เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ LAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ดำรงค์ พิเดช เผย ห่วงช้างป่าที่เหลืออีก 2 ตัว ที่เดินมาพร้อมกับช้างป่าตัวที่เกิดอุบัติเหตุรถปาเจโรชนจนล้ม อาฆาตแค้น หวั่นวิ่งเข้าทำร้ายรถสีขาวคันอื่น
จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถมิตซูบิชิ ปาเจโร ชนช้างป่า ที่บริเวณ ถ.บ้านบึง-แกลง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 12 มีนาคม 2557 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ขณะที่ช้างป่าที่ถูกรถชนล้ม หลังทีมสัตวแพทย์พยายามยื้อชีวิตแต่ไม่สำเร็จนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 มีนาคม 2557) นายดำรงค์ พิเดช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และหัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย (ทป.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เพราะเกรงว่า ช้าง 2 ตัว ที่เดินมาพร้อมกับช้างตัวที่ล้มและเห็นอุบัติเหตุดังกล่าว อาจมีสัญชาตญาณที่ฝังใจต่อรถสีขาว ต่อไปเมื่อเห็นรถยนต์ โดยเฉพาะรถสีขาว ช้างทั้ง 2 ตัว จะวิ่งเข้าชาร์จ ทำร้ายรถทันที เพราะฝังใจแล้วว่ารถสีขาวคือสิ่งที่ทำให้เพื่อนช้างของมันตาย ซึ่งในเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำป้ายบอกทาง หรือออกประกาศเตือน ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ดังกล่าวด้วย เพราะถือว่าค่อนข้างอันตรายพอสมควร
นายดำรงค์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สิ่งที่พยายามผลักดันตลอดมาเกี่ยวกับการแก้ปัญหาช้างในประเทศไทย คือ การออกตั๋วรูปพรรณแก่ช้างแรกเกิด เพื่อป้องกันการลักลอบขโมยลูกช้างออกมาจากป่า เพราะในขณะนี้มีขบวนการขโมยลูกช้างจากแม่ช้างในป่าอยู่ตลอด สาเหตุเพราะช้างเลี้ยงนั้นจะตั้งท้องได้ยากกว่าช้างป่า แต่มีปางช้างหลายแห่งต้องการลูกช้างมาแสดงมาก ดังนั้นขบวนการขโมยลูกช้างจากป่าจึงมีอยู่เรื่อย ๆ และยังมีปัจจัยอื่นอีกไม่น้อยที่ทำให้ช้างในป่าลดจำนวนลง เช่น ช้างออกมาหาอาหารนอกป่า ไปกินพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน โดนไฟช็อตตาย หรือเดินข้ามถนน ซึ่งถนนที่ช้างเดินข้ามนั้น เดิมทีเป็นพื้นที่ป่าที่ช้างเคยเดินไปมาอยู่เป็นประจำ ต่อมามีการตัดถนนช้างก็ยังคงเดินตามปกติ เพียงแต่มันไม่รู้ว่าตรงไหนป่าตรงไหนถนน จนกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก