วันที่ 11 มีนาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำทีมแถลงข่าวกรณีจับกุม นายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด หรือ เบนซ์ ท่าทราย พ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่เคยประกาศผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กขู่ฆ่าตำรวจ สถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี หมดทั้งโรงพัก ก่อนหลบหนีการจับกุมเข้าไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี
พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญกับคดีดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่อุกอาจ โดยการข่มขู่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และยังเป็นผู้ต้องหาที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นนโยบายสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาล จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 7 ทำการตรวจสอบและติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้จงได้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า เบนซ์ ท่าทราย หรือนายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านท่าทราย ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี เคยมีประวัติและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลายคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2557 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีประจันต์ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า นายเบนซ์ ได้กบดานอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 8 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี จึงได้ทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว แต่นายเบนซ์ ไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปโดยทิ้งยาบ้า 35 เม็ด และอาวุธปืนไว้ในที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัว นางสาวกัลยรัตน์ หรือ เมย์ วงศ์ประสิทธิ์สุข อายุ 25 ปี ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปสอบสวน และขออนุมัติต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ออกหมายจับนายเบนซ์ ฐานร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นายเบนซ์ โกรธเคืองเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้โพสต์ข้อความขู่ฆ่าตำรวจลงในเฟซบุ้ก พร้อมกับออกมาแฉว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เรียกตนเข้าไปเจรจาเรียกรับเงิน จนเป็นที่แพร่หลายในสื่อออนไลน์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเบนซ์ ท่าทราย ได้หลบหนีไปอยู่ตามแนวชายแดน ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ก็ได้มีการสืบสวนติดตามตัวมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันนี้ (11 มีนาคม 2558) สายข่าวรายงานว่าเบนซ์ ท่าทราย อาจเดินทางจากชายแดนพม่ากลับเข้ามาเยี่ยมบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงกำชับให้จุดตรวจทุกจุดตรวจค้นรถทุกคันอย่างละเอียด
จากนั้นในเวลาประมาณ 08.20 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี และทหารกองกำลังสุรสีห์ กาญจนบุรี ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจ อยู่ที่บริเวณแยกน้ำตกตะเคียนทอง เส้นทางจากสังขละบุรี สู่กาญจนบุรี ได้พบรถยนต์ตู้ประจำทางวิ่งจากด่านเจดีย์สามองค์ เข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น และพบชายต้องสงสัย แต่งกายนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ใส่เสื้อสีขาวทับด้วยเสื้อผ้าร่มแขนยาว นั่งปะปนมากับผู้โดยสารคนอื่น จึงสอบถามได้ทำการเรียกตรวจค้นและเข้าสอบถาม ซึ่งชายคนดังกล่าวได้ยอมรับว่าตนเองคือ เบนซ์ ท่าทราย จริง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.สังขละบุรี ต่อไป
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีการเรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดก็จะมีการดำเนินการเอาผิดอย่างเต็มที่โดยไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ยังได้มอบเงินรางวัล 100,000 บาท ที่เคยตั้งรางวัลนำจับเอาไว้ ให้แก่ชุดจับกุมที่ร่วมมือกันจนสามารถจับคนร้ายได้ในครั้งนี้
ด้าน นางกยาศินี คำศรีจันทร์ อายุ 47 ปี มารดาของ เบนซ์ ท่าทราย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการกระทำของลูกตนเองอย่างมาก ทั้งนี้หากเลือกได้ไม่อยากให้ส่งลูกของตนเองกลับไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ โดยจากนี้ไปตนจะไปนอนเฝ้าลูกทุกวัน เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากตำรวจที่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน
สำหรับ "เบนซ์ ท่าทราย" เมื่อปี 2550 ถูกจับกุมในคดีฆ่าผู้อื่น โดยมีชนวนเหตุมาจากการพัวพันยาเสพติด แต่เมื่อเรื่องถึงอัยการได้พิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาโดนจับในคดีจำหน่ายยาเสพติดอีก และเพิ่งพ้นโทษออกมาประมาณ 1 ปี หลังพ้นโทษ "เบนซ์ ท่าทราย" ย้ายไปพักอาศัยเป็นประจำที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ยังคงวนเวียนไปที่บ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี เพื่อซื้อขายยาเสพติด โดยมีผู้ร่วมเครือข่ายเชื่อมโยงหลายรายในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.นนทบุรี และใกล้เคียง รวม 13 คน ต่อมาได้มีภาพและข้อความปรากฏขู่ฆ่าตำรวจในพื้นที่ สภ.ศรีประจันต์ จนเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัว
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN