ตำรวจที่อยู่ในคลิปยกรถไปตรวจสอบ หลังจับหนุ่มไม่มีใบขับขี่ ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมเตรียมฟ้องคู่กรณีที่นำคลิปไปเผยแพร่ ชี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิป "ยกรถไปตรวจสอบ" จากเฟซบุ๊ก ป๋าเทียร์ ประเทศไทย จำนวน 2 คลิป โดยคลิปแรกเป็นเหตุการณ์ขณะตำรวจจราจรกลาง 2 นาย ทำการยึดรถจักรยานยนต์และเคลื่อนย้ายรถขึ้นรถกระบะตำรวจ และระหว่างนั้นก็มีชายคนหนึ่งพยายามจะเข้ามาประนีประนอมแต่ตกลงกันไม่ได้ เลยมีการโต้ตอบกันเล็กน้อย โดยหนุ่มโพสต์คลิปอ้างว่าถูกตำรวจยึดรถจักรยานยนต์ ข้อหาไม่มีใบขับขี่ จนปะทะคารมและมีปากเสียงกัน โดยในภาพแสดงให้เห็นว่าตำรวจไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ พร้อมทั้งท้าให้อัดคลิปด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตรายหนึ่งเข้ามาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถูกบิดเบือน รถจอดบนทางเท้าในที่ห้ามจอดเมื่อขอตรวจสอบหาคู่มือรถหรือสำเนา ปรากฏว่าไม่มี ถามหากุญแจหรือใบขับขี่ก็ไม่มี ทำให้เจ้าพนักงานใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.จราจร ยึดรถไว้ตรวจสอบหากนำคู่มือรถมาแสดงและจ่ายค่าปรับ ก็จะส่งคืนแก่เจ้าของต่อไป
ต่อมา ผู้โพสต์คลิปดังกล่าว ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกครั้งว่า "ความต่อ...ของตำรวจ บอกผมจอดรถบนทางเท้า ทั้ง ๆ ที่ผมขี่รถไปแล้วก็เรียกตรวจผมนะครับ ที่รถผมไปอยู่บนทางเท้า เพราะเขายึดไปแล้ว ก็เลยเอารถไปตั้งบนทางเท้า"
จากนั้น ทางเฟซบุ๊ก ป๋าเทียร์ ประเทศไทย ได้โพสต์คลิปวิดีโอตัวที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อจากคลิปแรก โดยคลิปนี้ได้บันทึกภาพขณะชายคนหนึ่งซึ่งเป็นพ่อของผู้โพสต์ และเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์จนตำรวจเรียกตรวจ ได้เข้ามาคุยแต่กลับโดนตำรวจต่อว่ากลับว่า "เมื่อกี้ไม่ฟังใช่ไหม จิตสำนึกคืออะไร คุณด่าตำรวจนะ" ชายคนดังกล่าวจึงตอบกลับไปว่า "ของแบบนี้มันอะลุ่มอล่วยกันได้"
ซึ่งหลังจากคลิปที่ 2 ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และตั้งคำถามว่าเอาอำนาจอะไรมายึดรถ ด้วยข้อหาแค่ไม่มีใบขับขี่ รวมถึงต่อว่าตำรวจที่ควรจะควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้
ล่าสุด ทาง พ.ต.ท. พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สว.งานสายตรวจ 1 บก.จร. ซึ่งเป็นตำรวจที่อยู่ในคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ถนนเพชรบุรี ประตูน้ำ ย่านมักกะสัน โดยขณะนั้นชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อกมากับแฟน ตนก็เรียกตรวจขอดูใบขับขี่ ก็ปรากฏว่าไม่มี โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่า มีใบสั่ง ตนจึงขอตรวจดูใบสั่งพบว่าเป็นใบสั่งเก่าเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ยังไม่ได้ไปเสียค่าปรับ ซึ่งโดยปกติจะต้องไปเสียค่าปรับภายใน 7 วัน หลังได้รับใบสั่งเพื่อเอาใบขับขี่คืน ไม่ใช่ถือใบสั่งอ้างไปอ้างมาแบบนี้ ตนจึงขอควบคุมรถจักรยานยนต์ไว้ตามกฎหมาย
จากนั้นชายคนนี้ได้โทรศัพท์ให้พ่อช่วยมาเคลียร์ เมื่อพ่อเดินทางมาถึงก็เข้ามาขอกับทางตำรวจ เนื่องจากอยากได้รถคืน แต่พูดคุยในเชิงเซ้าซี้ เดินตามตนขณะตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่หลายรอบ ซึ่งตนก็บอกไปว่าไม่สามารถทำได้ ไม่เช่นนั้นจะตอบเจ้าของรถคันอื่น ๆ ว่าอย่างไร และถ้าปล่อยออกไป ทางตำรวจเองอาจถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
นอกจากนี้ตนขอยืนยันว่า ตนได้ยินพ่อของชายคนดังกล่าวหลุดพูดคำว่า "ไอ้สะอาด ไม่มีจิตสำนึก" ซึ่งตนมองว่าทำแบบนี้เท่ากับด่าตำรวจ ก็ขอยกรถไปที่กองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อทำบันทึกจับกุมและส่งต่อพนักงานสอบสวนภายใน 8 ชั่วโมงตามกฎหมาย ทำให้พ่อของชายคนนี้ตะโกนออกไปว่า "ใครยกรถกู กูต่อย" ตนเลยบอกใครต่อยก็เข้ามาเลย จากนั้นตนจึงให้ลูกน้องยกรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขึ้นรถกระบะตำรวจไป
พ.ต.ท. พัทธนนท์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบหนุ่มที่โดนใบสั่งนี้ เป็นทหารเกณฑ์ที่รอปลดประจำการ เมื่อเจรจากัน จึงตั้งข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อกเพียงข้อหาเดียว ค่าปรับ 500 บาท แต่ทางผู้กระทำผิดมีเงินเพียง 300 บาท ทางตำรวจได้ช่วยออกค่าปรับให้อีก 200 บาท และเจรจาจบลงด้วยดี แต่ไม่ทราบว่าทางคู่กรณีนำคลิปมาแชร์ในโลกออนไลน์อีกทำไม อีกทั้งยังเป็นเพียงเหตุการณ์ไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้ที่ได้ชม จึงเตรียมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไป
world_id:55af750d4d265a614f8b456a
world_id:55b087cb4d265ab04f8b456c
world_id:55b087cb4d265ab04f8b456c
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ป๋าเทียร์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก