจากนี้ คุณนกต้องไปเชิญวิญญาณคุณติ๊กกลับมา เพราะคุณติ๊กพูดว่า เขายังหนาวและทรมานอยู่ เนื่องจากวิญญาณยังวนเวียนอยู่ในสถานที่นั้น แม้คนผิดจะถูกจับแล้วก็ตาม
ส่วนเรื่องที่คุณติ๊กขอไม่ให้เผาศพนั้น ริว แนะนำว่าอย่างไรก็ต้องเผา เพราะไม่เช่นนั้นคุณติ๊กจะไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานที่เหล่านั้นได้ และต้องเจ็บปวดทรมานต่อไป เพียงแต่ตอนนี้คุณติ๊กยังกลัวในเรื่องรูปคดีอยู่ เลยไม่อยากให้เผาเท่านั้น
เมื่อคุณนกได้ฟังคำแนะนำของริวที่ให้นิมนต์พระไปสวดบังสุกุล เธอก็บอกว่า ส่วนตัวรู้สึกไม่อยากไปสถานที่แห่งนั้นเลย เพราะมีแต่ความทรงจำที่ไม่ดี เธอไม่อยากจดจำแถวนั้นอีกแล้ว แต่ริวแนะนำว่า ถ้าไม่ไปอัญเชิญวิญญาณกลับมา คุณติ๊กก็จะวนเวียนอยู่ในที่แห่งนั้น และต้องทนทรมานต่อไป สู้อัญเชิญให้คุณติ๊กมาอยู่ใกล้ ๆ ลูกไม่ดีกว่าหรือ ซึ่งเขาก็พร้อมจะเดินทางไปด้วยเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้
หลังจากถ่ายทำรายการในสตูดิโอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางรายการคนอวดผี ก็ได้พาคุณริว และครอบครัว เดินทางไปยังเขากล้วยไม้ที่อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา สถานที่ที่คุณติ๊กถูกลวงไปฆาตกรรมชิงรถตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 เพื่ออัญเชิญวิญญาณที่ถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยวกลับมา ซึ่งเส้นทางที่เดินขึ้นไปนั้นค่อนข้างยากลำบากและเต็มไปด้วยอันตราย เพราะเป็นทางที่ฝูงช้างป่าลงมาหากิน ทุกคนจึงต้องรีบกลับขึ้นมาก่อน 5 โมงเย็น
ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปบนเขานั้น ริว ได้ทำการเสี่ยงทายเส้นทางที่จะเดินขึ้นไปยังจุดที่จะทำพิธี เพราะชาวบ้านบอกว่าเห็นวิญญาณของคุณติ๊กอยู่แถวอ่างเก็บน้ำ แต่จุดพบศพจะอยู่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งหลังจากเสี่ยงทาย วิญญาณก็บอกให้คณะต้องขึ้นไปที่จุดที่พบศพเท่านั้น โดยจุดดังกล่าวอยู่ไกลออกไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร
ทางคณะต่างเร่งเดินทางเพื่อไปถึงจุดดังกล่าว ซึ่งต้องข้ามห้วย ผ่านป่ารก ทางสูงชัน เผชิญกับสภาพการเดินทางที่ยากลำบากมาก และต้องเร่งทำเวลาให้ทันก่อนที่ช้างป่าจะลงมา จนในที่สุด หลังจากใช้เวลาเดินทางนานกว่า 3 ชั่วโมง ทางคณะก็มาถึงจุดที่จะประกอบพิธีอัญเชิญวิญญาณ โดยพระสงฆ์ที่คุณนกนิมนต์ให้มาด้วยกันก็ได้สวดบังสุกุล ก่อนทำพิธีนำพาดวงวิญญาณกลับบ้านตามที่คุณติ๊กร้องขอ
ระหว่างนั้น จู่ ๆ คุณนกก็เกิดร้องไห้และมีอาการแปลก ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะสวมกอดลูกชายแล้วพูดว่า "พ่อจะได้กลับบ้านแล้วนะลูก พ่อคิดถึงรู้ไหม พ่ออยากกลับบ้านตั้งนานแล้ว"
หลังจากทำพิธีเสร็จสิ้น คุณนก ได้บอกสามีว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เธอสามารถดูแลลูกได้ และจะดูแลอย่างดี ขณะที่ลูกชายก็บอกกับพ่อว่า ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ เขาจะดูแลแม่ตามที่พ่อมาบอก ก่อนที่สองแม่ลูกจะเชิญดวงวิญญาณของพ่อกลับมายังสถานที่เก็บศพที่วัดทองสุทธาราม กรุงเทพมหานคร เพื่อทำพิธีฌาปนกิจต่อไป...
