เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล
พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ จ.กระบี่ เปิดเบื้องหลัง ส.ส. ของพรรคลาออกยกแผง ลั่น ไม่ขอยุ่งกับอภิสิทธิ์อีก และจะวางมือหลังจากเป็น ส.ส. กว่า 18 ปี
เมื่อวานนี้ (13 ธันวาคม 2556) เฟซบุ๊ก พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ของนายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.กระบี่ มีการโพสต์ภาพใบลาออกจากการเป็น ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2556 พร้อมกับมีข้อความระบุว่า "โทรสารด่วนวันนี้ ... ไม่ครับ"
ทั้งนี้ นายพิเชษฐ ได้เปิดเผยต่อเรื่องดังกล่าวว่า การที่ตนบอกว่าไม่ลาออกนั้น เป็นเพราะได้รับเอกสารประสงค์ลาออกวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงหลังจากรัฐบาลยุบสภาไปแล้ว ดังนั้นการเซ็นขอลาออกก็ไม่มีประโยชน์ อีกทั้งในวันที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลงมติลาออกนั้น ตนก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุม จึงไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ก็พอทราบมาว่า มติในวันนั้นอาจจะไม่ใช่เสียงที่ใหญ่ที่สุดของพรรค เพราะคนที่ไม่เห็นด้วยกับการลาออก เขาเดินออกจากห้องประชุมไปแล้ว ซึ่งนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สงขลา ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากมองว่า เราเป็น ส.ส. ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน จะมาลาออกแบบนี้ได้อย่างไร
นายพิเชษฐ กล่าวอีกว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์เดินผิดทางหรือไม่ ตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงว่า คนในพรรคบางคนต่างหากที่เดินผิดทาง ซึ่งเขาอาจจะนำพรรคไปในทางดีหรือเสียก็ได้ แต่ทางออกของปัญหานี้ไม่ใช่การปฏิรูปพรรค เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวโครงสร้าง โครงสร้างพรรคก็เป็นแบบนี้นานแล้ว แต่ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ตัวบุคคลและการเลือกผู้สมัครมากกว่า ทั้งนี้ หากเราเจอกำแพงใหญ่ วิธีข้ามกำแพงก็มีสามวิธี คือ ปีน ขุดลอก หรือค่อย ๆ เคาะกำแพง แต่ทางเดินพรรคขณะนี้ใช้วิธีการวิ่งชนเอา ก็เลยแพ้ยับเยินตลอดเวลา แถมโกรธแค้น จึงได้ประกาศลาออกจาก ส.ส. แล้วจะกลับเข้ามาอีก เมื่อมีเลือกตั้งใหม่
อดีต ส.ส.กระบี่ เปิดเผยอีกว่า ตนไม่อยากว่าอะไรนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะยังคิดเหมือนเดิม และเคยต่อว่าตรง ๆ ผ่านเฟซบุ๊กมาแล้ว ไม่อยากเอ่ยหรือยุ่งกับเขาอีก โดยล่าสุด ตนได้พบกับผู้ใหญ่ในพรรคอีกคนนั่นคือ นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท่านก็ร้องไห้และกอดกับตน พร้อมกับพูดว่า เหลือตนเป็นผู้ใหญ่ของพรรคคนเดียว จากนั้นตนก็ทบทวนว่า หลังจากพ้นยุครัฐบาลชวน หลีกภัย แก่นแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ก็หายกันไปหมดแล้ว
นายพิเชษฐ กล่าวอีกว่า หลายคนอาจจะคิดว่าตนสนิทกับนายชวน เป็นกระบอกเสียงต่อ จริง ๆ ไม่ใช่ เพราะไม่เคยพูดต่อ จนตัวเองรับเรื่องแย่ ๆ มาเยอะ บางครั้งก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้จึงอยากพักผ่อนให้ตัวเองแล้ว หลังจากที่ทำหน้าที่ ส.ส. มาอย่างเต็มที่กว่า 18 ปี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
