ขอขอบคุณภาพประกอบจาก WANG ZHAO / AFP
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
มาเลเซียแอร์ไลน์ เข้าค้นหาเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ต่อ หลังยังไม่พบร่องรอยใด ๆ ที่แน่ชัด ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้ มีแค่ 9% ที่เครื่องจะเกิดอุบัติเหตุบนเครื่องจนถึงแก่ชีวิต ขณะที่เครื่องบินอยู่ในระบบนำร่อง
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2557 เว็บไซต์สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 ใจความว่า ขอให้ชาวมาเลเซียและผู้คนทั่วโลก ร่วมกันอธิษฐานสำหรับเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไปเกินกว่า 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เที่ยวบิน MH370 ขาดการติดต่อ ตั้งแต่เวลา 01:30 น. ของวันที่ 8 มีนาคม 2557
ทั้งนี้ ในส่วนของการค้นหาของช่วยเหลือ ยังไม่สามารถตรวจสอบเบาะแสของเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ได้ ซึ่งทีมค้นหาและช่วยเหลือที่มาจากประเทศมาเลเซีย, สิงคโปร์ และเวียดนาม นั้น ยังไม่สามารถหาหลักฐานของซากปรักหักพังใด ๆ ในทะเลได้ จึงต้องรอให้มีแสงสว่างเพียงพอ ในวันนี้จึงจะเข้าค้นหาต่อ โดยสายการบิน มีการจัดส่งข้อมูลทั้งหมด รายงานสถานการณ์ไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อดูแลและตรวจสอบญาติของผู้โดยสารทั้งหมดอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ทางสายการบิน จะดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งผู้โดยสาร และครอบครัว หากมีการค้นพบเครื่องบินลำดังกล่าวแล้ว และยืนยันจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในกรณีนี้
ด้านสำนักข่าวเอพี ได้รายงานว่า ในขณะที่มีการค้นหาเครื่องบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่หายอยู่นั้น ด้านผู้เชี่ยวชาญการบินพลเรือนของนานาชาติ ก็ได้ออกมาวิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้ด้วยทฤษฎีต่าง ๆ ถึงสาเหตุที่เครื่องบินลำนี้หายไปจากจอเรดาร์ในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบอกกับสำนักข่าวเอพีว่า ช่วงที่อันตรายที่สุดนั้นคือตอนที่เครื่องขึ้นและลง อุบัติเหตุต่าง ๆ จะเกิดขึ้นน้อยมากเมื่อเครื่องบินกำลังบินในระบบนำร่องเหนือพื้นโลกขึ้นไป 7 ไมล์
นายท็อดด์ เคอร์ติส อดีตวิศวกรด้านความปลอดภัยของโบอิ้ง ที่เคยทำงานกับเครื่องบินโบอิ้ง 777 และผู้อำนวยการของมูลนิธิ Airsafe.com กล่าวว่า ในตอนนี้ เรายังไม่ทราบข้อเท็จจริงใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
หากเครื่องยนต์ทำงานล้มเหลวเล็กน้อย หรือมีอะไรที่ร้ายแรงมากกว่านั้น เช่น เครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่องที่กำลังทำงานอยู่เกิดดับลง นักบินก็ยังมีเวลาที่จะส่งสัญญาณวิทยุเพื่อขอความช่วยเหลือ การที่ไม่มีสัญญาณขอความช่วยเหลือนั้นชี้ให้เห็นว่า บางอย่างที่ร้ายแรงเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน นายวิลเลียม วอลด็อก ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ในตอนแรกสำนักข่าวเอพีคาดการณ์ว่า อาจจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกับเครื่องบิน หรือบางอย่างที่ทำให้เครื่องบินพุ่งดิ่งตกลงอย่างรวดเร็ว และผู้เชี่ยวชาญบางคนยังเสนอว่า ผู้ก่อการร้ายหรือนักบินเอง อาจจะตั้งใจที่จะทำให้เครื่องบินตกก็เป็นได้
"ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรที่ฉีกเครื่องบินออกเป็นชิ้น ๆ หรือมีการอาชญากรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เหตุการณ์นี้เกิดเร็วมากจนนักบินไม่ได้วิทยุมาขอความช่วยเหลือ"
นอกจากนี้ จากการรวบรวมสถิติของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินโดยสารโดยโบอิ้ง ชี้ว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต ขณะที่เครื่องกำลังอยู่ในระบบนำร่องนั้น มีเพียง 9% เท่านั้น และไม่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะดูไม่น่าเชื่อมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ถือว่ายังเร็วไปที่จะตัดความเป็นไปได้ทุกอย่างทิ้ง สาเหตุที่เครื่องบินหายอย่างแน่ชัด จะมาพร้อมกับการกู้ข้อมูลของเที่ยวบินนี้และเสียงบันทึกพร้อมทั้งการตรวจสอบชิ้นส่วนเครื่องบินอย่างละเอียด
