เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ออสเตรเลียพบศพของเด็กชายวัย 12 ปี ที่ถูกจระเข้น้ำเค็มคาบไปเมื่อวันที่ 26 มกราคมแล้ว พร้อมออกคำสั่งยกเลิกปฏิบัติการค้นหา โดยจากนี้จะนำร่างที่พบมาทดสอบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันเอกลักษณ์ต่อไป
วันที่ 28 มกราคม 2557 สำนักข่าวเอเอฟพี มีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า ตำรวจออสเตรเลียพบซากศพของเด็กชายวัย 12 ปี ที่คาดว่าถูกจระเข้น้ำเค็มคาบไปในทางตอนเหนือของออสเตรเลียแล้ว และได้ออกคำสั่งยกเลิกปฏิบัติการค้นหาซากของเด็กชายคนดังกล่าว
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ แต่ผู้บัญชาการ ไมเคิล ไวท์ ได้เผยว่า พวกเขาได้พบหลักฐานระหว่างการค้นหาในพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าเด็กชายเสียชีวิตจากการจู่โจมของจระเข้น้ำเค็ม โดยจากนี้ตำรวจจะทำการตรวจสอบดีเอ็นเอของซากศพที่พบเพื่อยืนยันเอกลักษณ์ของเหยื่อต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บหรือประเภทของหลักฐานที่พบ เพื่อเป็นการเคารพครอบครัวของเหยื่อ ส่วนเรื่องการตรวจสอบศพเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชันสูตร
ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ล่าและสังหารจระเข้น้ำเค็มไปแล้ว 3 ตัว ที่มีความยาวกว่า 2 เมตร ในบริเวณที่อยู่ห่างไปทางตะวันออกของวนอุทยานแห่งชาติ คาคาดู ในเมืองดาร์วิน ราว 200 กิโลเมตร เพื่อค้นหาซากของเด็กชายเคราะห์ร้าย ซึ่งถูกจระเข้คาบไปขณะว่ายน้ำเล่นกับเพื่อนในมัดกินเบอร์รี่ บิลลาบอง เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่เด็กชายวัยรุ่นวัย 15 ปี สามารถเอาตัวรอดมาได้ แต่ก็ถูกคมเขี้ยวจระเข้ฝังลึกที่แขนขวา 3 แผล
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า จระเข้น้ำเค็มสามารถโตเต็มที่ด้วยความยาวถึง 7 เมตร หนักกว่า 1,000 กิโลกรัม และพบได้ในพื้นที่ทางเหนือของออสเตรเลีย ทั้งยังพบว่าจำนวนของพวกมันได้เพิ่้มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่มีการออกกฎหมายคุ้มครอง เมื่อปี 2514 หลังจากรัฐบาลประเมินว่า มีประชากรจระเข้น้ำเค็มเหลือจำนวนระหว่าง 75,000 - 100,000 ตัว