ภาพประกอบจาก YE AUNG THU / AFP
ภาพประกอบจาก YE AUNG THU / AFP
ภาพประกอบจาก SOE THAN WIN / AFP
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก SOE THAN WIN, YE AUNG THU / AFP, เฟซบุ๊ก คนที่รักจีรพงศ์ มีนาพระ
ประวัติ จิระพงศ์ มีนาพระ นักวิ่งดาวรุ่งความหวังใหม่ของทีมกรีฑาไทย กับผลงาน 3 เหรียญทองซีเกมส์ 2013 เจ้าของฉายา ยูเซน โบลต์ เมืองไทย
ต้องยอมรับว่า กีฬาซีเกมส์ เป็นกีฬาระดับภูมิภาคที่คนไทยหลายคนอาจจะจำไม่ได้เลยว่า นักกีฬาไทยได้เหรียญอะไรกันไปบ้าง เนื่องจากในแต่ละครั้งที่ไทยลงแข่งขันนั้น เราได้หรียญทองเยอะมาก ต่างจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์หรือโอลิมปิกที่ได้เหรียญทองไม่มากเท่าใดนัก จึงทำให้ผู้ที่ได้เหรียญจะทองจะเป็นที่จดจำของคอกีฬามากกว่า
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ซีเกมส์ 2013 นี้ ชื่อของ จิระพงศ์ มีนาพระ หรือเจ้ามิ้ว จะใช้กับเหตุผลดังกล่าวไม่ได้ เพราะเขาคนนี้กลับสวนกระแส ได้รับความสนใจมากจากกีฬาซีเกมส์ ด้วยผลงานการคว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันกรีฑาประเภท 100 เมตร, 200 เมตร และ ผลัด 4 คูณ 100 เมตร จนได้รับฉายาว่า ยูเซน โบลต์ เมืองไทย ซึ่งยูเซน โบลต์นี้ก็คือนักวิ่งระยะสั้นมือ 1 ของโลก ผู้ทำลายทุกสถิติ
สำหรับประวัติ เจ้ามิ้ว จิระพงศ์ มีนาพระ เขาเป็นชาวสุราษฎร์ธานี เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 ปัจจุบันศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยเริ่มสร้างชื่อจากผลงานคว้าเหรียญรางวัลในกีฬาระดับประเทศมากมาย เช่น กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ เป็นต้น ก่อนที่ติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2010 (พ.ศ. 2553) ที่เมืองกวางเจา ประเทศจีน ซึ่งในครั้งนั้น จิระพงศ์ มีนาพระ ก็สามารถหยิบเหรียญทองแดงมาได้ ในประเภทผลัด 4 คูณ 100 เมตร ขณะที่วิ่ง 100 เมตรชาย เจ้ามิ้วไม่ผ่านรอบคัดเลือก
ขณะที่การแข่งขันซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซียนั้น เจ้ามิ้วไม่ได้ลงแข่งขันในประเภท 100 เมตรชาย ส่วนวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร ทีมลมกรดไทยก็ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลติดมือมาได้ เรียกได้ว่ายุคนั้นเป็นยุคผลัดใบโดยแท้ อย่างไรก็ตาม อีก 2 ปีให้หลังซีเกมส์ 2013 (พ.ศ. 2556) ที่ประเทศพม่า จิระพงศ์ มีนาพระ ก็ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นนักวิ่งดาวรุ่งมือหนึ่งของไทย สามารถกวาด 3 เหรียญทองในประเภท 100 เมตร, 200 เมตร และผลัด 4 คูณ 100 เมตร ได้ในที่สุด ล้างตาจากซีเกมส์ครั้งก่อนได้เสียสนิท
ส่วนท่าดีใจของเจ้าตัวหลังจากคว้าเหรียญได้ ที่เป็นท่ามือทั้งสองข้าง ชี้นิ้วไปในเบื้องหน้าแนวทแยง หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นท่าอะไร แต่ถ้าคนที่ติดตามกีฬาเป็นอย่างดี ก็คงทราบว่าเป็นท่าประจำตัวของยูเซน โบลต์ จึงพอทำให้คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่า เจ้ามิ้วมีโบลต์เป็นไอดอลนั่นเอง
ทั้งนี้ หลังจากเจ้ามิ้ว จิระพงศ์ สร้างประวัติศาสตร์กวาด 3 เหรียญทองในซีเกมส์แล้ว เจ้าตัวตั้งเป้าว่า ซีเกมส์อีก 3 ครั้งข้างหน้า รวมประมาณ 6 ปี เขาจะคว้าแชมป์ให้ได้ทั้งหมด ส่วนเอเชียนเกมส์ 2014 ในปีหน้าที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าตัวตั้งเป้าว่าขอคว้าให้ได้เหรียญใดเหรียญหนึ่งก็พอใจแล้ว และจะทำสถิติการวิ่งให้ดีกว่านี้ ซึ่งเราก็ขออวยพรให้เจ้ามิ้ว จิระพงศ์ มีนาพระ สามารถคว้าเหรียญรางวัลติดไม้ติดมือในเอเชียนเกมส์ตามเป้าหมายให้ได้จ้า..สู้ ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
