พ่ออุ้มบุญญี่ปุ่นฟ้องกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไม่ยอมคืนลูก


นายชิเกตะ มิตซูโตกิ
พ่ออุ้มบุญญี่ปุ่นฟ้องกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไม่ยอมคืนลูก (แฟ้มภาพ)


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          พ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่น ส่งทนายฟ้อง พม. ชี้ครอบครองลูกของตน ด้านปลัด พม. มอบฝ่ายกฎหมายสู้คดี ยันเป็นสิทธิเจ้าพนักงานที่จะต้องให้การดูแลเด็ก ๆ

          วันที่ 13 มกราคม 2558 นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายคุ้มครองเด็ก สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด ได้รายงานเบื้องต้นว่า นายชิเกตะ มิตซูโตกิ ชาวญี่ปุ่นอายุ 24 ปี ซึ่งจ้างหญิงไทยตั้งครรภ์แทน หรืออุ้มบุญ ได้มอบหมายให้ทนายดำเนินการฟ้องร้อง พม. ต่อศาลแพ่ง จ.นนทบุรี กรณีนำลูกของตนไปครอบครอง ซึ่งฝ่ายนิติกรของ พม. จะต้องรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงต่ออัยการ ทั้งนี้โดยหลักการในการทำหน้าที่ของ พม. นั้น ถือว่าเป็นสิทธิในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่จะต้องให้ความคุ้มครองและดูแลเด็กอุ้มบุญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปจับกุมตามอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติใน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

          ด้านนายวัลลภ ตั้งคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.... กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดในสิ่งที่กฎหมายยังไม่ระบุให้ครอบคลุม โดยเฉพาะประเด็นการให้ความคุ้มครองเด็กที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และให้ความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในร่าง พ.ร.บ. ยังให้การดูแลหญิงที่รับหน้าที่ตั้งครรภ์แทน น้อยมาก แต่ไปเน้นในเชิงเทคโนโลยี ดังนั้นจะต้องดูแลและให้ความคุ้มครองหญิงที่ตั้งครรภ์แทนด้วย รวมทั้งความชัดเจนของสามีภรรยาที่ต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย จึงจะสามารถให้ผู้อื่นตั้งครรภ์แทนตามเงื่อนไขที่ระบุในกฎหมาย

          นายวัลลภ กล่าวอีกว่า กรณีที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นชาวต่างชาติและจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขว่าจะต้องจดทะเบียนมาแล้วไม่ต่ำกว่ากี่ปี ซึ่งเป็นประเด็นที่จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันกรณีชาวต่างชาติมาใช้ให้หญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญ อย่างไรก็ตามกรรมาธิการฯ จะประชุมในรายละเอียดอีก 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะเสนอ สนช. วาระ 2 และ 3 ต่อไป

          ทั้งนี้ในส่วนของเด็กอุ้มบุญที่เกิดจากน้ำเชื้อของนายชิเกตะ ซึ่งจ้างหญิงไทยตั้งครรภ์นั้น ยังอยู่ในการดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด 13 คน และยังไม่สามารถนำกลับไปญี่ปุ่นได้ เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด

 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พ่ออุ้มบุญญี่ปุ่นฟ้องกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไม่ยอมคืนลูก โพสต์เมื่อ 13 มกราคม 2558 เวลา 19:57:39 21,602 อ่าน
TOP
x close